โดย สุชาฎา ประพันธ์วงศ์
(หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับประจำวันที่ 11 กรกฎาคม 2554)
จะ เห็นได้ว่าตามหน้าหนังสือพิมพ์ โทรทัศน์ และสื่อออนไลน์ ทั้งไทยและเทศ ต่างช่วยกันประโคมข่าวและภาพว่าที่นายกรัฐมนตรีหญิงที่ปรากฏตัวพร้อมกับ บอดี้การ์ดสาวคอยห้อมล้อม จนทำให้หลายคนอดสงสัยไม่ได้ว่า พวกเธอเหล่านั้นเป็นใครมาจากไหน
ผู้ที่ทำหน้าที่คอยระวังภัยทั้ง ด้านหน้าและด้านหลัง ยืนประกบซ้ายขวา และแหวกหาที่ว่างและทางเดินให้ว่าที่นายกฯหญิงด้วยท่าทางทะมัดทะแมง
มี ภารกิจดูแลความรักษาปลอดภัยให้กับ น.ส. ยิ่งลักษณ์ตั้งแต่ช่วงหาเสียง กระทั่งชนะการเลือกตั้ง จนถึงขณะนี้ บอดี้การ์ดสาวเหล่านั้นก็ยังคงตามมาทำหน้าที่คอยอารักขาว่าที่นายกฯหญิง จนกว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจ
บอดี้การ์ดสาว 4 นาย ที่คอยผลัดเปลี่ยนเข้าเวร รักษาความปลอดภัยให้กับว่าที่นายกรัฐมนตรีหญิงกลุ่มนี้
บาง คนหน้าคมเข้มมีบุคลิกคล้ายผู้ชาย ขณะที่ บางคนคิ้วโก่ง กรีดอายไลเนอร์ ทาปาก แต่งแต้ม เติมสีสันใบหน้าแบบสุภาพสตรีที่รักสวยแต่พองาม สไตล์หญิงแกร่ง
บางครั้งต้องยืนสงบนิ่งเหมือนหุ่นยนต์ เดินผ่านไปแบบไม่แวะทักทายใครเลย แม้แต่เสียงเจรจาโต้ตอบก็ยังไม่เล็ดลอดออกมาจากริมฝีปากบอดี้การ์ดสาวเหล่า นั้นเลย แต่อาจจะเผยให้เห็นแค่รอยยิ้มจางๆ ที่ส่งกลับมาเป็นคำทักทายแทนคำพูด
เนื่อง จากทุกคนต่างมุ่งมั่นปฏิบัติภารกิจ ตั้งอก ตั้งใจทำงาน คอยระแวดระวัง สอดส่ายสายตาตลอดเวลา จับจ้องไม่ให้ว่าที่นายกรัฐมนตรีหญิงคลาดสายตาแม้แต่นาทีเดียว
จึง มีคำถามที่หลายคนสงสัยว่า บอดี้การ์ดสาวเหล่านี้เป็นใคร มาจากหน่วยงานใด ฉะนั้น ผู้ที่จะให้ความกระจ่างในเรื่องนี้ได้ คือ หน่วยงานต้นสังกัด ที่ส่งบอดี้การ์ดสาวมาดูแลความปลอดภัยให้กับ น.ส.ยิ่งลักษณ์
พล.ต.ท.ประยูร อำมฤต ผู้บัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน (ผบช.ตชด.) บอกว่า ตำรวจหญิง ที่ส่งไปดูแลความปลอดภัยให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์นั้น มีการส่งตัวไปตั้งแต่เมื่อครั้งเริ่มหาเสียงในต่างจังหวัด ซึ่งเป็นไปตามระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ที่ผู้สมัคร ส.ส.ทุกคนสามารถร้องขอกำลังไปช่วยคุ้มครองรักษาความปลอดภัยได้ในช่วงหาเสียง เลือกตั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็จะดูแลไปจนกว่าจะได้รับการเลือกตั้งเข้ามาเป็นผู้แทน หรือจนกว่ามีการเข้ารายงานตัวเป็น ส.ส.อย่างเป็นทางการ แต่เมื่อไม่ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส.แล้ว ก็เท่ากับว่าภารกิจเสร็จสิ้น
ตำรวจ หญิงที่ถูกส่งตัวไปดูแล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในครั้งนี้ มีจำนวน 4 นาย เป็นตำรวจตระเวนชายแดนจากกองบังคับการสนับสนุนทางอากาศ (พลร่ม) ผู้ทำหน้าที่ดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับว่าที่นายกรัฐมนตรี ที่ชนะการเลือกตั้งให้เป็น ส.ส. ก่อนจะมอบอำนาจให้หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรงดูแลต่อไป
ภารกิจ การดูแลความปลอดภัยนายกรัฐมนตรี ถือ ว่าเป็นหน้าที่ของ ตร. ในการจัดกำลังอารักขา เช่นเดียวกับที่ผ่านมา ในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ทาง สตช. ก็ต้องส่งกำลังไปอารักขาผู้นำวีไอพี
