เดือน สิงหาคมนี้ มีกระแสข่าวว่าจะเป็นเดือนแห่งชัยชนะ แต่..ไม่ใช่ของพรรคเพื่อไทยและคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขณะที่พรรคแมลงสาบกำลังจัดทัพใหม่ได้นางฮ้ง แซ่ล้อ มาเป็นเลขาคนใหม่
โดย หรี่ฟุน
18 กรกฏาคม 2554
ขอต้อนรับว่าที่ เลขาธิการ “พรรคแมลงสาบ” (ตามคำนิยามของนายกรณ์) คนใหม่ที่เป็นสุภาพสตรี นามว่า “คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช” นิคเนมว่า “นางฮ้ง แซ่ล้อ”
สตรีเฒ่าผู้พราวแพรวไปด้วยคารมคมคายตามวิสัยของเหล่าแมลงสาบพันธุ์ผู้พันธุ์ เมียที่ “ดีแต่พูด” นี่ขนาดเป็นคุณหญิงน่ะนี่ ถ้าเป็นแม่ค้าขายของในตลาด คารมคมคายสำบัดสำนวนคงจะแสบสันต์ยิ่งกว่านี้แน่
คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 7 พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยกล่าวหาพรรคประชาธิปัตย์เกี่ยวข้องกับการที่ นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ และนายแก้วสรร อติโพธิ แกนนำเครือข่ายพลเมืองคัดค้านนิรโทษกรรม พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคลื่อนไหวให้ตรวจสอบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผู้สมัคร ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับที่ 1 ของพรรคเพื่อไทยว่า เป็นเรื่องปกติที่พรรคเพื่อไทยจะกล่าวหา แต่แกนนำพรรคประชาธิปัตย์ทุกคนก็ได้ปฏิเสธว่า ไม่เป็นความจริง พรรคไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว
และส่วนตัวที่เป็นผู้หญิงเชื่อว่า การตรวจสอบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะไม่ส่งผลตีกลับทำให้คะแนนของพรรคเพื่อไทยเพิ่มมากขึ้น ถึงแม้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะใช้ความเป็นผู้หญิงในการเรียกคะแนนสงสาร เพราะประชาชนเข้าใจได้ว่า ในทางการเมืองการต่อสู้ไม่มีคำว่าหญิงหรือชาย แต่เป็นการแข่งขันทำความดีให้กับประชาชนส่วนใหญ่ มากกว่าการทำเพื่อใครเพียงคนใดคนหนึ่ง และการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์จะไปร้องไห้บนเวทีปราศรัยครั้งแรกๆ ก็คงจะไม่สามารถแก้ปัญหาอะไรได้ เพราะที่สำคัญที่สุดของการแก้ปัญหา คือการเป็นคนดี
เป็นคำให้สัมภาษณ์ของคญ.กัลยาตอนช่วงศึกเลือกตั้งครั้งล่าสุด เป็นคารมคมคายของสุภาพสตรีที่ห้อยหน้าด้วยคำว่า คญ-“คุณหญิง” แต่คำพูดมันได้ส่อไปถึงจิตใต้สำนึกที่ยังคงความเป็นไพร่อยู่ดี เพราะคำพูดดังกล่าวมันเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา กระแนะกระแหน เหน็บแนม แบบผู้ดีจอมปลอม หรือ ผู้ดีแปดสาแหรก เก้าไม้คาน ชอบใช้กัน
อธิบายความ “ไม้คาน” หมายถึงคนที่ไม่ใช้ผู้ดี แต่สอดเข้ามาอยากจะเป็นผู้ดี ซึ่งความเป็นจริงแล้ว คนโบราณจะใช้ลักษณะของ สาแหรก ในการเปรียบเทียบผู้ดีโดยเนื้อแท้ ที่จะต้องมีโคตรเหง้า ทั้งหมดเป็นผู้ดี โดย ปู่ทวด ย่าทวด ปู่ ย่า ตาทวด ยายทวด ตา ยาย รวมทั้งหมด 8 คน จะต้องเป็นผู้ดีทั้งหมด จึงจะถือว่า “เป็นผู้ดี แปด สาแหรก”
ดร.คุณหญิงกัลยา (นางฮุ้ง แซ่ล้อ)โสภณพนิช (เกิดเมื่อวันที่ 21 กันยายน 2483 ) อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกรรมการสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ เกิดที่อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา เป็นบุตรีคนที่ 2 ใน จำนวนพี่น้อง 8 คน ของตระกูล "พงศ์พูนสุขศรี" ครอบครัวประกอบอาชีพด้านการเกษตร และค้าขาย
คุณหญิงกัลยามีชื่อเล่นว่า "ฮ้ง" เป็นภาษาจีนแต้จิ๋ว แปลว่า "ยิ่งใหญ่"
คุณหญิงกัลยา (นางฮุ้ง) สมรสกับ นายโชติ โสภณพนิช บุตรชายคนที่ 4 ของนายชิน โสภณพนิช ผู้ก่อตั้ง ธนาคารกรุงเทพ มีบุตรธิดาด้วยกัน 4 คน
