ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Wednesday, 20 July 2011

สื่อ การตลาด การเมือง: ย้อนดูงบประชาสัมพันธ์ “ทรท. vs ปชป.”

ที่มา ประชาไท

จากการที่พรรคเพื่อไทยเปรยที่จะตัดงบ “โฆษณารัฐมนตรี” หาเงินซื้อ “แทบเล็ต” ให้เด็กตามนโยบายที่ถูกปรามาสไว้ ลุ้นว่าจะทำได้ไหม และลองย้อนไปดูการใช้งบประชาสัมพันธ์รัฐบาลในช่วง “ไทยรักไทยขาลง” กับ “ประชาธิปัตย์ขาขึ้น”

ในขณะที่หลายฝ่ายกำลัง “จับตา-จับผิด” นโยบายที่พรรคเพื่อไทยได้ประกาศขณะรณรงค์เลือกตั้ง โดยเฉพาะเรื่องค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน และการซื้อแทบเล็ตแจกเด็กประถม ว่าจะหาวิธีการและเงินจากที่ไหนมาขับเคลื่อนนโยบายเหล่านี้

เมื่อวันที่ 18 ก.ค. 54 ที่ผ่านมา นายสุชาติ ธาดาธำรงเวช ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรค เปิดเผยความคืบหน้ากับสื่อมวลชนในการจัดทำนโยบายรัฐบาลว่า อยู่ในช่วงกำหนดรายละเอียด หาทางเลือกและเงื่อนเวลาที่จะนำไปปฏิบัติ นโยบายบางเรื่องทำได้ทันที บางเรื่องต้องออกกฎหมาย แต่หลักๆ จะยึดตามที่หาเสียงเอาไว้ โดยในกรณีของ แจกแทบเล็ตให้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 800,000 เครื่องนั้นจะใช้งบประมาณเพียง 4,000 ล้านบาท ประโยชน์ที่จะได้รับคือลดค่าพิมพ์ตำราเรียนลงได้ เล็งหั่นงบโฆษณารัฐมนตรี

"ผมกำลังคิดว่าจะห้ามบรรดารัฐมนตรีทำโฆษณาตัวเองเหมือนที่รัฐบาลที่ผ่าน มาทำ เพราะมองว่าไม่เกิดประโยชน์ เพื่อเอาเงินเหล่านี้ซื้อแทบเล็ตแจกเด็ก และน่าจะได้งบมากกว่านี้ซื้อแทบเล็ตแจกเด็ก และน่าจะได้งบมากกว่าที่ต้องจ่ายด้วยซ้ำ" สุชาติ กล่าวกับสื่อ

ทั้งนี้เมื่อย้อนอดีตดูการใช้งบประมาณภาษีของประชาชน ในการนำเสนอผลงานของตนเองเมื่อเป็นรัฐบาล “พรรคไทยรักไทย” (ช่วงขาลงก่อนถูกทำรัฐประหาร) และ “พรรคประชาธิปัตย์” (ช่วงพีคสุดขีดเมื่อก้าวขึ้นมาเป็นแกนนำพรรครัฐบาล) จะพบว่ามีการใช้เงินจำนวนมหาศาล และพรรคประชาธิปัตย์ที่เคยตรวจสอบและก่นด่าพรรคไทยรักไทยนั้น ก็ใช้เม็ดเงินที่สูงไม่แพ้กัน ซึ่งอาจเป็นความพยายามสร้างภาพลักษณ์กลบข้อครหาที่ถูกกล่าวว่าเป็น “รัฐบาลที่ตั้งในค่ายทหาร”

0 0 0

6 ​เดือนแรกรัฐบาลไทยรักไทย (ช่วงขาลงก่อนการรัฐประหาร 2549) ใช้งบประมาณกว่า 1,100 ล้านบาท โฆษณาผลงานตัว​เอง

สิงหาคม 2549 - ทีมโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ระบุถึงการใช้งบประมาณประชาสัมพันธ์ของหน่วยงานภาค รัฐ (ภายใต้การนำของรัฐบาลพรรคไทยรักไทย) มีตัวเลขที่เป็นเงินภาษีประชาชนเป็นจำนวนมาก ล่าสุดตั้งแต่เดือนมกราคม — มิถุนายน 2549 พบว่า 6 เดือนที่ผ่านมา หน่วยงานภาครัฐออกสปอตโฆษณาใช้งบประมาณไปทั้งหมด 1,020 ล้านบาท

