นายสมชัย จึงประเสริฐ กกต.ด้านกิจการสืบสวนสอบสวนและวินิจฉัย เปิดเผยเมื่อวันที่ 16 กันยายนว่า การที่ กกต.มีมติเสียงข้างมากให้ตั้งกรรมการไต่สวนพิจารณาข้อเท็จจริงนายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย จะสิ้นสุดความเป็น ส.ส.หรือไม่ เพื่อดูข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 106 ให้เกิดความรอบคอบ ว่า กรณีนายจตุพรมีเหตุที่ทำให้ความเป็น ส.ส.ต้องสิ้นสุดลงเพื่อส่งเรื่องให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรส่งศาลรัฐธรรมนูญ วินิจฉัยหรือไม่ ซึ่งไม่ใช่ประเด็นปัญหาที่จะต้องดูในเรื่องการสิ้นสมาชิกภาพพรรคการเมืองตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ทั้งนี้กรณีนายจตุพรเห็นว่าไม่เข้าเหตุที่ทำให้สิ้นสุดความเป็น ส.ส.ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 106(4) และ (5) แต่อย่างใด แต่กรณีที่นายจตุพรจะสิ้นสุดความเป็น ส.ส.ได้ก็ต่อเมื่อลาออกจาก ส.ส. หรือพรรคเพื่อไทยมีมติขับนายจตุพรออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม กกต.ไม่ได้คิดว่าจะเป็นการยื้อเวลาถ้าตนเป็นคณะกรรมการไต่สวนใช้เวลาเพียง 2 สัปดาห์ก็น่าจะพิจารณาได้แล้วเสร็จ แต่เมื่อตั้งคณะกรรมการไต่สวนแล้วตนจะไปก้าวล่วงไม่ได้ ถ้า กกต.เห็นว่านายจตุพรสิ้นสุดความเป็น ส.ส.ก็ต้องส่งเรื่องยังประธานสภาเพื่อส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย