ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Thursday, 15 September 2011

ตุรกีหวั่นซีเรียขัดแย้งบานปลายเป็นสงครามกลางเมือง

ที่มา ประชาไท

13 ก.ย. 2011 - กลุ่มสันนิบาตชาติอาหรับและนายกฯ เพิ่มการกดดันทางการฑูต ขณะที่ยังมีรายงานว่ารัฐบาลซีเรียสังหารประชาชน

นักกิจกรรมในซีเรียรายงานว่ามีประชาชนราว 33 รายที่ถูกสังหารในวันที่ 13 ก.ย. ที่ผ่านมามีอย่างน้อย 5 รายถูกยิงจากหน่วยสไนเปอร์ที่เล็งเข้ามาในงานศพของชาวบ้านที่ทำพิธีศพให้กับ ผู้ที่เสียชีวิตก่อนหน้านี้ในเมือง คฟาร์ นูโบเซห์

ในวันเดียวกันนั้น (13) สมาชิกของสันนิบาตชาติอาหรับทั้ง 22 ราย ได้ประชุมหารือกันที่กรุงไคโรโดยออกแถลงการณ์ให้รัฐบาลซีเรียหยุดใช้ความ รุนแรงปราบปรามประชาชน

โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 10 ก.ย. ที่ผ่านมา นาบิล เอล-อราบี ประธานของสันนิบาตชาติอาหรับได้เดินทางไปเยือนซีเรียพร้อมแผนข้อตกลงการ ปฏิรูป ซึ่งเอล-อราบีกล่าวหลังการเดินทางเยือนว่าทางรัฐบาลซีเรียยอมรับข้อตกลงใน การปฏิรูป ขณะที่สื่อของรัฐบาลซีเรียรายงานเรื่องการมาเยือนของประธานสันนิบาตชาติ อาหรับว่า เอล-อราบีได้ย้ำถึงจุดยืนปฏิเสธการแทรกแซงจากต่างชาติต่อกิจการภายในของ ซีเรีย และผู้นำทั้งสองก็ตกลงร่วมกันในแนวทางปฏิบัติที่เป็นไปได้ในเรื่องการปฏิรูป ซีเรีย

ทางด้านนักกิจกรรมวิจารณ์การมาเยือนของประธานสันนิบาติชาติอาหรับว่าพวก เขามาช้าเกินไป ก่อนหน้านี้ก็เคยมีการวิจารณ์กลุ่มนี้ว่าได้แต่นิ่งเงียบไม่แสดงท่าทีใดๆ ต่อการปราบปรามผู้ชุมนุม โดยยังมีข้อสังเกตจากนักกิจกรรมอีกว่าการมาเยือนครั้งนี้เป็นการพยายามดำรง รักษาผู้นำของซีเรียเอาไว้

ขณะที่ประธานาธิบดีอัสซาดประกาศว่าจะมีการปฏิรูปในบางเรื่องเช่นการยก เลิกกฏหมายบริหารงานในสถานการณ์ฉุกเฉิน และมีการ "เจรจาในระดับชาติ" ซึ่งทางกลุ่มต่อต้านบอกว่าไม่ได้ส่งผลต่างจากเดิมมากนัก

ตุรกีหวั่นซีเรียขัดแย้งบานปลายเป็นสงครามกลางเมือง

เมื่อวันที่ 13 ก.ย. เรเซป ทายิป เออโดแกน นายกรัฐมนตรีตุรกีก็ออกเดินทางเยือนกลุ่มประเทศอาหรับซึ่งมีการลุกฮือของ ประชาชนขับไล่รัฐบาลเผด็จการ โดยเออโดแกนกล่าวเตือนว่าความขัดแย้งในซีเรียอาจลามไปเป็น "สงครามกลางเมือง" ระหว่างนิกายซุนหนี่ซึ่งมีประชาชนส่วนมากนับถือ กับนิกายอาลาวียะห์ซึ่งมีประชาชนส่วนน้อยรวมถึงประธานาธิบดีอัสซาดนับถือ

