ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Sunday, 15 January 2012

แถลงจับมือระเบิด ต้นตอสถานทูตสหรัฐเตือนภัยก่อการร้าย เผยล่าอีกราย

ที่มา ประชาไท

เว็บไซต์ข่าวสดรายงาน ว่าวันที่ 13 ม.ค. เมื่อเวลา 23.00 น. พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษก บชน. แถลงข่าวที่ บชน. ว่า จากการประสานของตร. และหน่วยงานข่าวกรองทั้งในและต่างประเทศ จนได้รับการยืนยันแน่ชัดว่าจะมีชาวต่างชาติเข้าประเทศมาเพื่อก่อเหตุใน ประเทศไทย กระทั่งมีการตรวจพบชาวตะวันออกกลางที่มีรูปพรรณและพฤติกรรมตรงตามการข่าวที่ ได้รับมา จึงเชิญตัวผู้ต้องสงสัยดังกล่าวไปสอบปากคำตาม มาตรา 12 อนุ 7 พ.ร.บ.ตรวจคนเข้าเมือง
จากการให้การของผู้ต้องสงสัยดังกล่าวพบว่ามีข้อมูลเป็นจริงว่า อาจจะมีการเข้ามาก่อเหตุในประเทศไทย ผู้ต้องสงสัยดังกล่าวยังให้ข้อมูลถึงผู้ต้องสงสัยอีก 1 ราย ที่คาดว่าเป็นบุคลสำคัญในการเตรียมก่อเหตุในประเทศไทย และคาดว่ายังคงอาศัยอยู่ในพื้นที่ กทม. มีลักษณะเป็นชาวชาวตะวันออกกลาง รูปร่างสูงใหญ่ สูงประมาณ 180 ซ.ม.
พล.ต.ต.ปิยะ ยังแจกจ่ายภาพบุคลต้องสงสัยที่ต้องการติดตามตัวอยู่ ให้สื่อมวลชนนำไปเผยแพร่ พร้อมฝากถึงประชาชนว่า ให้ช่วยกันระวัง และสอดส่องดูแลหากพบเหตุบุคลดังกล่าวให้รีบแจ้งตำรวจที่อยู่ใกล้เคียง หรือโทร. 191 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีพื้นที่เฝ้าระวังเป็นพิเศษใน 3 จุดด้วยกันที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชาวต่างชาตินิยม คือ ถนนข้าวสาร ซ.รามบุตรี ย่านบางลำพู และสุขุมวิท ซ. 22 รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ
นอกจาก ตามสถานที่ท่องเที่ยวที่ประชาชนต้องช่วยกันสอดส่องดุแลแล้ว หากพบรถหรือคนที่มีลักษณะผิดปกติ จอดซุ่มอยู่ที่ใดนานๆ หรือจอดทิ้งไว้เป็นเวลานานไม่มีคนดูแล หรือบ้านหลังไหนที่มีคนเข้าออกผิดปกติ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที
โฆษกบชน. กล่าวยืนยันว่า ตร. และผบ.ตร. ไม่ได้นิ่งนอนใจ ระดมหน่วยงานทั้งหมดให้ลงพื้นที่เพื่อติดตามและป้องกัน รวมถึง อาสาสมัครและ เจ้าของร้านค้าทั้งในพื้นที่ กทม. และปริมณฑล ช่วยสอดส่องดูแลและช่วยแจ้งเบาะแส อาจทำให้เห็นด่านตรวจตราเพิ่มมากขึ้น แต่การดำเนินการดังกล่าวเป็นเพียงการป้องกันเหตุ และติดตามตัวผู้ต้องสงสัย ไม่ได้หมายความว่าเกิดเหตุขึ้นแล้ว ขอให้ประชาชนใช้ชีวิตตามปกติ
ส่วนกระแสข่าวว่าจะมีการวางระเบิดที่สนามบินสุวรรณภูมินั้น พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวปฏิเสธว่า จากการข่าวไม่มีเรื่องดังกล่าว แต่ได้ระดมกำลังเข้าดูแลเป็นพิเศษ รวมถึงสถานทูตต่างๆ และเหล่งท่องเที่ยวที่เฝ้าระวัง โดยมาตรการป้องกันดำเนินมาตั้งแต่ก่อนช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา เพียงเป็นการกระจายกำลังดูแลป้องกันเหตุจากสถานที่จัดฉลองปีใหม่ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่สำคัญ