ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Thursday, 24 June 2010

ไม่มีใครเท่า

ที่มา ข่าวสด

คอลัมน์ เหล็กใน




รัฐบาลเริ่มหน้ามืด หยิบฉวยแทบทุกอย่าง เพื่อผลประโยชน์ และความอยู่รอดของตัวเอง

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทาบทามบุคคลที่มีชื่อเสียงที่สังคมบางกลุ่มเงี่ยหูรับฟัง มาเป็นพวกพ้อง เป็นไม้เป็นมือให้ได้

ทั้งนายคณิต ณ นคร นายอานันท์ ปันยารชุน และน.พ.ประเวศ วะสี

แอ่นอกยอมรับเป็นประธานคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริง เพื่อความปรองดองแห่งชาติ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์การปฏิรูปประเทศ และประธานคณะกรรมการสมัชชาปฏิรูปประเทศ

แต่ดูเหมือนว่าเสียงตอบรับไม่ค่อยดังนัก เพราะชาวบ้านอีกกลุ่มหนึ่งยังมีความรู้สึกว่าทั้ง 3 คน แค่เป็นเครื่องมือ ยอมรับงาน เพื่อช่วยยืดอายุรัฐบาลมากกว่า

ล่าสุด นายคณิต กลับประสบปัญหา ยังไม่สามารถสรรหาคณะกรรมการมาร่วมได้ทัน ต้องขอขยายเวลาออกไปอีก 15 วัน

ขณะที่นายอานันท์ระบุว่าขอเวลาอีก 3 วัน พร้อมกับอ้างว่ามีรายชื่อบุคคลอยู่ในใจแล้ว ประมาณ 15-20 คน แต่จะต้องหารือกับน.พ.ประเวศก่อน

อย่างไรก็ตาม กรณีนายอภิสิทธิ์สั่งการให้ทหารใช้ความรุนแรงกับประชาชน จนเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บล้มตายจำนวนมากนั้น

ต่างประเทศและองค์กรทางด้านสิทธิมนุษยชนของโลก รับไม่ได้

บ้างก็ออกมาประณาม บ้างก็ขอมีส่วนร่วมในการสอบสวนค้นหาความจริง

แต่นายอภิสิทธิ์ปฏิเสธ อ้างว่าเป็นเรื่องภายในประเทศ

ขณะเดียวกัน ก็เรียกประชุมทูตานุทูตต่างประเทศ เพื่อชี้แจงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

แต่ดูเหมือนว่ายิ่งชี้แจง ก็ยิ่งเข้าตัว จนต้องโยนให้ศอฉ.อธิบายแทน

ในสายตาของต่างชาติ มองว่ารัฐบาลนี้ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรง

กรณีนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรแห่งประเทศไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา ได้รับเลือกจากที่ประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ(เอชอาร์ซี) สมัยที่ 14 ให้เป็นประธาน

เป็นอีกกรณีที่นายอภิสิทธิ์รีบโดดรับลูกทันทีว่า

"นี่เป็นการยืนยันว่าต่างประเทศเข้าใจสถานการณ์ของไทย ผมค่อนข้างมั่นใจว่าประเทศกว่า 40 ประเทศที่ให้การสนับสนุน เขาได้แสดงความเข้าใจในสถานการณ์ของไทยมาโดยตลอด ถ้าได้อ่านคำแถลงของรัฐบาลประเทศสหรัฐ ผู้แทนสหภาพยุโรป และกลุ่มประเทศอาเซียน ไม่มีตรงไหนที่เขามองว่าเราไปดำเนินการสิ่งที่ไม่ถูกต้อง"

เป็นข้ออ้างแบบเดียวกันเด๊ะ กับกรณีนายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ระบุว่าที่พรรคประชาธิปัตย์ ชนะการเลือกตั้งส.ข. เพราะชาวกรุงเทพฯ เห็นว่ารัฐบาลทำในสิ่งที่เหมาะสม

เรื่องพูดเอาดีใส่ตัว ไม่มีใครเท่า