ขณะเดียวกันเออโดแกนยังได้แสดงความไม่พอใจรัฐบาลอัสซาดที่ตัวเขาเองสร้าง ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นเอาไว้ว่าเขาล้มเหลวที่ไม่ยอมฟังเสียงของประชาชน

"ความโกรธเคืองของประชาชนมีต่อชนชั้นนำซึ่งเป็นนิกายอลาวี ไม่เพียงเพราะพวกเขาเป็นเครื่องมือของรัฐบาล ...และรัฐบาลซีเรียเองก็กำลังเลือกเล่นไพ่อันตราย" เออโดแกนกล่าวในการให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ของอิยิปต์

อัลจาซีร่ารายงานว่า มีผู้ชุมนุมบางส่วนต้องการให้ต่างชาติใช้กำลังเข้ามาคุ้มครองการปราบปราม สังหารประชาชนของรัฐบาล แต่ดูเหมือนทางประเทศตะวันตกจะไม่มีท่าทีต้องการใช้กำลังทหารกับประเทศ ซีเรียเช่นที่นาโต้ได้ใช้กำลังช่วยล้มมุมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบียเลย

มีการตั้งข้อสังเกตอีกว่า การใช้กำลังทหารแทรกแซงประเทศซีเรียที่อยู่ใจกลางเหล่าประเทศตะวัรออกกลาง ที่พร้อมปะทุนั้นอันตรายเกินไป ซีเรียมีประชากรมากกว่าลิเบีย 3 เท่า เป็นประเทศที่สนับสนุนกลุ่มติดอาวุธของปาเลสไตน์และเลบานอน เป็นพันธมิตรที่เหนียวแน่นกับอิหร่าน ทำสงครามกับอิสราเอล มีอิทธิพลในเลบานอนและชนกลุ่มน้อยชาวเคิร์ดทางตะวันออก

นักกิจกรรมร้องรัสเซีย อย่างต้านการคว่ำบาตรของยูเอ็น

ในวันที่ 13 ก.ย. นักกิจกรรมเพื่อประชาธิปไตยในซีเรียได้จัดชุมนุมในฐานะ "วันแห่งความโกรธ" ขึ้น เพื่อแสดงความไม่พอใจที่รัสเซียต้านมาตรการคว่ำบาตรรัซบาลซีเรียของสหประชา ชาติ โดยผู้ชุมนุมได้มีการเผาธงชาติรัสเซีย ขณะที่ในเพจ The Syrian Revolution 2011 ในเฟสบุ๊คก็มีข้อความเรียกร้องให้รัสเซีย "อย่าได้สนับสนุนฆาตกร"

โดยก่อนหน้านี้รัฐบาลรัสเซียได้แสดงท่าทีคัดค้านการใช้มาตรการคว่ำบาตร รัฐบาลซีเรียของสหผระชาชาติ และพยามเรียกร้องให้ฝ่ายรัซบาลและฝ่ายต่อต้านร่างเงื่อนไขข้อตกลงและมีการ เปิดเจรจา และในวันจันทร์ (12) ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีรัสเซีย ดิมิทรี เมดเยเดฟ ก็กล่าวยืนยันท่าทีเดิมในการหารือ

ทางด้านองค์กรนิรโทษกรรมสากลเปิดเผยตัวเลขผู้เสียชีวิตว่า 95 รายในเรือนจำของรัฐบาลซีเรียตั้งแต่เดือน เม.ย. ขณะเดียวกันก็แสดงความกังวลต่อนักกิจกรรม 4 รายที่ถูกจับกุมตัวไปในกรุงดามากัสเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยทั้ง 4 รายนี้ถูกจับตัวไปหลังจากที่ร่างที่เสียชีวิตแล้วของเพื่อนร่วมงานที่เป็น นักกิจกรรมที่ชื่อ ไคฟ์ มัตตระ ถูกนำมาส่งกลับครอบครัว

ที่มา