ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Tuesday, 12 July 2011

จับตา"ครม.ปู1"ใต้เงาแม้ว-เสื้อแดง

ที่มา มติชน



คอลัมน์ รายงานพิเศษ

ผ่านมา 1 สัปดาห์กับชัยชนะถล่มทลายที่พรรคเพื่อไทยได้รับ พร้อมกับการฟอร์มทีม ครม.ปู 1 ที่มีการวิ่งล็อบบี้ฝุ่นตลบทั้งในเมืองไทยและขยายวงไปถึงต่างแดน

โฉม หน้า ครม.ปู 1 จะออกมาแจ่มแจ๋วหรือมีเสียง "ยี้" ตามมา จะหนีพ้นเงาของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้หรือไม่ และหากมีการ ตั้งแกนนำคนเสื้อแดงเข้ามาเป็นรัฐมนตรีจะกระทบต่อภาพลักษณ์และการบริหาร ประเทศในอนาคตหรือไม่ ดังนี้



สิงห์ชัย ทุ่งทอง

ส.ว.อุทัยธานี


ราย ชื่อที่ออกมายังไม่นิ่ง คิดว่าลึกๆ ยังมีหลายอย่างที่ลับ ลวง พราง เดี๋ยวมีชื่อคนนั้น คนนี้หลุดออกมา แต่รายชื่อจะนิ่งจนกว่าจะถึงวันเปิดสภาแล้วเลือกนายกรัฐมนตรี

การที่มีชื่อนายโอฬาร ไชยประวัติ จะมาดูแลด้านเศรษฐกิจ คิดว่าจะหน้าตาดีเลยทีเดียว เพราะเป็นบุคคลที่มีความสามารถมาก

ส่วน ที่มีชื่อแกนนำ นปช.มานั่งรัฐมนตรีนั้น ผมคิดว่าถ้าพรรคเพื่อไทยฉลาดในการเลือกบุคคลมาเป็นรัฐมนตรี หรือตำแหน่งอื่นๆ ควรรอ 6 เดือน หรือ 1 ปี ค่อยเอาแกนนำเสื้อแดงมาเป็น จะดีกว่า ตอนนี้ไม่ควร ถ้าเอาชื่อมาแล้วบางคนอาจออกมาต่อต้านได้

ใน ส่วนว่าที่ส.ส.ใหม่ และแกนนำพรรคขนาดกลางเดินทางไปพบพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นั้น เป็นเรื่องธรรมดา เพราะทราบดีว่าใครมีอิทธิพลตัวจริงในการตั้งรัฐบาลชุดนี้ แต่ไม่เชื่อว่าจะไปเพื่อต่อรอง บีบคอพ.ต.ท.ทักษิณ ให้ได้ตำแหน่งนั้นตำแหน่งนี้ เพราะเรื่องตำแหน่งรัฐมนตรีเป็นหน้าที่ของน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่าที่นายกฯ และกุนซือ ที่จะวางตัวบุคคลไว้

แต่การที่พ.ต.ท.ทักษิณ จะให้คำแนะนำน.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นเรื่องที่ถูก เพราะเขาเป็นพี่น้องกัน ถ้าน.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่เชื่อพี่ชายแล้วจะเชื่อใคร

ผมคิดว่าพรรคเพื่อไทยไม่ควรปล่อยเวลาตั้งรัฐบาลออกไปเรื่อยๆ ควรเร่งตั้งรัฐบาล เพื่ออุดไม่ให้มีช่องว่างออกมาต่อรองตำแหน่ง

ถ้า เข้ามาเป็นรัฐบาลแล้วตำแหน่งข้าราชการประจำ ทั้งผบ.ตร. ผบ.ทบ.ที่มีคนนั่งทำงานอยู่แล้ว อย่าไปปรับเปลี่ยน เพราะจะเป็นประเด็นให้ฝ่ายตรงข้ามหยิบมาโจมตีได้



สุธาชัย ยิ้มประเสริฐ

อาจารย์คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

การ จัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีอาจจะยากเพราะเป็นเรื่อง ผลประโยชน์ ซึ่งผมเห็นใจน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร คงจะเผชิญกับความลำบาก แต่เชื่อว่าจะเลือกจากคนที่มีความสามารถอยู่แล้ว ผมอยากให้เลือกคนที่ทำงานได้ ไม่ขัดแย้งกันเอง

ส่วนพรรคร่วมที่ ขอกระทรวงเดิมนั้น ไม่ควรให้ โดยพรรคเพื่อไทยควรเอามา บริหารเองดีกว่าโดยเฉพาะกระทรวงพลัง งาน ซึ่งพรรคมีคนที่ทำงานได้อยู่แล้ว

ส่วน การวางตัว ครม. โดยข้อเท็จจริง พ.ต.ท.ทักษิณคงเข้ามาเกี่ยวข้องจริง แต่ น.ส.ยิ่งลักษณ์จะเป็น คนตัดสินใจเอง หรือถ้าจะปรึกษาหารือกันก็เป็นเรื่องธรรมดา ตอนที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ตั้งครม.ก็ไม่ได้ตั้งเองคนเดียว มีรายการ "คุณขอมา" มาก

ผมมองว่าการ จะเอาคนของ นปช.มาเป็นรัฐมนตรีไม่ใช่เรื่องเสียหาย เพราะมีหลายคนที่มีความรู้ความสามารถ ซึ่งแล้วแต่ใครจะมองว่าเป็นเรื่องผลประโยชน์ต่างตอบแทนหรือไม่ ถ้ามองว่าการเข้ามาเป็นรัฐมนตรีเป็นการทำงานอย่างหนึ่ง ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร

คนเสื้อแดงหรือเสื้อสีอะไรก็ทำงานได้ ไม่อยากให้ตัดสิทธิ์ เพราะเป็นคนละเรื่องกัน



สมชาย ภคภาสน์วิวัฒน์

อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์


การ ตั้ง ครม.ครั้งนี้มีสิ่งที่เหมือนกับรัฐบาลชุดก่อนๆ คือเป็นการจัดอำนาจต่อรองของกลุ่มต่างๆ จึงต้องจัดสัดส่วนของพรรคที่เข้าร่วม แต่สิ่งที่ต่างกันคือ การบริหารจัดการ มีคนที่มีอำนาจเหนือพรรค คนที่ทำให้พรรคได้คะแนนเสียงนั่นคือ พ.ต.ท. ทักษิณเข้ามาเป็น ผู้กำหนดด้วย

รัฐบาลชุดนี้ยัง มีการวางแผนการจัดการให้รัฐมนตรี ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นขุมกำลังเท่านั้น แต่ต้องเป็นหมากตัวหนึ่งด้วย จึงต้องเป็นคนที่คุยกันรู้เรื่อง สามารถเดินตามแผน ตามกลยุทธ์ที่วาง ไว้ได้

ฉะนั้นกระทรวงสำคัญที่ เกี่ยวข้องกับความมั่นคง เช่น กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย คงอยู่ในมือพรรคเพื่อไทย ส่วนกระทรวงอื่นๆ เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณŒ อาจอยู่กับพรรคร่วม ที่ไว้ใจได้ เข้าขากันได้ เช่น พรรคชาติไทยพัฒนา

ครม.ถ้า สวยอย่างเดียว หรือขี้เหร่ทั้งหมดคงอยู่ไม่ได้ ดังนั้น ครม.ที่ออกมาคงมีทั้งที่สวยและไม่สวย ที่สวยอาจเลือกจากคนภายนอก แต่ต้องเป็นคนที่ไว้ใจได้

อย่างไรก็ตาม ผมไม่เชื่อว่าคนเสื้อแดงจะไม่ได้รับตำแหน่งรัฐมนตรี เพราะเป็นกลุ่มที่มีอำนาจต่อรองสูงทั้งในและนอกพรรค เขาถือว่าทำประโยชน์ให้ และต้องทวงบุญคุณแน่นอน ไม่มีทางที่จะไม่ได้อะไรเลย เพียงแต่จะได้มากหรือน้อย ถ้าได้น้อยคงชดเชยด้วยอย่างอื่นให้ แม้จะมีคนที่ไม่เห็นด้วย แต่คงทำอะไรไม่ได้



