โดย นายปราบ รักไฉไล
ในขณะที่รัฐบาล "ปู1" มีนโยบายด้านเศรษฐกิจอยู่เป็นจำนวนมาก
มีขุนพลทางเศรษฐกิจฝีมือดีพร้อมทำงานอยู่หลายคน
แต่สำหรับพรรคเพื่อไทย ที่ถูกฝ่ายตรงข้ามเล่นงานทางการเมืองตลอดหลายปี
กลับมีนโยบายทาง "การเมือง" น้อยเหลือเกิน
ไม่ใช่แค่นักการเมืองเท่านั้นที่โดนเล่นงาน
ประชาชนที่สนับสนุน ต่างก็โดนด้วยกันมาทั้งสิ้น
รัฐบาลชุดนี้ จะทำอย่างไรกับรัฐธรรมนูญฉบับ 2550 ที่มาจากการรัฐประหาร ?
จะทำอย่างไรกับการปิดกั้นเสรีภาพสื่อทั้งจากกระทรวงวัฒนธรรมและกระทรวง ICT ?
จะทำอย่างไรกับกฎหมายอาญามาตรา 112 ?
คำตอบที่ได้จาก "ปู1" ไม่เคยชัด มาตั้งแต่ก่อนชนะเลือกตั้ง
แม้ระหว่าง "การเมือง" กับ "ปากท้อง" คนส่วนใหญ่ย่อมต้องเลือกปากท้องก่อนเสมอ
มนุษย์ต้องกินเพื่อความอยู่รอด
แต่คำถามคือ หากมนุษย์กินเพื่อมีชีวิตอยู่
มนุษย์จะมีชีวิตอยู่เพื่ออะไร แล้วมนุษย์ควรมีชีวิตอยู่แบบไหน
คำตอบนี้อยู่ใน "การเมือง"
เราจะอยู่กันอย่างไร จะให้ประชาชนมีเสรีภาพในการพูด
จะส่งเสริมให้เคารพศักดิ์ศรีในความเป็นมนุษย์
หรือจะปกครองด้วยความกลัว และความเกลียดชังอย่างที่ผ่านมา
ล้วนเป็นสิ่งที่รัฐบาลต้องให้ความสนใจ
และถ้าหากรัฐบาลจะเน้นแต่การแก้ปัญหาและพัฒนาเศรษฐกิจจริงๆ
นโยบายทาง "การเมือง" ก็เป็นปัจจัยหนุนเสริม "เศรษฐกิจ" ที่รัฐบาลไม่ควรมองข้าม
เมื่อเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน ไม่เหมาะกับการผลิตที่เน้นแรงงานราคาถูกอีกต่อไป
ถ้าจะเปลี่ยนเศรษฐกิจไทยให้เป็น "เศรษฐกิจสร้างสรรค์"
สังคมไทยต้องเปลี่ยนจากสังคมแห่งความกลัว เป็นสังคมแห่ง "ความกล้า" เสียก่อน
สินค้าที่เปี่ยมไปด้วยความคิด ต้องเกิดจากสังคมที่เสรีภาพในการแสดงความคิด ได้รับการปกป้อง
และเป็นหน้าที่ของรัฐบาล ที่จะปกป้องเสรีภาพนั้นให้กับประชาชน
จะเป็นอย่างไร หากนักเขียน นักวิชาการ สามารถเขียนหนังสือหรือผลิตผลงานทางวิชาการ
โดยไม่ต้องระวาดระแวง กลัวจะโดนกลั่นแกล้งด้วยกฎหมายมาตราใดๆ
เราคงมีหนังสือดีๆ ออกสู่ตลาดอีกหลายเล่ม
และจะเป็นอย่างไร หากผู้กำกับภาพยนตร์ สามารถผลิตหนังโดยไม่ต้องกังวลว่า ทำออกมาแล้ว จะถูกห้ามฉายหรือไม่
เราคงมีภาพยนตร์ดีๆ และหลากหลายอีกมากให้ได้ชม
…
นี่คือเหตุผลว่าทำไม นโยบายทางการเมือง เป็นสิ่งที่รัฐบาลไม่ควรมองข้าม
เพราะกินดีอยู่ดีไม่พอ พวกเราขอชีวิตที่ "ดี" ด้วย