ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Thursday, 24 June 2010

ตัวตน"เสธ.แดง"จากคำไว้อาลัย

ที่มา ข่าวสด

รายงานพิเศษ




งานพระราชทานเพลิงศพ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ที่วัดโสมนัสราชวรวิหาร เจ้าภาพแจกหนังสืออนุสรณ์งานพระราชทานเพลิงศพ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ให้แขกเหรื่อที่ร่วมไว้อาลัย

หนังสือหน้าปกพื้นสีแดง มีลายเซ็นเสธ.แดง ตัวสีทอง ภาพ 4 สี หนา 169 หน้า ช่วงแรกเป็นประวัติ ต่อด้วยคำไว้อาลัยกลางเล่มเป็นรูปงานสวดพระอภิธรรมศพ รูปถ่ายพล.ต.ขัตติยะ สมัยเด็กๆ รูปรับราชการ รูปที่ถ่ายกับครอบครัว และรูประหว่างการเข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มคนเสื้อแดง จากนั้นเป็นเรื่องเล่าจากคมเสธ.แดง

คำไว้อาลัย เขียนโดยบุคคลต่างๆ ทั้งในส่วนของคนสนิทที่มีชื่อเสียง เช่น นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี นายวินัย รูปขำดี อดีตคณบดีคณะพัฒนาสังคม นิด้า รวมถึงพระ บุคคลที่นับถือ ลูก ญาติและคนใกล้ชิด รวมถึงเพื่อนฝูง

โดยมีเนื้อหาบางช่วงบางตอน น่าสน ใจ ดังนี้



... ผมเรียนพ.ต.ท.ทักษิณ ลำพังคนเสื้อแดงให้ออกมามากกว่านี้ 2-3 เท่า ก็ไม่ประสบความสำเร็จ ท่านต้องมีอำนาจที่ 3 ตลอดระยะเวลาที่คุยกันผมสังเกตสีหน้าท่าทางกิริยาของท่าน ท่านให้ความสำคัญกับยุทธวิธีของคนเสื้อแดงในภาพของแม่น้ำสีแดงทุกสายไหลมารวมกันที่กรุงเทพฯ กรุงเทพฯก็จะนองไปด้วยสีแดง มากกว่ายุทธวิธีของผม

ค้างอยู่ 2 คืน ก็เดินทางกลับประเทศไทย พอเท้าแตะประเทศไทย ผมก็รับการตอบรับจากนายจตุพร พรหมพันธุ์ ทั้งวิทยุ และทีวีด่าผมกับเสธ.แดง เหมือนเป็นศัตรูกันมา 100 ชาติ

ผมจึงโทร.ถึงพ.ต.ท.ทักษิณ ผมและเสธ.แดง ขอถอนตัว ผมขอไม่ยุ่งด้วยเพราะผมไม่อยากมีปัญหา จะเกิดการแตกแยก แม้แต่ท่านเองก็ยังควบคุมและสั่งเขาไม่ได้ ผมขอนั่งอยู่เฉยๆ

ผมก็บอกเสธ.แดง ก็โทร.ถึงผมในเรื่องที่เขาจะถูกปลด และถอดยศ ผมยังบอกให้เขาออกมาอันตรายมาก และจะไม่ปลอดภัย สัญชาตญาณเตือนผม เพราะผมเคยเป็นหัวหน้าชุดล่าสังหารมาก่อน เป้าหมายที่ต้องกำจัดคือ หัวหน้า แกนนำ และผู้สนับสนุน แต่เสธ.แดงก็บอกไม่เป็น ไรพี่ ผมระวังตัวอยู่แล้ว และผมคอยเอามวลชนของผมกลับบ้าน

หลังจากนั้น 3 วัน ตอนค่ำๆ วิทยุและทีวีออกข่าวแทบทุกช่องว่าเสธ.แดง ถูกซุ่มยิง....

พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี



...เพราะเชื่อมั่นและเลื่อมใสในระบอบประชาธิปไตย และรักความยุติธรรมเป็นชีวิตจิตใจ จึงเข้าร่วมขบวนการต่อสู้กับกลุ่มนปช. (คนเสื้อแดง) ที่ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยและความยุติธรรมให้เกิดขึ้นในชาติ และเป็นเหตุที่ทำให้ถูกลอบสังหารโดยคำสั่งของคณะผู้ขลาดเขลา ที่ไม่กล้าแม้จะสู้กันซึ่งๆ หน้า ตามแบบฉบับของผู้กล้า....

พล.ท.ประสิทธิ์ โยธีพิทักษ์



...พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล นายพลทหารบก. เสธ.แดง ของสาธารณะ หรือ ยะ ยี่เอ๋ง ของเพื่อนๆ หนุ่ม 11 ไม่ว่าเพื่อนจะอยู่ในสมญานามใดก็ตาม เพื่อนแดงยังคงมีคุณลักษณะที่เป็นหนึ่งเดียวไม่เคยเปลี่ยนไปตามกาลเวลาและสถานการณ์ ตั้งแต่วันแรกที่ผมรู้จักเพื่อนจวบจนวันที่เพื่อนได้จากพวกเราไป เพื่อนเป็นนักสู้ผู้ยิ่งใหญ่ เป็นนักรบที่กล้าหาญ ผู้ไม่เคยย่อท้อ มีลักษณะผู้นำ รักเพื่อนพ้องและลูกน้อง และรักความยุติธรรมอย่างเป็นชีวิตจิตใจ..



พล.อ.อดุล อุบล เพื่อนร่วมรุ่นตท.11



...ที่เพื่อนยะ(เสธ.แดง) รัก จะเห็นได้จากเมื่อมีผู้บังคับบัญชาสูงสุดของหน่วยงานหนึ่งมากล่าวร้าย "กองทัพบกมาเฟีย" "กองทัพบกเป็นผู้มีอิทธิพล" เพื่อนยะ (เสธ.แดง) เป็นนายทหารคนเดียวที่ออกมาปกป้องกองทัพบก ในขณะที่คนอื่นมองเพื่อนยะ (เสธ.แดง) ว่า ซ่า อยากดัง จนถูกอุ้มถึง 2 ครั้ง ด้วยเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง โดยไม่มีใครมาปกป้องช่วยเหลือเพื่อนยะ (เสธ.แดง) จึงต้องต่อสู้คดีความต่างๆ ด้วยตัวเองมาตลอดตั้งแต่บัดนั้น...

พล.อ.ฉัตรชัย ธรรมรักษา

ประธานคณะกรรมการบริหาร ตท.11



...สมญานาม "ยะ ยี่เอ๋ง" มาจากไหน สำหรับเพื่อนต่างเหล่าอาจจะนึกว่าอยู่ๆ แดงมันนึกครึ้มอกครึ้มใจเลยเขียนชื่อขึ้นมาเอง แต่สำหรับนักเรียนนายร้อยจปร. ปีที่ 1 พวกเราคงพอจำกันได้ว่าตอนเรารับตำราเรียน เขาแจกหนังสือมาให้เป็นตั้งๆ ...ส่วนใหญ่จะเป็นตำราวิชาการทหาร แต่ขาดเสียมิได้คือหนังสือสามก๊กฉบับเจ้าพระยาพระคลัง

...ยี่เอ๋ง เป็นตัวเอกตัวหนึ่ง... วันมาพบโจโฉ ยี่เอ๋งแต่งกายซอมซ่อ โจโฉเห็นก็ไม่ชอบกล่าวตำหนิเสื้อผ้าของยี่เอ๋ง ยี่เอ๋งขัดใจขึ้นมาจึงกล่าวกับโจโฉว่า "เสื้อผ้าที่เราใส่มานี้เป็นของนอกกาย ถึงแม้จะเก่าสกปรก แต่สิ่งที่อยู่ภายในคือร่างกายของเรานี่เป็นสิ่งบริสุทธิ์" ว่าแล้วก็แก้ผ้าให้โจโฉดูซะเลย ...ตั้งแต่นั้นมา ขัตติยะ สวัสดิผล จึงใช้สมญา "ยะ ยี่เอ๋ง" เขียนหนังสือร่วมกันกับผมในการรายงานข่าวสาร สาระความเป็นไปของรุ่น โดยเรื่องต่างๆ ที่แดงเขียนเล่าในวารสาร "หนุ่ม 11" ตอนนั้น ก็นำมารวบรวมเป็นเล่มรวม 7 เล่ม ใช้ชื่อว่า "คม เสธ.แดง" ในปัจจุบัน

...สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะกล่าวถึง "เสธ.แดง" ซึ่งบุคคลภายนอกอาจไม่ทราบคือ แดงจะเป็นคนไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เล่นการพนัน สิ่งเหล่านี้ติดตัวแดงมาตั้งแต่เด็กๆ เข้าเป็นนนร. จนสำเร็จเป็นนายทหาร แดงก็ไม่เคยข้องแวะกับอบายมุขเหล่านี้

เสธ.แดง เป็นพวกต้องการล้มล้างสถาบัน?

เสธ.แดง เป็นแกนนำ นปช. คนหนึ่งที่นิยมความรุนแรง?

ข้อหาแรกผมตอบแทนมันเลย เพราะขณะนี้แดงมันไม่มีปัญญาจะมาแก้ตัวกับใครได้ ตลอดระยะเวลา 42 ปี ที่เราคบกัน ผมเห็นแดงมัน ทะเลาะกับเขาไปทั่ว ตั้งแต่ทะเลาะกับอดีตอธิบดีตำรวจ 2 คน ทะเลาะกับอดีตผบ.ทบ. ทะเลาะกับรุ่นพี่ที่มันเห็นว่าทำไม่ถูก ทะเลาะกับนักการเมืองบางคน ฯลฯ ผมจาระไนไม่ครบหรอกว่าแดงไปทะเลาะกับใครบ้าง เพราะ แต่ละห้วงเวลาบางเรื่องมันยาวนานจนจำไม่ได้ แต่ 42 ปีที่ผ่านมา ผมไม่เคยได้ยินแดงกล่าวถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ในทางที่เสียหายเลย คนที่จบจากสถาบันทหารได้รับการปลูกฝังให้เสียสละชีวิตได้เพื่อปกป้องสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ คนที่เคยได้รับพระราชทานของตรวจเยี่ยมจากพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเสด็จฯ เยี่ยมถึงฐานปฏิบัติการ ทหารทั้งประเทศจะมีสักกี่คนกันที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณเหมือน "เสธ.แดง"

เสธ.แดง เป็นแกนนำ นปช. คนหนึ่งที่นิยมความรุนแรง?

คำตอบคือ ถูกต้อง...ทหารทุกคนนิยมความรุนแรง ไม่ว่าท่านจะเป็นคนสุภาพเรียบร้อย ไม่ว่าท่านจะเป็นคนมีเมตตากรุณา ไม่ว่าท่านจะเป็นคนมุทะลุดุดัน เมื่อท่านเข้ามาเป็นทหาร ท่านจะถูกฝึกทันที ท่านจะถูกหล่อหลอมจากกระบวนการทางทหารที่ได้รับการพัฒนา แก้ไข ปรับปรุง มาโดยตลอดว่าท่านจะต้องเสียสละได้แม้แต่ชีวิต เพื่อปกป้องชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

เมื่อถึงคราวจำเป็นท่านต้องสามารถเข่นฆ่าศัตรูได้ด้วยอาวุธที่ท่านมีอยู่ ทหารจะฝึกให้รักหมู่ รักคณะ ให้มีความรักใคร่ สามัคคี สิ่งต่างๆ เหล่านี้จะถูกปลูกฝังเข้าไปในสมองของทหารทุกคน ไม่ว่าจะเป็นพลทหาร, นายสิบ หรือนายทหาร กระบวนการเหล่านี้เป็นกระบวนการของการฝึกทหารทั้งประเทศทั่วโลก เพราะเขาต้องการฝึกคนให้ออกมาเป็นเครื่องจักรสังหารเพื่อปฏิบัติภารกิจศักดิ์สิทธิ์ คือปกป้องประเทศชาติ

