นับตั้งแต่ปี 2004 เป็นต้นมา จำนวนชาวเกาหลีเหนือที่เข้ามาในประเทศไทยมีจำนวนเพิ่มสูงขึ้นทุกปี จากแค่ปีละหลายสิบคน เป็นปีละมากกว่า 2,000 คน ที่พากันหลบหนีจากการกดขี่ในประเทศของตน เดินทางอย่างลับๆ ผ่านทางจีนและลาวมาจนถึงประเทศไทย เนื่องจากเจ้าหน้าที่ทางการไทยมักจะไม่ส่งพวกเขากลับประเทศ และมีหลายคนสามารถเดินทางกลับไปใช้ชีวิตในเกาหลีใต้ได้ด้วย
แดเนียล ชเคียฟ ผู้สื่อข่าวสำนักข่าว Voice of Americas (VOA) ได้สัมภาษณ์ โทโมฮารุ เอบิอาระ นักกิจกรรมที่คอยช่วยเหลือผู้ลี้ภัยเข้ามายังประเทศไทยมาเป็นเวลานานแล้ว ผ่านทางตำแหน่งของเขาคือผู้อำนวยการของ 'สมาคมช่วยเหลือผู้ถูกลักพาตัวชาวเกาหลีเหนือ' (Association for the Rescue of North Korea Abductees) พวกเขาพูดคุยกันถึงสาเหตุที่ทำให้ชาวเกาหลีเหนือเลือกเข้ามาในประเทศไทย ระยะเวลาในการเดินทาง รวมถึงกรณีล่าสุดที่หญิงไทยรายหนึ่งถูกลักพาตัวและกุมขังไว้โดยรัฐบาลเกาหลี เหนือ
0 0 0
คำถาม : อยากให้คุณเล่าให้ผมฟังเกี่ยวกับสถานการณ์ล่าสุดของผู้ลี้ภัยชาวเกาหลีเหนือที่เข้ามาอยู่ในประเทศไทย
คำตอบ : ตั้งแต่ เมื่อ 5 ถึง 6 ปีก่อน ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศสำคัญสำหรับผู้ลี้ภัยชาวเกาหลีเหนือ เมื่อเดือน ม.ค. ถึงเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมามีมากถึงราวๆ 2,000 คน และถ้านับรวมกับในในอดีต 5-6 ปีที่แล้ว ตอนนี้ตัวเลขผู้อพยพชาวเกาหลีเหนือคงเป็นราวๆ 10,000 คน
มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อ 6 ปีก่อน ถึงทำให้มีคนนิยมใช้ประเทศไทยเป็นเส้นทางลี้ภัย
ก่อนหน้านี้จนกระทั่งถึงเมื่อ 5-6 ปีที่แล้ว ผู้อพยพลี้ถียจำนวนมากจะเดินทางผ่านเวียดนาม ซึ่งมีจำนวนมากกว่าที่ผ่านไทย รัฐบาลเวียดนามจะส่งตัวผู้ลี้ภัยเหล่านี้ต่อไปยังเกาหลีใต้เลยในทีเดียวไม่ ว่าจะมี 2 คนหรือ 300 คน แต่ต่อมารัฐบาลเกาหลีเหนือก็ทักท้วงรัฐบ่าลเวียดนามในเรื่องนี้ หลังจากนั้นจุดยืนของรัฐบาลเวียดนามต่อเรื่องผู้ลี้ภัยชาวเกาหลีเหนือก็พลิก ด้านไป ทำให้ผู้ลี้ภัยชาวเกาหลีเหนือส่วนใหญ่หันมาที่ประเทศไทยแทน มีไม่กี่คนเท่านั้นที่ไปที่เวียดนามในตอนนี้
แล้วทำไมพวกเขาถึงเลือกผ่านประเทศไทย
เส้นทางหลักๆ ของผู้ลี้ภัยชาวเกาหลีเหนือคือเดินทางผ่านจีนตอนเหนือไปสู่มองโกเลีย แต่เส้นทางนี้บางทีก็ยุ่งยากเนื่องจากมีการตรวจรักษาความปลอดภัยของตำรวจจีน และในช่วงฤดูหนาวก็มีสภาพอากาศไม่เอื้ออำนวยให้ผ่านตรงนี้ไปเท่าไหร่ เพราะมันหนาวและอันตรายเกินไป แต่เส้นทางฝั่งใต้ผ่านลาวและไทยเป็นเส้นทางที่สามารถผ่านไปได้ตลอดปี และประเทศไทยก็ไม่เคยส่งตัวผู้ลี้ภัยเกาหลีเหนือกลับประเทศ รัฐบาลไทยมองว่าพวกเขาเป็นผู้เข้าเมืองอย่างผิดกฏหมาย ไม่ใช่ผู้ลี้ภัย แต่ก็ไม่เคยส่งตัวพวกเขากลับประเทศเกาหลีเหนือ
เหตุใดผู้ลี้ภัยชาวเกาหลีเหนือถึงเพิ่มสูงขึ้นอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีมานี้
เหตุผลยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่ เหตุผลหนึ่งน่าจะมาจากการที่ตำรวจจีนในเขตทางตอนเหนือใกล้ๆ กับพรมแดนมองโกเลียมีความเข้มงวดในเรื่องผู้ลี้ภัยชาวเกาหลีเหนือมาก แต่เส้นทางผ่านทางจีนตอนใต้ยังไม่เข้มงวดมากเท่า
ผู้ลี้ภัยชาวเกาหลีเหนือบอกอะไรคุณบ้าง คนที่คุณช่วยเหลือ พวกเขาพูดอะไรถึงสถานการณ์ในเกาหลีเหนือบ้าง
ผมไม่ได้ติดต่อพวกเขาโดยตรง แต่ถ้าผมพบว่ามีผู้ลี้ภัยถูกตำรวจไทยจับกุมตัวไว้ ผมจะเอาอาหาร เสื้อผ้า กระดาษทิชชู่ และยาไปให้ นี่คือสิ่งที่ผมทำอยู่
ตอนที่คุณนำอาหารและยาไปให้ พวกเขาอยู่ในสภาพอย่างไรบ้าง
พวกเขาไม่ได้ป่วยหนัก แต่ก็มีไข้และมีโรคผิวหนัง กับปวดท้อง ไม่ได้มีอาการขั้นสาหัส แต่แทบทุกคนจะมีปัญหาด้านสุขภาพอย่างใดอย่างหนึ่ง
แล้วพอคุณได้คุยกับชาว เกาหลีเหนือที่ถูกขังอยู่ในคุกไทยหลังลี้ภัยเข้ามา พวกเขาได้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับความยากลำบากในการอพยพของพวกเขาอย่างไรบ้าง
ผู้ลี้ภัยที่ผมเจอในเกาหลีใต้บอกผมว่า มีหลายคนใช้เวลาหลายปีในการเดินทางจากเกาหลีเหนือมาจนถึงประเทศไทย ขณะที่บางคนใช้เวลามาถึงไทย 3-4 เดือน แต่ส่วนใหญ่แล้วก็ใช้เวลาหลายปี พอพวกเขาออกจากเกาหลีเหนือแล้วก็ใช้เวลาอยู่ในทางตอนเหนือของจีนอยู่หลายปี พวกเขาอาจจะหางานทำที่นั่น แต่แน่นอนว่าพวกเขาไม่มีพาสปอร์ตหรือสถานะที่จะทำงานในจีนได้ พวกเขาถึงหวาดกลัว กลัวว่าจะถูกตำรวจจีนจับ และบางครั้งแก็งค์มาเฟียในจีนก็มีการค้ามนุษย์ซื้อขายตัวพวกเขาโดยเฉพาะกับ ผู้หญิง
มีผู้หญิงชาวเกาหลีเหนือที่เกาหลีใต้คนหนึ่งเล่าให้ผมฟังว่า เขาถูกคนจีนขายตัวเธอ 3-4 ครั้งในช่วงที่เธออยู่ในจีน แก็งค์มาเฟียจีนค้าเธอให้แต่งงานกับชาวนาในจีน เธอหนีออกมาได้แต่ก็ถูกจับโดยแก็งค์มาเฟียอีก แล้วพวกเขาก็ขายตัวเธอไปให้ชาวนาจีนอีกคนหนึ่ง เรื่องราวประมาณนี้เกิดขึ้นเยอะมาก
หลังจากการเสียชีวิตของคิม จอง อิล แล้วคุณคิดว่าจำนวนของผู้ลี้ภัยชาวเกาหลีเหนือที่เดินทางผ่านไทยจะเพิ่มมากขึ้นอีกหรือไม่
ในระยะสั้นผมไม่คิดว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นเนื่องจากมีการควบ คุมพรมแดนระหว่างจีนกับเกาหลีเหนือที่เข้มงวดมาก จีนส่งทหารไปยังชายแดนกว่า 2,000 นาย ดังนั้นในช่วง 2-3 เดือนนี้คงยากมากสำหรับผู้ลี้ภัย แต่หลังจากนี้ไปอีกครึ่งปีข้างหน้า ถ้าหากมีปัญหาทางการเมืองเกี่ยวกับผู้นำคนใหม่อีก พวกเขาอาจเริ่มลี้ภัยจากเกาหลีเหนืออีกครั้ง สิ่งสำคัญคือจุดยืนของจีน ถ้าหากพวกเขาจับกุมตัวผู้ลี้ภัยชาวเกาหลีเหนือในตอนเหนือของจีน ก็จะทำให้ไม่มีใครสามารถลงมาถึงไทยได้ แต่ถ้าหากพวกเขาไม่จับกุม จำนวนก็อาจจะเพิ่มสูงขึ้น
องค์กรของคุณทำงานเกี่ยวกับประเด็นผู้ที่ลูกลักพาตัวโดยรัฐบาลเกาหลีเหนืออย่างไรบ้าง
ตั้งแต่ปี 1960 เป็นต้นมารัฐบาลเกาหลีเหนือก็จับตัวชาวต่างชาติรวมแล้วหลายพันคน ที่มาจาก 12 ประเทศทั่วโลกเป็นอย่างน้อย มันเป็นคำสั่งจากคิม จอง อิล และพวกเราก็ทราบว่าคนที่ถูกจับมาจากประเทศอย่างเช่น ไทย, สหรัฐฯ, ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้, โรมาเนีย, ฝรั่งเศส เป็นต้น
และมีรายหนึ่งที่ถูกลักพาตัวเป็นหญิงไทยจากเชียงใหม่ (อโนชา ปันจ้อย สงสัยว่าถูกทหารเกาหลีเหนือลักพาตัวจากมาเก๊าเมื่อ 33 ปีก่อน) ผมทราบเรื่องนี้มาจากคำให้การในปี 2005 ของ ชาร์ล โรเบิร์ต เจนกินส์ (ทหารอเมริกันผู้ที่หนีจากค่ายทหารในเกาหลีใต้ไปยังเกาหลีเหนื่อในปี 1965 เพื่อหลีกเลี่ยงการสู้รบในเวียดนาม และไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากประเทศจนกระทั่งในปี 2004) ในเกาหลีเหนือ ซึ่งตอนนี้เขาอาศัยอยู่ในญี่ปุ่น เขาบอกพวกเราว่าในตอนที่เขาอาศัยอยู่ในเกาหลีเหนือนั้นเพื่อนบ้านของเขาเป็น หญิงไทยที่ถูกลักพาตัวจากมาเก๊า และพวกเขาก็อยู่ในบริเวณเดียวกันถึงราว 10 ปี
ในช่วงที่มีการเปลี่ยนผ่านทางอำนาจในเกาหลีเหนือ โทโมฮารุ เอบิฮาระ ก็กำลังพยายามช่วยเหลือครอบครัว อโนชา ปันจ้อย ในการรณรงค์ให้รัฐบาลไทย ผลักดันให้รัฐบาลเกาหลีเหนือให้คำตอบเกี่ยวกับการลักพาตัวในครั้งนี้
ที่มา
North Korean Refugees Seek Freedom Via Thailand, 29-12-2011, Voice of America
http://www.voanews.com/english/news/asia/North-Korean-Refugees-Seek-Freedom-Via-Thailand-136370353.html