สมชัย ศรีสุทธิยากร

ผอ.ศูนย์วิจัยและติดตามนโยบายภาครัฐ มหาวิทยาลัยศรีปทุม


ทุก คนคาดหวังอยากเห็น น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นจุดเริ่มต้นการเปลี่ยนแปลง ระบอบการเมืองไทยเดิมๆ จากระบบโควตาที่ใช้จำนวน ส.ส. เป็นเครื่องชี้วัดตำแหน่ง โดยไม่คำนึงถึงคุณสมบัติ ของผู้ที่มีความเหมาะสม หันมาคัดเลือกคนที่มีความสามารถอย่างแท้จริงมาช่วยบริหารบ้านเมือง และ ในพรรคเพื่อไทยเองมีคนที่มีความรู้ความสามารถ อยู่มาก ถ้ารู้จักเลือกใช้คนการทำงานเป็นทีมจะยิ่งมี ประสิทธิภาพมากขึ้น

กรณีจะ นำตัวแทนกลุ่ม นปช.มาดำรงตำแหน่งสำคัญๆ นั้น ผมไม่อยากให้มองเป็นเรื่องของกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะเข้ามามีอิทธิพลต่อการ เมือง หรือการตอบแทนพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แต่อยากให้มองที่ความสามารถและความตั้งใจจริงที่เคยประกาศไว้ว่าจะสร้างแนว ทางสมานฉันท์ ไม่คิดแก้แค้นใคร

ดังนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องออกมาแสดงบทบาทหน้าที่การบริหารประเทศให้ชัดเจนเป็นที่ ประจักษ์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น ความน่าเชื่อถือต่อความไว้วางใจที่ประชาชนมอบให้

ประการสำคัญต้องไม่ ลืมสิ่งที่เคยสัญญาไว้กับประชาชนในนโยบายต่างๆ เพราะทุกวันนี้ดูเหมือนว่านโยบายเหล่านั้นจะมีเงื่อนไขมากขึ้น รวมถึงนโยบายสร้างความปรองดองของคนในชาติ ควรเร่งดำเนินการอย่างจริงจัง เพื่อให้สังคมไทยกลับมาสงบสุขและสามัคคีกันอีกครั้ง



ประจักษ์ ก้องกีรติ

อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์


การ จัดตั้ง ครม.ของน.ส. ยิ่งลักษณ์ประชาชนตั้งความหวังไว้มากที่จะนำความเปลี่ยนแปลงที่ดีมาสู่สังคม ไทย ดังนั้น ควรคัดเลือกผู้ที่มีความสามารถอย่างแท้จริงเข้ามาทำหน้าที่รัฐมนตรี และต้องก้าวข้ามระบบปัญหาโควตาไปให้ได้ รวมถึงส.ส.เองต้องรู้จักเสียสละ ไม่ยึดติดจำนวนที่นั่งตามเสียงข้างมากที่ได้รับ

นอกจากนี้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ควรลดบทบาทการเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการดึงตัวหรือจัดตั้งใครในครม. ถ้าอยากเห็นประเทศชาติเกิดความปรองดอง

ที่ สำคัญรัฐบาลชุดใหม่ต้องแสดงภาวะผู้นำที่ชัดเจนต่อการบริหารประเทศ ไม่อยู่ใต้คำสั่งของใคร เรื่องใดที่ควรเด็ดขาดก็ต้องเด็ดขาด ทุกฝ่ายต้องเสียสละซึ่งกันและกัน เพื่อนำพาประเทศชาติดำเนินต่อไป

หากทำได้ รัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์จะเป็นรัฐบาลที่สร้างความมั่นใจแก่ประชาชนได้ในระยะยาว

หน้า 3,หนังสือพิมพ์ข่าวสด ประจำวันอังคารที่ 12 กรกฎาคม 2554