ดังนั้น ที่ผมบอกทหารทุกคนนิยมความรุนแรง จึงเป็นความจริงแม้แต่ผู้เขียนเอง แต่การนิยมความรุนแรงนั้นมันซ่อนอยู่ภายใต้จิตสำนึก ใครที่เป็นผู้มีจิตใจเมตตา กรุณา มีนิสัยสุภาพ อ่อนโยน ความรุนแรงนั้นมันก็ซ่อนอยู่ลึกหน่อย เพราะนิสัยดั้งเดิมไม่ให้ ใครที่มีนิสัยโกรธง่าย ฉุนเฉียว โทสะ การนิยมความรุนแรงมันก็อยู่ตื้น มีอะไรมากระทบมันก็แสดงออกมาโดยทันที

ดังนั้น ประเทศที่เจริญแล้วทั่วโลกเขาจึงไม่ใช้กำลังทหารสลายฝูงชน เขาจะใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือกำลังที่ถูกฝึกมาโดยเฉพาะต่อภารกิจนี้เท่านั้น เพราะหากใช้ทหารเข้าไปปฏิบัติภารกิจ ผมบอกได้เลย ไม่ว่าทหารจะมีวินัยแค่ไหนก็ตาม เมื่อเห็นเพื่อนเจ็บ เพื่อนตาย จิตใต้สำนึกของการนิยมความรุนแรงจะถูกกระตุ้นให้ทหารพร้อมที่จะใช้ความรุนแรงตอบโต้

ผลจากเหตุการณ์ระหว่างเดือนเม.ย.-พ.ค. ที่เกิดขึ้น มีการเสียชีวิต-บาดเจ็บของทุกฝ่ายจำนวนมาก ชีวิตทุกชีวิตของพวกเขามีค่าทั้งนั้น เพราะเขามีญาติ พี่ น้อง พ่อแม่ ทุกคน อย่าใช้ความตายของพวกเขาเป็นข้ออ้างเพื่อรักษาอำนาจ วาสนา ไม่ว่าจะเป็นของใครก็ตาม...

พล.ท.ชาย คำวงษา

ประธานบริหารนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้ารุ่นที่ 22



"ไอ้ตี๊ มึงไปบอกมันเลยให้ยกกำลังมา มาทำยุทธหัตถีกัน กูไม่กลัวมึง"

ผมสวนกลับไปทันที

"ไอ้แดงมึงฟังกู ไม่มีใครเค้าทำยุทธหัตถีกับมึงหรอก เขาจะยิงกบาลมึง มึงระวังตัวให้ดี!"

นี่คือ บทสนทนาทางโทรศัพท์มือถือ ที่ผมได้คุยกับเพื่อนแดง เมื่อวันอังคารที่ 12 พ.ค. 2553 ตอนเย็น ในระยะหลังๆ (6-7 เดือนที่ผ่านมา) ผมจะโทร.หาแดง คุยกันเกือบจะทุกวัน ทุกครั้งที่คุยกัน ผมก็จะเตือนมันทุกครั้งด้วยความเป็นห่วงกังวลว่ามันจะถูกเก็บ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการคุยกันครั้งสุดท้ายดังกล่าวข้างต้น ผมยิ่งกังวลใจมาก เพราะตอนเช้าวันอังคารนั้นผมได้เข้าไปที่หน่วยงานหน่วยงานหนึ่ง และได้ยินเพื่อนคนหนึ่งพูดว่า "ภายในอาทิตย์นี้ ไอ้แดง ตายห่าแน่" แล้วมันก็ถูกยิงตายจริงๆ...

