ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Monday, 5 September 2011

ทำอะไรอยู่

ที่มา มติชน


โดย สรกล อดุลยานนท์

(ที่มา คอลัมน์สถานีคิดเลขที่ 12 หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับประจำวันที่ 3 กันยายน 2554)

หลังจากลังเลอยู่นาน "ช่อง 3" ก็ตัดสินใจลุยช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมอีกครั้งหนึ่ง

คงเบื่อที่จะรอรัฐบาลเต็มทีแล้ว

สถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้หนักหนาไม่น้อยกว่าครั้งที่แล้ว

แต่ที่ "ครอบครัวข่าว" ของ "ช่อง 3" ขยับตัวช้าและไม่เต็มที่เหมือนครั้งก่อนน่าจะเป็นเพราะกลัวว่าจะ "ล้ำหน้า" รัฐบาล

บทเรียนในอดีตที่เจอ "แรงอิจฉา" จากคนในรัฐบาล "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ทำให้ช่อง 3 ต้องระมัดระวัง

และเข้าใจถึงภาษิตไทยที่ว่า "จงทำดีแต่อย่าเด่นจะเป็นภัย"

ครับ เมืองไทยแม้แต่จะทำดียังต้องระวังคนอิจฉาเลย

ความเชื่องช้าของรัฐบาล "อภิสิทธิ์" เมื่อครั้งก่อนทำให้คนตั้งความหวังกับรัฐบาล "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" มาก

หวังว่าจะเกิด "ความแตกต่าง"

เพราะคนยังติดภาพผลงานของรัฐบาล "ทักษิณ ชินวัตร" และพรรคไทยรักไทยสมัยช่วยเหลือผู้ประสบภัย "สึนามิ"

"ทักษิณ" ใช้วิธีมอบหมายให้รัฐมนตรีรับผิดชอบคนละจังหวัด

และบูรณาการความช่วยเหลือจากทุกภาคส่วน

การบริหารในช่วงวิกฤตต้องเร็ว

แต่ภาพที่ปรากฏวันนี้ก็คือ นอกจาก "ยิ่งลักษณ์" ประกาศ "บางระกำโมเดล" แล้ว

การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าแทบไม่มีอะไรเลย

เรื่อยๆ มาเรียงๆ แบบระบบราชการ

เหมือนไม่รู้ร้อนรู้หนาวว่า "เข็มนาฬิกา" ทาง "ความรู้สึก" ของผู้ที่เดือดร้อนจากน้ำท่วมนั้นเดินเร็วแค่ไหน

1 ชั่วโมงที่แช่น้ำอยู่เหมือนกับ 1 วัน

การวางแผนแก้ปัญหาระยะกลางหรือระยะยาวก็คิดกันไป

แต่เรื่องที่สำคัญที่สุดคือ การบรรเทาทุกข์เฉพาะหน้าต้องรีบด่วนที่สุด

หน่วยงานไหนที่มีศักยภาพในการช่วยเหลือผู้เดือดร้อนต้องระดมเข้ามา

กระทรวงกลาโหมแทนที่จะคุยกันแต่เรื่องโผโยกย้ายทหาร

"ยิ่งลักษณ์" ควรจะเรียกทุกเหล่าทัพมาประชุม เพื่อระดมสรรพกำลังช่วยเหลือผู้ที่ประสบภัยน้ำท่วม

ไม่ว่าจะเป็น "กำลังพล" หรือยุทโธปกรณ์ของแต่ละกองทัพ

เครื่องบินของกองทัพอากาศ รถยีเอ็มซีหรือเครื่องจักรของกองทัพบก เรือของกองทัพเรือ รวมทั้งกำลังพลของทุกเหล่าทัพ

อยู่ส่วนไหนของประเทศต้องระดมมาเพื่อช่วยเหลือประชาชน

ทำให้เป็นระบบ และประชาสัมพันธ์ให้คนรู้ว่าแต่ละขั้นตอนเดินไปอย่างไร

เอา "เวลา" เป็นตัวตั้ง

หรือถ้าลัดขั้นตอนก็ดึง "ช่อง 3" มาช่วยเลย

อย่ามอง "สื่อมวลชน" เป็น "คู่แข่ง"

การประชาสัมพันธ์นั้นไม่ใช่เรื่องสร้างภาพ แต่เป็นระบบงานที่ทำให้ประชาชนที่เดือดร้อนได้รู้ว่ารัฐบาลกำลังช่วยเหลือเขาอย่างไร

อย่าลืมว่า "ความหวัง" เป็นสิ่งที่มีค่ายิ่งในยามทุกข์

อย่าให้เขารู้สึกว่า "ไม่มีรัฐบาล"

สถานการณ์ในวันนี้พรรคเพื่อไทยไม่ต้องไปคิดชิงพื้นที่ข่าวจากพรรคฝ่ายค้านด้วยเกมการเมืองเลย

แค่ทำงานให้เป็น ทำงานให้หนัก

หนักเท่ากับจำนวนเสียง ส.ส.ที่ประชาชนมอบให้

แค่นั้นก็พอแล้ว