กระทรวงต่างประเทศ. ออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีการตัดสินคดีหมิ่นฯ ของไทย ชี้มาตรา 112 มีไว้เพื่อปกป้องสถาบันฯ ไม่ได้ใช้เพื่อจำกัดสิทธิและเสรีภาพของประชาชน หากแต่บุคคลที่ใช้คำพูดเพื่อยุยงสร้างความเกลียดชัง สมควรถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
เมื่อวันที่ 14 ธันวาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์กระทรวงต่างประเทศ ได้เผยแพร่แถลงการณ์ชี้ แจงกรณีการตัดสินคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของไทย เนื่องจากมีสื่อมวลชนทั้งไทยและเทศได้สอบถามกรณีดังกล่าว โดยนายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงต่างประเทศ ระบุว่าการตัดสินคดีของนายอำพล (สงวนนามสกุล) หรือ “อากง” และนายเลอพงศ์ (โจ กอร์ดอน) เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายของไทย และยืนยันว่าทั้งสองคนได้รับสิทธิในการพิจารณาคดีอย่างยุติธรรมทุกประการ
แถลงการณ์ระบุว่า กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เป็นส่วนหนึ่งของประมวลกฎหมายอาญาของไทย ซึ่งมีไว้เพื่อปกป้องและรักษาพระเกียรติของพระมหาษัตริย์ พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เช่นเดียวกับที่กฎหมายหมิ่นประมาทมีไว้เพื่อปกป้องชื่อเสียงของบุคคลธรรมดา ทั่วไป และยังชี้ว่า กฎหมายดังกล่าว มิได้มีไว้เพื่อจำกัดสิทธิในการแสดงออกของประชาชนหรือเสรีภาพทางวิชาการที่ จะพูดคุยเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์แต่อย่างใด
“เช่นเดียวกับสังคมประชาธิปไตยอื่นๆ ประชาชนไทยสามารถใช้สิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญได้ รวมถึงเสรีภาพในการแสดงออกด้วย ในสื่อมวลชนก็มีการออกอากาศความคิดเห็นที่แตกต่าง และมีการถกเถียงกันในเรื่องที่หลากหลาย อย่างไรก็ตาม บุคคลที่ใช้สิทธิในทางที่ผิด เช่น การใช้คำพูดเพื่อสร้างความเกลียดชัง หรือบิดเบือนข้อมูลเพื่อให้เกิดความรุนแรงและความเกลียดชังต่อประชาชนไทยและ ต่อสถาบันกษัตริย์ ไม่ว่าจะในทางอินเทอร์เน็ต โซเชียลมีเดีย หรืออุปกรณ์สื่อสารต่างๆ จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฏหมาย” แถลงการณ์ดังกล่าวระบุ
กระทรวงต่างประเทศ ชี้แจงว่า คดีของนายอำพล และนายเลอพงศ์ ถูกดำเนินคดีตามกฎหมายไทย และจำเลยได้รับสิทธิในการพิจารณาคดีอย่างยุติธรรม เช่น สิทธิในการประท้วงข้อกล่าวหา การได้รับความช่วยเหลือจากทนาย และสิทธิในการยื่นอุทธรณ์