ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Saturday, 27 August 2011

ปะทะ สัประยุทธ์ เพื่อไทย ประชาธิปัตย์ พลังใหม่ พลังเก่า

ที่มา มติชน



บรรยากาศการประชุมรัฐสภาเพื่อแถลงนโยบายของรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร "คล้าย" อย่างยิ่งกับบรรยากาศการประชุมรัฐสภาเพื่อแถลงนโยบายของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เมื่อปี 2544

คล้ายตรงที่ฝ่ายค้านเป็นพรรคประชาธิปัตย์

จะ ต่างก็เพียงแต่เมื่อปี 2544 นายชวน หลีกภัย เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ขณะที่ในปี 2554 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์

จะ ต่างก็เพียงแต่เมื่อปี 2544 รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นรัฐบาลของ พรรคไทยรักไทย ขณะที่ในปี 2554 รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นรัฐบาลของพรรคเพื่อไทย

แต่ที่ "คล้าย" เป็นอย่างมากคือระงมแห่งเสียงไม่เห็นด้วย ทำไม่ได้

ตอน ที่รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นำเสนอนโยบาย 30 บาท รักษาทุกโรค นโยบายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง นโยบายพักการชำระหนี้ เสียงจาก นายชวน หลีกภัย เสียงจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คือ เป็นไปไม่ได้

คำถาม คือ จะเอาเงินมาจากไหน

หลาย คนที่ความจำยังดีน่าจะระลึกถึงการโต้ตอบระหว่าง นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี กับ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้ในประเด็นอันเกี่ยวกับ 30 บาท รักษาทุกโรค

แล้วผลเป็นอย่างไร



กรณีของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มีความเด่นชัดอย่างยิ่งแล้วด้วยชัยชนะจากการเลือกตั้งทั่วไปเดือนกุมภาพันธ์ 2548

นั่นก็คือ พรรคไทยรักไทยได้รับเลือก 377 จากจำนวน ส.ส.ทั้งสิ้น 500

ความ ต่อเนื่องแห่งความสำเร็จของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ไม่เพียงแต่ทำให้ปรปักษ์ทางการเมืองกระบอกตาร้อนผ่าว ต้องงัดเอาวิธีการรัฐประหารมาโค่นล้มในเดือนกันยายน 2549 แล้วใช้กระบวนการทางการเมืองเล่นงานด้วยความอาฆาตแค้น

หวังตอกฝาโลงให้กับเกียรติภูมิทางการเมืองของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

ผล กลับไม่เป็นไปตามความปรารถนา เพราะในการเลือกตั้งทั่วไปเดือนธันวาคม 2550 พรรคพลังประชาชนอันเป็นความต่อเนื่องจากพรรคไทยรักไทยก็ยังได้รับชัยชนะ

เพราะ ในการเลือกตั้งทั่วไปเดือนกรกฎาคม 2554 พรรคเพื่อไทย อันเป็นความต่อเนื่อง จากพรรคพลังประชาชน พรรคไทยรักไทย ก็ยังได้รับชัยชนะอย่างขาดลอยบนพื้นฐานแห่งคำขวัญ "ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ"

เสียงคัดค้านนโยบายพรรคเพื่อไทย ก็เป็นเสียงเดียวกันกับที่เคยพ่ายแพ้พรรคไทยรักไทย พ่ายแพ้พรรคพลังประชาชนมาแล้ว

เพียงแต่เป็นการคัดค้านนโยบายใหม่อันนำเสนอโดยพรรคเพื่อไทยเท่านั้น



ใน ความเป็นจริง การนำเสนอนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท เงินเดือนเริ่มต้นปริญญาตรี 15,000 บาท ตลอดจนการนำร่องแจกแท็บเล็ตให้นักเรียน และบัตรเครดิตชาวนา บัตรเครดิตน้ำมัน

คือ ความต่อเนื่องจากที่เคยเสนอ 30 บาท รักษาทุกโรค เมื่อปี 2544

คือ ความต่อเนื่องจากที่เคยเสนอกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง หมู่บ้านละ 1 ล้านบาท ชุมชนละ 1 ล้านบาท เมื่อปี 2544

คือ ความต่อเนื่องจากธนาคารเพื่อประชาชน

ทุกอย่างยังดำเนินไปตามหลักการ เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ตามแนวทาง "ดูอัล แทรก" ระหว่างเมืองกับชนบท ระหว่างคนชั้นกลางกับรากหญ้า

หรือที่เรียกว่า "ทักษิโนมิก" หรือที่เรียกว่า "ระบอบทักษิณ"

นโยบาย พรรคไทยรักไทยได้รับการ พิสูจน์มาแล้วระหว่างการบริหารเมื่อปี 2544-2549 ถือเป็นความสำเร็จของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ขณะที่นโยบายพรรคเพื่อไทยโดยการขับเคลื่อนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ยังไม่ผ่านการพิสูจน์

เป็นการตั้งท่าตั้งทางเหมือน นายสมัคร สุนทรเวช และ นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ ตั้งท่าตั้งทาง

กระนั้น แก่นแท้ของหลักการก็คือความต่อเนื่องจากพรรคไทยรักไทย ต่อเนื่องจากทักษิโณมิก อันเคยขับเคลื่อนโดย พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร

เพียงแต่จะเจอกระแสต้านเหมือน นายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์หรือไม่



ในที่สุดแล้ว การปะทะระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ก็อยู่ใน ปริมณฑลเดิม

นั่น ก็คือ การปะทะระหว่างพลังใหม่ กระแสใหม่ กับ พลังเก่า กระแสเก่า การปะทะระหว่างทุนใหม่ กับ ทุนเก่า การปะทะระหว่างคนรุ่นใหม่กับคนรุ่นเก่า

พรรคประชาธิปัตย์เป็นตัวแทนทุนเก่า พรรคเพื่อไทยเป็นตัวแทนทุนใหม่