พล.ต.ท.ประยูร อำมฤต |
ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับว่าทาง ตร.จะส่งกำลังจากหน่วยใดไปรับผิดชอบ
สำหรับ ตชด. เป็นหน่วยงานหนึ่งที่มีการฝึกกำลังเพื่อดูแลความปลอดภัยวีไอพี เป็นภารกิจที่ต้องมีการจัดอบรมเป็นพิเศษ นอกเหนือจากภารกิจในการปราบปราม ซึ่งทุกคนจะต้องผ่านหลักสูตรเดียวกันทั้งชายและหญิง ดังนั้นทุกคนจะมีพื้นฐานแบบเดียวกัน คือ สามารถยิงปืน ขับรถ โดดร่ม และอื่นๆ ที่ตำรวจพลร่มฝึกฝน
"การฝึกของตำรวจหญิงก็เหมือนกับ ตำรวจชายทุกอย่าง เป็นพื้นฐานที่ตำรวจทุกคนต้องผ่านการฝึก แต่จะมีการอบรมหลักสูตรพิเศษสำหรับคนที่จะออกไปทำหน้าที่อารักขาคือ หลักสูตรรักษาความปลอดภัย ตำรวจที่จะไปทำหน้าที่ รปภ. จะต้องเรียนเพิ่มเติม ซึ่งจะมีการอบรมเกี่ยวกับการยืน การเดิน การสังเกต เป็นวิชาเฉพาะที่ใช้ดูแลบุคคลสำคัญ ผู้ที่จะผ่านวิชานี้ได้จะต้องมีความอดทน ในบางภารกิจอาจจะต้องอดหลับอดนอน หรือแบบว่า ตื่นก่อน นอนทีหลัง"
ฉะนั้น ทีมรักษาความปลอดภัยที่เป็นตำรวจหญิงกลุ่มนี้ จึงมีอายุประมาณ 20-35 ปี มีความคล่องแคล่ว และอยู่ในวัยทำงาน จึงเหมาะที่จะทำหน้าที่บอดี้การ์ด เพราะต้องมีความพร้อมทั้งร่างกายและวิชาการดูแลความปลอดภัยด้วย เนื่องจากภารกิจที่ต้องคอยประกบ ดูแล และบางครั้งต้องไปเฝ้าตลอดเวลา แต่ก็มีตำรวจหญิง 4 นาย ที่จะหมุนเวียนกันไป
ผู้บัญชาการตชด.ยัง กล่าวอีกด้วยว่า ภารกิจนี้ไม่ใช่ดูแลนายกฯหญิงคนเดียวเท่านั้น แต่ที่ผ่านมามีการส่งตำรวจหญิง ไปดูแลภรรยานายกฯ และแขกวีไอพี ที่ร้องขอกำลังที่เป็นสุภาพสตรีไปดูแลวีไอพีที่เป็นผู้หญิง อาจจะมีหน้าที่คุ้มครองหรือช่วยกันมวลชน หรือบางตำแหน่งก็เหมาะกับตำรวจหญิง เข้าไปปฏิบัติภารกิจในการดูแลผู้ชายก็มีเช่นกัน กรณีที่ต้องมีการพบปะกับมวลชนที่เป็นสุภาพสตรี
ทั้งนี้ ภารกิจดูแลความปลอดภัยระดับวีไอพี จึงเป็นหน้าที่ของตำรวจสันติบาล แต่หากเจ้าหน้าที่จากหน่วยสันติบาลไม่เพียงพอ ทาง ตชด.ถือว่าเป็นหน่วยงานหนึ่งที่มีความพร้อมในการส่งกำลังเข้าไปช่วยเสริม
อย่างไรก็ตาม บอดี้การ์ดสาวไม่ใช่เรื่องใหม่ที่เกิดขึ้นในการเมืองไทย ก่อนหน้านี้สมัยรัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ก็เคยมีการจัดบอดี้การ์ดสาวเข้ามาคอยดูแล เมื่อเห็นว่านักข่าว ส่วนใหญ่เป็นสุภาพสตรี แต่ก็ทำได้เพียงชั่วครู่เท่านั้น ก่อนจะกลับมาใช้การ์ดผู้ชาย
ขณะที่ รัฐสภา สถานที่ซึ่ง ส.ส.ทุกคนต้องนั่งประชุม ได้จัดเตรียมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยผู้หญิง เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการดูแล พิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร บอกว่า ทางรัฐสภามีการจัดระบบดูแลรักษาความปลอดภัยแก่นายกรัฐมนตรี ที่อาจจะเป็นสุภาพสตรี คงมีการเสริมกำลังเจ้าหน้าที่โดยเฉพาะทหาร หรือตำรวจหญิง โดยส่วนนี้เป็นเรื่องของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะจัดกำลังเข้ามาดูแล ส่วนของสภา มีทีมรักษาความปลอดภัยที่เป็นผู้หญิงดูแลอยู่ส่วนหนึ่งอยู่แล้ว ซึ่งอาจจะมีการเพิ่มขึ้นอีก
หากนายกรัฐมนตรีเป็นสุภาพสตรีจริง งานนี้คงจะได้เห็นบอดี้การ์ดสาวสวย ประกบติดเป็นวอลเปเปอร์ ประดับฉากนายกฯหญิง ดูสบายตาขึ้น แม้อาจจะไม่ผุดผ่อง เพราะผิวกรำแดด ฝึกฝนมานาน แต่ก็ยังพอน่าดูชม