ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Tuesday, 24 January 2012

สมศักดิ์ เจียมฯ :Irony (ตลกร้าย) ของการเคลื่อนไหว 112 ของ “นิติราษฎร์-ครก.112”: เกิดจาก “อากง” แต่คงไม่ได้ช่วยอะไร “อากง”

ที่มา Thai E-News


คง ปฏิเสธไม่ได้ว่า ที่การเคลื่อนไหวเรื่อง 112 ของ “นิติราษฎร์-ครก.112” ในขณะนี้ ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางนั้น เป็นผลสะเทือนมาจากการตัดสินกรณี “อากง” เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน 2554 (คือ 2 เดือนมาแล้ว)

ความ “ช็อก” ที่เกิดจากคำตัดสินนั้น บวกกับการตัดสินคดี โจ กอร์ดอน และการยืนยันคำตัดสินกรณี ดา ตอร์ปิโด ที่ตามมาในระยะเวลาไล่เรี่ยกัน บวกกับการตั้งข้อหาอาจารย์สุรพศ ทวีศักดิ์ และ “ก้านธูป” และ บวกกับการที่สหรัฐอเมริกา (รวมทั้งรอยัลลิสต์บางคนเองอย่าง อานันท์ ปัญยารชุน ฯลฯ) ได้ออกมาแสดงท่าทีเรียกร้องให้มีการแก้ไข 112.... เหล่านี้ ทำให้เกิดเป็นกระแสที่ทำให้การเคลื่อนไหว 112 ของ “นิติราษฎร์-ครก.112” คราวนี้ ดูเหมือนจะได้รับเสียงตอบรับอย่างไม่เคยมีมาก่อน

ถ้า ลองเปรียบเทียบกับเมื่อ “นิติราษฎร์” เสนอร่างแก้ไข 112 ครั้งแรก เมื่อเดือนมีนาคม ปีกลาย แม้จะเกิดขึ้นในระยะใกล้กับที่ สุรชัย แซ่ด่าน และ สมยศ พฤกษาเกษมสุข ถูกจับกุมตัว แต่ก็ไม่ได้ทำให้เกิดเป็นกระแสอะไรมากนัก .... ต้องยอมรับว่า สำหรับชนชั้นกลางบ้านเรา แม้แต่ผู้ที่เอนเอียงไปในทาง “เสรีนิยม” รวมทั้งบรรดานักวิชาการต่างๆ กรณีสุรชัย-สมยศ ไม่สามารถทำให้เกิดความไม่พอใจกันได้มากนัก (เป็นความจริงว่า ส่วนหนึ่งมาจากการที่ทั้งคู่ “เพียงถูกจับ” ไม่ได้ถูกตัดสิน – “อากง” เอง ถูกจับเข้าคุกเป็นปี ก่อนที่จะมีคำตัดสิน ก็ไม่ได้มีคนให้ความสนใจมากนัก – แต่การตัดสินลงโทษหนัก โดยตัวเอง ก็ไม่ใช่ว่าจะทำให้คนไม่พอใจกันเหมือนกรณี “อากง” ถ้าเราดูกรณีก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็น “ดา ตอร์ปิโด” หรือ “หนุ่ม นปช.usa.” ซึ่งโดนโทษจำคุกไปคนละหลายๆปี)

โดยสรุปแล้ว กรณี “อากง” เป็น “จุดเปลี่ยน” สำคัญ ที่ทำให้การเคลื่อนไหว 112 ของ “นิติราษฎร์-ครก.112” ครั้งนี้ ได้รับการตอบรับในลักษณะนี้

แต่ irony (ตลกร้าย) ของเรื่องนี้คือ การเคลื่อนไหวที่เกิดจากกรณี “อากง” นี้ ในที่สุด คงจะไม่สามารถช่วยอะไร “อากง” ได้ (อย่างน้อย ขณะนี้ ก็ผ่านมา 2 เดือนเต็มๆแล้ว “อากง” ที่ทำให้หลายคนโกรธ และเสียใจ กับ คำตัดสินที่ไม่ยุติธรรม ก็ยังคงอยู่ในคุกต่อไป ... และถ้าจะว่าไปแล้ว ก็ไม่ค่อยมีคนพูดถึงโดนตรงนักแล้ว โดยเฉพาะ ไม่มีการพูดกันว่า ตกลงจะมีทางช่วย “อากง” ผู้ซึ่งความทุกข์สาหัสจากคำตัดสิน เป็น “ต้นเหตุ” ของ “ความตื่นตัว” เรื่อง 112 ครั้งนี้ได้อย่างไร แม้แต่ในระหว่างการ “เปิดตัว” รณรงค์ของ “นิติราษฎร์-ครก.112” เอง

