ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Tuesday, 19 July 2011

นิ่ง-แน่น

ที่มา มติชน



โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

(ที่มา คอลัมน์สถานีคิดเลขที่ 12 หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับประจำวันที่ 17 กรกฎาคม 2554)


น่าสังเกตว่า แม้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะยังไม่ได้นั่งนายกรัฐมนตรี

แต่ทูตทั้งจากประเทศมหาอำนาจ และไม่ใช่มหาอำนาจ ต่างเข้าพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ อย่างคึกคัก

นี่ถือเป็น "มุมบวก" ที่เพื่อไทยต้องตีให้แตกและใช้เป็นประโยชน์

ที่บอกตีให้แตกก็เนื่องจาก ขณะที่ "ต่างชาติ" เชื่อมั่นคนของตัวเอง

แต่เพื่อไทยซึ่งรวมถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลัง เช่น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัวชินวัตร กระทั่งมวลชนคนเสื้อแดง ดูจะไม่ได้ร่วมสร้างความเชื่อมั่นให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์นัก

ตรงกันข้ามในหลายเรื่องกลับฉุดความเชื่อมั่นของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ลงเสียอีก

อยากจะโฟกัสไปที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นพิเศษ เพราะศักยภาพของ พ.ต.ท.ทักษิณสามารถสร้างปัจจัยบวก หรือลบ ให้กับน้องสาว ได้มากที่สุด

อย่าง ที่รู้กัน ขณะนี้หัวใจสำคัญหลังพรรคเพื่อไทยได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้ง 3 กรกฎาคม คือ 1)หน้าตาคณะรัฐมนตรี และ 2)นโยบายที่เพื่อไทยจะทำ

ทั้งสองเรื่องนี้ ควรเป็นภาระหน้าที่โดยตรงของ น.ส.ยิ่งลักษณ์

ส่วนพรรค พ.ต.ท.ทักษิณ มวลชนสนับสนุน ควรจะอยู่ในฐาน "แบ๊กอัพ"

ไม่ใช่ออกมาเล่นบทบาท "ผู้มีบารมีนอกหน้าที่" อย่างคึกคักเสียเอง

น.ส.ยิ่งลักษณ์มีจุดอ่อนตั้งแต่ตัดสินใจเข้าเล่นการเมือง ซึ่งแก้ยากและคงแก้ไม่ได้ นั่นคือ การเป็นตัวแทนของ พ.ต.ท.ทักษิณ

แต่จุดอ่อนนี้จะลดลง หากทุกองคาพยพในพรรคเพื่อไทย รวมถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชัดเจนในแนวทางเดียวกัน

นั่นคือให้จุดศูนย์กลางการขับเคลื่อนอยู่ที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์

ไม่พยายามทำให้เกิดศูนย์การนำหลายศูนย์

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่สัมผัสได้ เช่น การตั้งคณะรัฐมนตรี แทนที่ถนนทุกสายจะมุ่งไปที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์

แต่กลับกลายเป็น พ.ต.ท.ทักษิณ

ซึ่งดูเหมือน พ.ต.ท.ทักษิณดูจะพึงใจไม่น้อยด้วย เพราะไม่อย่างนั้นคงไม่เสียค่าเครื่องบิน จากดูไบ มาบรูไน เพื่อกินข้าวต้มกับใครหรอก

เสียงบ่นเรื่อง "เพื่อนเยอะ" เนื่องจากมี ส.ส.แห่ไปหานั้น ว่าที่จริง หาก พ.ต.ท.ทักษิณจะไม่ให้เกิดสภาพดังกล่าวก็ทำได้

แต่ก็บ่นๆ ไปอย่างนั้นเอง เพราะประตู "ดูไบ" เปิดอ้าซ่า

ทำให้คำตอบของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เรื่องการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี ที่พยายามพร่ำบอกว่าจัดกันในประเทศ ไม่ใช่ต่างประเทศ นั้น

ไม่มีใครเชื่อถือ

ไม่มีใครฟัง

คนที่กำลังจะขึ้นสู่นายกรัฐมนตรี แล้วต้องมาเผชิญกับ "ความไม่เชื่อถือในคำพูด" นั้น คงไม่ต้องบอกว่าเสียหายอย่างไร

เช่นเดียวกับเรื่อง "นโยบาย"

การเพิ่งเข้าสู่สนามเลือกตั้งของ น.ส.ยิ่งลักษณ์เพียง 49 วัน ทำให้ยังหลอมตัวเองเป็นหนึ่งเดียวกับนานานโยบายของพรรคไม่ได้

จะสังเกตได้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ลงในรายละเอียดแต่ละนโยบายไม่ได้

ซึ่งจะโทษ น.ส.ยิ่งลักษณ์ คนเดียวก็ใช่ที่

ทีมงาน รวมถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นมันสมอง ควรจะต้องเร่งช่วยทำให้เธอเข้าใจถ่องแท้ เพื่อที่จะอธิบายกับประชาชนได้

ต้องไม่ลืมว่า นโยบายของพรรคเพื่อไทย กำลังถูกมองว่าทำไม่ได้จริงมากขึ้นทุกที

ทำให้ฉุดความเชื่อมั่นของชาวบ้านลงอย่างมาก

แถมบางวันพี่ชายยังผุดนโยบายออกมาเพิ่มอีก

ทำให้สองสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าที่นายกฯหญิงอยู่ในภาวะอลเวง และมีหน้าที่คอยแก้ข่าวรายวัน

นี่ ถ้า พ.ต.ท.ทักษิณทำตัวให้นิ่ง หลบไปอยู่ข้างหลังแล้วประสานกับพรรคเพื่อไทยช่วยติวและทำการบ้านเสริมความ แข็งแกร่งให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์

ทุกอย่างคงจะดีกว่านี้เยอะ

ถ้าไม่ "นิ่ง-แน่น" พอก็น่าห่วง เพราะตอนนี้ก็เริ่มเห็นขบวนการขัดขวางแปลกๆ และพิสดาร แล้วมิใช่หรือ