โดยหน่วยงานที่ใช้งบประมาณสูงสุดในการโฆษณาประชาสัมพันธ์คือ สำนักนายกรัฐมนตรีใช้ถึง 291 ล้านบาท รองลงมาคือ กระทรวงศึกษาธิการ 111 ล้าน กระทรวงพลังงาน และกระทรวงพาณิชย์ตามลำดับ

9 เดือนแรกรัฐบาลประชาธิปัตย์ ใช้งบประมาณ 2,848.5 ล้านบาท

ตุลาคม 2552 - บริษัท AC Nielsen ทำการสำรวจการใช้งบประมาณผ่านสื่อหลักของหน่วยงานภาครัฐช่วง 9 เดือนแรก ภายใต้การนำของพรรคประชาธิปัตย์ พบว่ามีการใช้เม็ดเงินมากถึง 2,848.5 ล้านบาท ในขณะที่กันยายนเดือนเดียวมีการใช้งบประมาณมากถึง 399.3 ล้านบาท โดยแบ่งสัดส่วนเป็นสื่อทีวี ประมาณ 56.3% วิทยุ 19.7% หนังสือพิมพ์ 19.0% แมกกาซีน 1.1% โรงภาพยนตร์ 0.5% เอาต์ดอร์ 1.2% ทรานสิต 0.1% และสื่อในห้างสรรพสินค้า 0.1% ขณะที่สื่ออินเตอร์เน็ต ยังถือเป็นงบที่ใช้น้อยมาก ไม่ถึง 1%

หน่วยงานที่ใช้ งบโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อสูงสุดได้แก่ สำนักนายกรัฐมนตรี 29.7% จากตัวเลข 9 เดือนแรก 2,848.5 ล้านบาท และหน่วยงานที่ใช้รองลงมาคือ กระทรวงสาธารณสุข อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมาภาครัฐจะกระจายงบผ่านสถานีโทรทัศน์ของภาครัฐเป็นส่วนใหญ่ คือ ช่อง 5, 9 และ 11 หรือเอ็นบีที แต่เนื่องจากปีนี้ ภาครัฐมีความต้องการเข้าถึงกลุ่มประชาชนทั่วไปมากขึ้น ทำให้เริ่มมีการใช้งบกับสถานีโทรทัศน์ที่ได้รับความนิยมจากผู้ชมสูง คือ ช่อง 3 และช่อง 7 โดยสถานีโทรทัศน์ที่รัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ใช้งบสูงสุด คือ ช่อง 5 ประมาณ 28.5% ช่อง 9 ใช้ 26.8% ช่อง 11 ใช้ 22.1% ช่อง 3 ใช้ 11.7% และช่อง 7 ใช้ 10.9%


วาทะเด็ด
“หาก จะ​ให้​การ​เมืองสร้างสรรค์ ต้องปรับช่องทาง​การสื่อสาร​ให้​เป็นธรรมมากกว่านี้ ​เปิด​โอกาส​ให้ฝ่าย​ซึ่งอาจจะ​เห็น​ไม่ตรงกับรัฐบาล ​หรือ​เห็น​ไม่ตรงกับฝ่ายอื่น มี​โอกาสออก​ในช่องทาง​การสื่อสารมวลชน ผมคิดว่าจะลดวิกฤต​ได้ ผมคิดว่าสื่อสารอย่าง​ไร​ให้​การ​เมืองสร้างสรรค์นั้น ขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของทุกฝ่ายเป็นสำคัญ ​และขึ้นอยู่กับ​การ​ให้​ความ​เป็นธรรม​ในช่องทาง​การสื่อสาร​เป็นสำคัญ”
สาทิตย์ วงศ์หนอง​เตย
อภิปรายงานสัมมนา ม.​เกริก
หัวข้อ ‘สื่อสารอย่าง​ไร ​ให้​การ​เมือง​ไทยสร้างสรรค์’
23 ส.ค.49
ดูบทวิจารณ์เกี่ยวกับ "สาทิตย์ วงศ์หนองเตย" ในฐานะรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ...
ชำแหละคอนเน็กชั่นยุค “สาทิตย์” ฟาดงบ ปชส.รัฐ 141 ล้าน
“สาทิตย์-มล.พอยศ” และงบ พี.อาร์.รัฐกว่า 39 ล้าน