ชกไม่มีมุม
วงค์ ตาวัน
ขนาดกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งมากด้วยไมตรีต่อรัฐบาลอย่างยิ่งในเหตุการณ์ความรุนแรงกลางเมืองครั้งนี้ ยังต้องเอ่ยปากถึงพ.ร.ก.ฉุกเฉินว่า รัฐบาลควรยกเลิกได้แล้ว
*น.พ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กล่าวว่า เมื่อเหตุการณ์ปกติแล้ว รัฐควรใช้กฎหมายปกติ เช่น กฎหมายอาญา*
จากการตรวจสอบของกสม.เองพบว่า มีการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินนำตัวผู้ต้องสงสัยมาควบคุมและจำกัดสิทธิเสรีภาพ ละเมิดสิทธิมนุษยชน เช่น นายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ หรือนายสมบัติ บุญงามอนงค์
ทั้งๆ ที่เป็นสิทธิทางการเมืองเพื่อแสดงการคิดต่างจากรัฐบาล ไม่ใช่กรณีที่จะใช้กฎหมายพิเศษควบคุม
หมอนิรันดร์บอกด้วยว่า การใช้กฎหมายต้องใช้คุ้มครองหรือสร้างความเป็นธรรมให้ประชาชน ไม่ใช่ใช้ทำลายหรือละเมิดสิทธิมนุษยชน
รวมทั้งเตือนด้วยว่า ยิ่งใช้พ.ร.ก.ยิ่งไม่เกิดปรองดอง และจะเป็นแนวร่วมมุมกลับ ทำให้เกิดสถานการณ์ใต้ดิน
นั่นเป็นท่าทีของกก.สิทธิ์ ที่เริ่มเห็นว่ารัฐบาลใช้อำนาจเกินขอบเขต
แม้แต่มิตรยังเริ่มรับไม่ไหว
ไม่เท่านั้น ล่าสุดยังมีเหยื่อการใช้อำนาจบ้าระห่ำอีก คือ นายวสันต์ แสงรัศมี หนุ่มกู้ภัย ซึ่งทำงานช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ในเหตุความรุนแรง
*เคยทวงถามความเป็นธรรมให้กับเพื่อนอาสา*
มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยถึง 4 คนที่ถูกยิงตาย ขณะทำหน้าที่อาสากู้ภัยอาสากาชาด รวมทั้ง น้องเกด ที่ถูกยิงอย่างเหี้ยมโหดในวัดปทุมวนาราม ทั้งที่ใส่ชุดมีตรากาชาดแท้ๆ
นายวสันต์เคลื่อนไหวหาคนฆ่าเพื่อน รวมทั้งในฐานะผู้เห็นเหตุการณ์ในวัดปทุมฯตลอดทั้งคืน!
มีคนเคยห่วงใยเกรงว่าจะถูกปิดปาก
แล้วจะให้ตีความอย่างไร เมื่อนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เซ็นหมายศอฉ.ให้ไปรายงานตัว
ทั้งที่นายวสันต์ไม่ได้ปลุกม็อบ แค่พูด แค่เรียกร้อง
ถ้ามองในฐานะเป็นพยานปากเอกกรณี 6 ศพ ซึ่งหน่วยงานสากลกำลังสอบสวนอยู่
แบบนี้ตีความได้ว่า กำลังคุกคามพยาน!
พูดกันจริงๆ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่สามารถป้องกันเหตุระเบิดได้หรอก ถ้ามีคนจ้องก่อเหตุหรือมีคนจ้องจะจัดฉากสร้างสถานการณ์ มันต้องเกิดวันยังค่ำ
แต่อิทธิฤทธิ์ของพ.ร.ก.นี้ ที่เห็นได้ชัดเจนมากกว่า
*คืออำนาจล้นฟ้า จะเรียกใครมาควบคุมตัวได้ง่ายๆ ไม่ต้องมีข้อหา ไม่ต้องมีความผิด*
ถ้าแสดงความบริสุทธิ์ใจไปรายงานตัว
ต้องไปนอนที่คลอง 5 ยาวนานแน่นอน!