ตั้งแต่ที่ เริ่มมีคำตัดสินกรณี “อากง” และ อาจารย์ ดร.ปวิน (ชัชวาลพงศ์พันธ์) ออกมารณรงค์ เรื่อง “ฝ่ามืออากง” และมีคนเข้าร่วมอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะชนชั้นกลางเสรีนิยมในเมือง ผมก็ได้เสนอต่อ ดร.ปวิน ว่า แม้การเคลื่อนไหว “ฝามืออากง” จะเป็นเรื่องดี แต่ในที่สุด เราต้องมีมาตรการ หรือ ข้อเสนอ รูปธรรมว่า จะทำอย่างไร ให้ “อากง” เป็นอิสระ หลุดพ้นคดีโดยสิ้นเชิง (คือหมายความว่า ต่อให้ศาลเห็นการเคลื่อนไหวในลักษณะ “ฝ่ามืออากง” แล้ว จะเปลี่ยนใจ ยอมให้ “อากง” ประกันตัว มาสู้คดีในชั้นอุทธรณ์ ผมก็เห็นว่า เป็นเรื่องไม่ยุติธรรม ต้องหาทางให้คดียุติโดยสิ้นเชิงมากกว่า) ซึ่ง ผมก็เสนอว่า มีอยู่ทางเดียวเท่านั้น คือ น่าจะรณรงค์ ผลักดันเสนอให้มีการ “ออก พรบ.นิรโทษกรรม” แก่ “อากง” และผู้ตัองหาคดี 112 คนอื่นๆ (ถ้าไม่นับการที่ผู้ต้องหา “สารภาพ” ซึ่งก็ไมใช่การสิ้นสุดคดีโดยแท้จริง แม้จะรอ “อภัยโทษ” ออกมา ก็มีคำตัดสินผิด ติดตัว)

ผมได้เสนอด้วยว่า การเสนอให้ออก พรบ.นิรโทษกรรม ดังกล่าว น่าจะทำในลักษณะเป็นการ “นิรโทษกรรมทั่วไป คดีการเมือง หลัง รัฐประหาร 19 กันยา” โดยให้ แยก คดีของคนธรรมดาทั่วไป คือ คนที่โดนคดี 112 ทุกคน บวกกับทั้งเสื้อแดงและพันธมิตร ระดับที่ไมใช่แกนนำ (คือไม่นับรวมเอากรณีทักษิณ หรือ แกนนำพันธมิตร หรือ ผู้นำรัฐบาลและทหาร ไว้ด้วย) ซึงก็จะทำให้สามารถช่วยเหลือ คนเสื้อแดง ระดับชาวบ้านธรรมดา ทีหลายคนถูกตัดสินจำคุกคนละหลายสิบปีไปแล้ว (เช่น คดีเผาจวน) อีกหลายคนก็ยังถูกคุมขัง โดยทีทั้งหมดนี้ ทั้ง นปช. และรัฐบาลเพื่อไทย ไม่มีทีท่าว่าจะสนใจทุ่มเทหาทางช่วยให้เป็นอิสระโดยแท้จริงแต่อย่างใด

น่า เสียดายว่า ข้อเสนอของผม ไม่ได้รับการตอบรับจากทั้ง ดร.ปวิน และบรรดาท่านที่กำลัง “ฮือฮา” กับการเข้าร่วมการเคลื่อนไหวในลักษณะ “ฝ่ามืออากง” หรือ “อภัยยาตรา” เป็นต้น

แล้วก็มาถึงกรณีการเคลื่อน ไหว 112 ของ “นิติราษฎร์-ครก.112” ในขณะนี้ ที่มีนักวิชาการที่มีชื่อเสียงจำนวนมากเข้าร่วมอย่างไม่เคยมีมาก่อน

อย่าง ไรก็ตาม ความจริงคือ เช่นเดียวกับการเคลื่อนไหว “ฝ่ามืออากง”, การรณรงค์ 112 ของ “นิติราษฎร์-ครก.112” นี้ จะไม่มีทางทำให้ “อากง” เป็นอิสระได้เลย เพราะไม่มีทางที่สภาจะผ่านร่างกฎหมายที่กำลังล่ารายชื่อนี้อยู่เลย ผม ได้เสนอว่า ถ้าประเมินแบบ realistic (สมจริง) จริงๆ อย่างมากที่สุด ถ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรเกี่ยวกับ 112 ก็คงได้แค่ระดับที่ “คอป.” เสนอ แต่แม้ข้อเสนอ “คอป” เอง (ทีให้กลับไปใช้โทษแบบก่อน 6 ตุลา) ถ้าจะเป็นไปได้จริง ก็จะต้องมีเหตุการณ์ “ระดับปาฏิหาริย์” เกิดขึ้นก่อน ซึงในขณะนี้ ก็ไม่มีทีท่าว่าจะมีแต่อย่างใด (ผมเขียนประเด็นนี้ ก่อนที่ “คอ.นธ.” จะเสนอเรื่อง 112 ออกมา ซึ่งแย่กว่าข้อเสนอของ “คอป.” เสียอีก)

เกี่ยว กับประเด็นนี้ ผมเสียดายที่ ในการ “เปิดตัว” ครก.112 เมื่อวันที่ 15 ที่ผ่านมา นักวิชาการบางท่าน เช่น ดร.พวงทอง พูดราวกับว่า ร่างของ “นิติราษฎร์-ครก.112” มีความเป็นไปได้ของการผ่านสภา (“ถ้าร่างฉบับนี้ ผ่านสภา ก็เชื่อว่า จะทำให้การอภิปรายเรื่องสถาบันกษัตริย์ อย่างมีเหตุผล เพิ่มมากขึ้น ...” อะไรทำนองนี้) ผมเห็นว่า นี่เป็นเรื่องไม่ถูกต้อง การพูดในลักษณะ “ให้ความหวัง” แบบลมๆแล้งๆหรือ ประเมินแบบ ไม่สมจริงเช่นนี้ ยังดี ที่เมื่อวันที่ 22 ที่ผ่านมา ดร.วรเจตน์ ได้พูดในลักษณะที่ realistic หน่อย คือ ได้ยอมรับกับประชาชนตรงๆว่า ถ้าร่างไปถึงสภาแล้ว ถูกปฏิเสธ หรือ ตกไป ก็คงทำอะไรไม่ได้

ที่ผมเสียใจและเสียดายมากๆคือ “กระแสสูง” เรื่อง 112 อันเกิดจากกรณี “อากง” ในครั้งนี้ ในที่สุด จะไม่สามารถช่วยอะไร “อากง” ได้

ผมเอง มีความเห็นว่า สิ่งที่ความจริง “นิติราษฎร์-ครก.112” น่าจะทำ คือเรื่องในลักษณะต่อไปนี้

(1) “นิติราษฎร์” น่าจะเสนอให้เลิก กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ โดยสิ้นเชิง ไมใช่เสนอให้แก้ ในลักษณะที่เสนอไป

[* ความเห็นนี้ ถ้าใครได้ตามอ่าน facebook ของผม ที่ปิดไปแล้ว ก็คงทราบกันดี ในที่นี้ ผมจึงไม่ขออธิบายละเอียด แต่จะขอเรียนเพิ่มเติมเพียงว่า ก่อนการ “เปิดตัว” ครก.112 ไม่กี่วัน อาจารย์ “นิติราษฎร์” คนสำคัญท่านหนึ่ง ได้กรุณาให้เกียรติเขียนจดหมายถึงผมเป็นส่วนตัว อธิบายชี้แจงข้อที่ผมไม่เห็นด้วยกับร่าง “นิติราษฎร์” ... อย่างไรก็ตาม หลังจากอ่านทบทวนจดหมายดังกล่าวแล้ว ประกอบกับติดตามการแถลงในวัน “เปิดตัว” ของ “นิติราษฎร์” และนักวิชาการ นักเขียน ที่ร่วมใน “ครก.112” ตังแต่วันที่ 15 มาจนบัดนี้ ผมขออภัยที่จะแจ้งว่า ผมยืนยันไม่เปลี่ยนความเห็นเรื่องนี้ ... ผมจะหาโอกาสอธิบายเรื่องนี้โดยละเอียดในโอกาสอื่น]

สำหรับนักวิชาการ นักเขียน ฯลฯ ที่เข้าร่วมเป็น “ครก.112” สนับสนุน ร่าง “นิติราษฎร์” อย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้ หาก “นิติราษฎร์” หันมาเสนอให้เลิกกฎหมายหมิ่นฯ โดยสิ้นเชิงตามที่ผมเสนอเช่นนี้ ถ้าบรรดานักวิชาการ นักเขียน ฯลฯ เหล่านั้น จะให้การสนับสนุนด้วย ก็คงเป็นการดี แต่หาก “ไม่พร้อม” จะให้การสนับสนุน “นิติราษฎร์” ก็ควรเสนอไปเอง

