คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม
เภรี กุลาธรรม
|
คงเคียดแค้นต่อพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร
จนหัวขบวนยันท้ายขบวนเก็บอาการไม่อยู่ พร้อมใจกันออกมาฟาดกระหน่ำใส่ไม่ยั้ง
คับข้องใจและไม่อาจทำใจให้ยอมรับน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ใช้เวลาเพียง 49 วัน ในการก้าวขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี
ได้รับเลือกจากประชาชนถึง 15.7 ล้านเสียง
ขณะเดียวกัน ก็พ่ายแพ้ต่อถ้อยคำที่ประดิดประดอยขึ้นมาเพื่อห้ำหั่นคนเสื้อแดง แต่กลับใช้ไม่ได้ผล
ไม่ว่าเห็นแก่เงิน ตกเป็นทาสเศรษฐีหมื่นล้าน เผาบ้านเผาเมือง ตายเพราะฆ่ากันเอง จาบจ้วงดูหมิ่นสถาบัน และอยากเปลี่ยนแปลงการปกครอง
เจ็บช้ำขนาดไหน ก็ให้ดูนายสุเทพ เทือกสุบรรณนั้นเถิด
ถึงขนาดจะนำเอาวิธีการของคนเสื้อแดงเพื่อต่อสู้กับคนเสื้อแดง
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หงุดหงิดใจขนาดไหน กรณีชาวบ้านตั้งหมู่บ้านและชุมชนคนเสื้อแดง
ถึงขนาดจะบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด
สำหรับการประกันตัวเสื้อแดงที่ยังถูกคุมขังอยู่ทั่วประเทศกว่า 130 คน
โฆษกพรรคและอดีตโฆษกส่วนตัวหัวหน้าพรรคเห็นไปในทำนองเดียวกัน
นั่นก็คือตะโกนตวาดว่าเหิมเกริม กดดันกระบวนการยุติธรรม
แม้ความคิดจะเยียวยาชดใช้ให้แก่ผู้เสียชีวิต และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการปราบปราม
ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ก็ออกมาคัดค้านและเสียดสี
ด้วยวาทกรรมแบบเดิมๆ ว่าผู้คนเหล่านั้นถูกจ้างถูกเป่าหู ถูกจูงจมูกมา
เพราะฉะนั้นคนที่อยู่เบื้องหลังต้องรับผิดชอบ
แต่รัฐบาลซึ่งมีส่วนสำคัญทำให้เกิดเหตุการณ์ กลับไม่ สำเหนียกว่าจะต้องรับผิดชอบอะไรเลย
กลับอ้างว่าเป็นการบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้ประเทศชาติมีความสุขสงบ
ดังนั้น ขั้นตอนต่อแต่นี้ไป การบังคับใช้กฎหมายก็ต้องเข้มข้นแบบเดียวกัน
บรรดาคดีความใดๆ ที่แจ้งความให้ดำเนินการกับผู้นำรัฐบาลเก่า
ก็ต้องเดินหน้าอย่างตรงไปตรงมาเช่นเดียวกัน