เสธ.ตุ๊ เพื่อนเสธ.แดง



...พระหมอดูวัดแก้วฟ้า อ.เสาไห้ จ.สระบุรี ทำนายไว้เมื่อผมรับราชการอยู่ที่จ.สระบุรี ว่าภรรยาผมจะมีบุตรอีก 2 คน ตาย 1 อยู่ 1 แต่เลี้ยงยาก ต้องเลี้ยงให้ดี เลี้ยงดีเป็นดีเลิศ ถ้าเลี้ยงไม่ดีก็ตรงกันข้าม

ต่อมาผมย้ายมารับราชการที่จ.ราชบุรี นึกถึงคาถาท่านพระครูศรีศรัทธาสุนทร เจ้าคณะตำบลวัดขนอน ต.สร้อยฟ้า อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ให้คำสอนว่าก่อนหลับตานอนกับภรรยา ให้สวดมนต์ไหว้พระแล้วเสกท้องภรรยาเสีย 2 จบด้วยคาถานี้

"มาตาปิตุ อุปัตฐนัง ปุทารัตะสังฆะโห"

เมื่อเข้านอนก็สวดมนต์เสกท้องภรรยามิให้ขาด มิช้าภรรยาก็ตั้งครรภ์... พอครบเก้าเดือนคลอดเป็นชาย แล้วทำไมมันจะมีอันเป็นไปก็ไม่รู้...

..ต่อมาไม่นานเดือนก็เริ่มตั้งครรภ์ขึ้นอีก นึกถึงคำทำนายของพระวัดแก้วฟ้า ว่าคนนี้ต้องเป็นชายและต้องอยู่ คาถาของพระครูศรีศรัทธาสุนทร คงไม่ทิ้ง

เมื่อท้องครบกำหนดเป็นชาย ไม่หายใจ คุณหมอมีสงกรานต์ก็ตกตะลึง คุณหมอสนทองเอาผ้าห่มไปซุกไว้ข้างฝา ทำธุระแม่จนขึ้นกระดานไฟเรียบร้อยแล้ว ก็หันไปแก้ห่อลูกยังไม่หายใจตามเคย

จึงจับ 2 เท้า หิ้วหัวลง แล้วตบตูดเสียงร้องแว้ พากันดีใจ

"ขัตติยะ" รูปร่างสมบูรณ์ มีขวัญ 3 ขวัญ รกพันคอลงมาพันระหว่างขายุ่งเหยิง เมื่อครบกำหนด 1 เดือนก็กำหนดโกนผมไฟ พอพระอุบาสิกามาถึงบ้านไม่หายใจเสียแล้ว

หมอยรรยงค์ โพธารามิก เฝ้าดูอาการ จะฉีดยาให้ ผมไม่ให้ฉีด เพราะตายก็จะโทษหมอ คุณหมอเอาสำลีรอที่จมูกไม่มีลม

นึกถึงคำทำนายของพระหมอดูวัดแก้วฟ้าไว้ว่าชีวิตยังคงอยู่ นึกถึงคาถาหลวงปู่ (พระครูศรีศรัทธาสุนทร) ว่าคนดีมาเกิด ก็เริ่มให้อุบาสิกาสวดสลับกับพระ พระและชีสวดกันจนมีลมหายใจขึ้นมา เมื่อฟื้นแล้วใครเอาเงินมาลงขันไม่รับ กลัวจะเป็นการแลกเปลี่ยนชีวิตลูก

เอาพระเครื่องรางเก่าแก่สมัยเชียงแสนมีมากองค์ "กรุเชียงแสน" ที่เก็บไว้ 3 ศึกผ่านมาแล้ว เอาออกมาแจกจ่ายขอชีวิตลูกให้อยู่ตลอดไป

พออายุย่างเข้า 1 ขวบ ป่วยหนักอีกโดยอุจจาระขาว ไปรักษาที่นครปฐม 1 เดือนค่อยทุเลา แต่กระเสาะกระแสะอยู่ตลอดเวลา ญาติๆ บอกว่าชื่อขัตติยะสูงไป วาสนาเด็กไม่ถึง

ผมนึกขึ้นได้ว่าคุณแม่ผมฝันเมื่อผมเกิด ในหลวงร.5 พระราชทานมาให้ผมเกิด ผมจึงจุดธูปเทียนบูชาบอกในหลวง ร.5 ลูกไม่เคยเจ็บป่วยต่อมาอีกเลย...

ร.อ.สนิท สวัสดิผล บิดาเสธ.แดง