ไม่ว่าอย่างไร การเสนอให้เลิก กฎหมายหมิ่นฯ โดยสิ้นเชิง เช่นนี้ ไม่ควรทำในลักษณะ ล่ารายชื่อ เสนอต่อสภาฯ เพราะไม่มีประโยชน์ ไม่มีทางจะนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงอะไรในขณะนี้ได้ (แต่ต้องย้ำว่า ที่ทำอยู่ขณะนี้ ก็ไม่มีทางเช่นกัน ดังกล่าวแล้วข้างต้น) “นิติราษฎร์” (และนักวิชาการ, นักเขียน ฯลฯ ที่ “พร้อม” จะสนับสนุน) ควรเพียงแต่เสนอเรื่องนี้ ในลักษณะเป็น “ไอเดีย” สำหรับรณรงค์ทางความคิดในระยะยาว (ทำนองเดียวกับที่เสนอเมื่อปีกลาย ที่ไม่ได้ทำการล่ารายชื่อ)

และที่สำคัญ เพราะผมมีข้อเสนออื่น สำหรับการรณรงค์ล่ารายชื่อ ที่คิดว่ามีประโยชน์-ได้ผลกว่าในขณะนี้ แทน นั่นคือ

(2) “นิติราษฎร์” และนักวิชาการ นักเขียน ฯลฯ ควรหันมารณรงค์ ทำเป็น “ร่าง พรบ.นิรโทษกรรมทั่วไป คดีการเมือง” ทีจะครอบคลุมถึงผู้ต้องหา 112 ทุกคน (ดา ตอร์ปิโด, อากง, โจ, หนุ่ม นปช.usa, สมยศ, สุรชัย ... ย้อนหลังไปถึงสุวิชา ท่าค้อ และคนอื่นๆที่ตัดสินไปแล้ว และออกจากคุกหลังการ “สารภาพ-ขออภัยโทษ” ไปแล้ว เพื่อให้ไม่มีประวัติคดีติดตัวเลย) และบรรดาคนระดับธรรมดาๆ ของทั้งเสื้อแดง และพันธมิตร (คดีเผาจวน, คดีปล้นห้างเซ็นทรัลเวิร์ล ฯลฯ)

โดยที่ ควรทำการล่ารายชื่อ เพื่อเสนอ “ร่าง พรบ.นิรโทษกรรมทั่วไป” ที่ว่านี้ เข้าสู่สภาฯ

ผมเชื่อว่า แม้ โอกาสสำเร็จในเรื่องนี้ จะไม่ถึงกับมาก แต่รับประกันว่า มากกว่าการล่ารายชื่อเรื่อง 112 ที่กำลังทำกันอยู่นี้ อย่างชนิดเทียบกันไม่ได้แน่นอน เพราะกรณีที่กำลังทำกันนี้ ต้องการ “ยิ่งกว่าปาฏิหาริย์” เสียอีก (ซึ่งคงไม่เกิดแนนอน ดังที่เสนอข้างต้นว่า อย่างมากที่สุด “ปาฏิหาริย์” อาจจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบที่ “คอป.” เสนอ แต่ก็ยังไม่มีวี่แววเลย แม้แต่ระดับนี้)

คงจะจำกันได้ว่า ก่อนหน้านี้ “พรรคเนวิน” เคยเสนอไอเดียทำนองนี้มาก่อน (แม้จะคงไม่ได้คิดจะรวมคดี 112 ไว้ด้วย) ผมจึงเห็นว่า ไอเดียเรื่อง “นิรโทษกรรมทั่วไป” ไม่ถึงกับเป็นไอเดียที่ เป็นไปไม่ได้เลยในขณะนี้ (ต่างกับสิ่งที่ ครก.112 กำลังทำอยู่) ปัญหาที่อาจจะเป็น “จุดสะดุด” ที่ใหญ่ที่สุด คือเรื่องคดี 112 นั่นแหละ คดีการเมืองอื่นๆ ถ้าจะเรียกร้องให้ นิรโทษกรรม คนธรรมดา ไม่รวมทักษิณ, แกนนำพันธมิตร, ผู้นำรัฐบาล-ผู้นำทหาร อาจจะมีความเป็นไปได้สูงไม่น้อย แต่นี่เป็นอะไรที่เราต้องช่วยกันรณรงค์ ให้ต้องรวมคดี 112 ไว้ด้วย ...

ขอย้ำอีกครั้งว่า การ รณรงค์ของ “นิติราษฎร์-ครก.112” ในขณะนี้ ที่ได้รับความสนใจอย่างมากเช่นนี้ ก็เพราะเป็นผลมาจากความทุกข์ยากสาหัสของ “อากง” (และผู้ต้องขัง 112 คนอื่นๆ) แต่เป็นเรื่อง irony (ตลกร้าย) และเป็นเรื่องน่าเสียดาย และน่าเสียใจอย่างยิ่งว่า การรณรงค์นี้ ดูทีท่าแล้ว จะไม่สามารถช่วยอะไร “อากง” (และผู้ต้องขัง 112 คนอื่น) ได้เลย