วงค์ ตาวัน
ขนาดกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งมากด้วยไมตรีต่อรัฐบาลอย่างยิ่งในเหตุการณ์ความรุนแรงกลางเมืองครั้งนี้ ยังต้องเอ่ยปากถึงพ.ร.ก.ฉุกเฉินว่า รัฐบาลควรยกเลิกได้แล้ว
*น.พ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กล่าวว่า เมื่อเหตุการณ์ปกติแล้ว รัฐควรใช้กฎหมายปกติ เช่น กฎหมายอาญา*
จากการตรวจสอบของกสม.เองพบว่า มีการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินนำตัวผู้ต้องสงสัยมาควบคุมและจำกัดสิทธิเสรีภาพ ละเมิดสิทธิมนุษยชน เช่น นายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ หรือนายสมบัติ บุญงามอนงค์
ทั้งๆ ที่เป็นสิทธิทางการเมืองเพื่อแสดงการคิดต่างจากรัฐบาล ไม่ใช่กรณีที่จะใช้กฎหมายพิเศษควบคุม
หมอนิรันดร์บอกด้วยว่า การใช้กฎหมายต้องใช้คุ้มครองหรือสร้างความเป็นธรรมให้ประชาชน ไม่ใช่ใช้ทำลายหรือละเมิดสิทธิมนุษยชน
รวมทั้งเตือนด้วยว่า ยิ่งใช้พ.ร.ก.ยิ่งไม่เกิดปรองดอง และจะเป็นแนวร่วมมุมกลับ ทำให้เกิดสถานการณ์ใต้ดิน
นั่นเป็นท่าทีของกก.สิทธิ์ ที่เริ่มเห็นว่ารัฐบาลใช้อำนาจเกินขอบเขต
แม้แต่มิตรยังเริ่มรับไม่ไหว
ไม่เท่านั้น ล่าสุดยังมีเหยื่อการใช้อำนาจบ้าระห่ำอีก คือ นายวสันต์ แสงรัศมี หนุ่มกู้ภัย ซึ่งทำงานช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ในเหตุความรุนแรง
*เคยทวงถามความเป็นธรรมให้กับเพื่อนอาสา*
มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยถึง 4 คนที่ถูกยิงตาย ขณะทำหน้าที่อาสากู้ภัยอาสากาชาด รวมทั้ง น้องเกด ที่ถูกยิงอย่างเหี้ยมโหดในวัดปทุมวนาราม ทั้งที่ใส่ชุดมีตรากาชาดแท้ๆ
นายวสันต์เคลื่อนไหวหาคนฆ่าเพื่อน รวมทั้งในฐานะผู้เห็นเหตุการณ์ในวัดปทุมฯตลอดทั้งคืน!
มีคนเคยห่วงใยเกรงว่าจะถูกปิดปาก
แล้วจะให้ตีความอย่างไร เมื่อนายสุเทพ เทือกสุบรรณ เซ็นหมายศอฉ.ให้ไปรายงานตัว
ทั้งที่นายวสันต์ไม่ได้ปลุกม็อบ แค่พูด แค่เรียกร้อง
ถ้ามองในฐานะเป็นพยานปากเอกกรณี 6 ศพ ซึ่งหน่วยงานสากลกำลังสอบสวนอยู่
แบบนี้ตีความได้ว่า กำลังคุกคามพยาน!
พูดกันจริงๆ พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่สามารถป้องกันเหตุระเบิดได้หรอก ถ้ามีคนจ้องก่อเหตุหรือมีคนจ้องจะจัดฉากสร้างสถานการณ์ มันต้องเกิดวันยังค่ำ
แต่อิทธิฤทธิ์ของพ.ร.ก.นี้ ที่เห็นได้ชัดเจนมากกว่า
*คืออำนาจล้นฟ้า จะเรียกใครมาควบคุมตัวได้ง่ายๆ ไม่ต้องมีข้อหา ไม่ต้องมีความผิด*
ถ้าแสดงความบริสุทธิ์ใจไปรายงานตัว
ต้องไปนอนที่คลอง 5 ยาวนานแน่นอน!