คุณหญิงกัลยา (นางฮุ้ง) โสภณพนิช เข้าสู่วงการเมืองครั้งแรกโดยลงสมัคร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เมื่อ ปี พ.ศ. 2543 ในนามผู้สมัครอิสระ ไม่สังกัดพรรคการเมือง ได้เบอร์ 4 แม้ไม่ได้รับการเลือกตั้ง แต่ก็ได้รับความนิยมจากชาวกรุงเทพมหานครพอสมควร ได้คะแนนมาเป็นลำดับที่ 5 ต่อมาเข้าเป็นสมาชิก พรรคประชาธิปัตย์ ลงสมัครเป็น ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ในการเลือกตั้ง ปี พ.ศ. 2544 และ ปี พ.ศ. 2548
ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในประเทศไทย พ.ศ. 2550 ได้ลงสมัคร ส.ส. กรุงเทพมหานคร เขต 8 (สวนหลวง ประเวศ บางนา พระโขนง) ในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ และสามารถชนะการเลือกตั้งได้คะแนนเป็นอันดับ 1 ของเขต
ภายหลังการเลือกตั้ง 23 ธันวาคม พ.ศ. 2550 พรรคประชาธิปัตย์ที่เป็นฝ่ายค้านพรรคเดียวได้ประกาศจัดตั้ง รัฐบาลเงา หรือ ครม.เงา ขึ้นเป็นครั้งแรก ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 และ ดร.คุณหญิงกัลยา (นางฮุ้ง) โสภณพนิช ได้รับเลือกจากที่ประชุมพรรค ให้ทำหน้าที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเงา
และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตัวจริงในเวลาต่อมา เมื่อพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร
ต่อมาได้มีการปรับคณะรัฐมนตรีในช่วงเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2553 ทำให้ ดร.คุณหญิงกัลยา (นางฮุ้ง) ถูกปรับออกจากตำแหน่งรัฐมนตรี (เกี่ยวกับเรื่องการตรวจสอบ GT200 ที่เสือ...ก ไปเป็นประธานในการตรวจสอบเครื่องไม้จิ้มศพเพื่อจะยืนยันว่ามีประสิทธิภาพใน การใช้งาน แต่ปรากฏว่า ไร้ประสิทธิภาพ มันเป็นเพียงกล่องพลาสติกเปล่าๆที่แพงที่สุดในโลกเท่านั้นเอง ภาษีประชาชนหายไปกว่า 640 ล้านบาทกับเจ้ากล่องพลาสติคตัวนี้ )
แผนปั้นสตรีเฒ่า (นางฮุ้ง แซ่ล้อ)
ข่าวจากสายในแจ้งว่า หลังจากที่พรรค ปชป.พ่ายแพ้ในการเลือกตั้งอย่างย่อยยับ ทำเอาผู้เฒ่าหัวหงอกที่เฝ้าฟูมฟักทนุถนอมเพื่อหวังฝากผีฝากไข้ในการพยุง รักษาไว้ซึ่งอำนาจบารมีต้องล่มสลายลงไปด้วย
เรื่องนี้ท่านผู้เฒ่าหงุดหงิดมาก ถึงกับสั่งการและด่ากราดไปยังบรรดาผู้นำในพรรค ปชป. (เล่นเอานายชวน ต้องเข้าโรงพยาบาลเลยทีเดียว) เพราะความพ่ายแพ้ครั้งนี้ มันหมายถึงความเสื่อมบารมีในฐานะคนใต้ที่ไม่สามารถจัดการให้พรรค ปชป.เป็นรัฐบาลต่อไปได้ นั่นข้อที่ 1
ความเสื่อมเสียชื่อเสียงที่สร้างสมมานานในภาคอีสานที่อุตส่าห์มีบ้าน “ไร้กังวล” การันตีไว้ก็ยังพ่ายแพ้อย่างยับเยินอีก นั่นคือข้อที่ 2
ทั้ง 2 ข้อจึงเป็นที่มาของคำสั่งการให้ แกนนำพรรค ปชป.ปรับเปลี่ยนคนที่จะมานั่งเป็นหัวหน้าพรรค หรือเลขาธิการพรรค โดยมีการวางตัวบุคคลที่จะมาดับรัศมี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในอนาคตอันใกล้
แผนนี้มีการดำเนินการมาล่วงหน้าก่อนการเลือกตั้งประมาณ 10 วัน หลังจากวิเคราะห์แล้วว่า พรรค ปชป.จะพ่ายแพ้การเลือกตั้งอย่างราบคาบ รวมไปถึงบรรดาพรรคเล็กพรรคน้อยอย่างกลุ่มงูเห่าและกลุ่มปลาไหล ซึ่งไม่มีหนทางที่จะดำเนินการจัดตั้งรัฐบาลเหมือนอย่างคราวที่แล้วได้ ดังนั้นไพ่บนหน้าตักที่เปิดออกไปแล้ว
จึงเหลือเพียงใบสุดท้ายในการโค่นล้มพรรคเพื่อไทย โดยเฉพาะ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จึงถูกหงายออกมา
แผนดังกล่าวได้มีการประสานไปยัง กลุ่ม โกตั๊บ แซ่ลิ้ม (หัวหน้ากลุ่มพันธมิตร), กลุ่มสยามสามัคคี ,กลุ่มเสื้อหลากสี กลุ่มแก้ว..หน้าม้า+หมอตุลย์ และกลุ่มราชนิกูลคุณหญิงคุณนายไฮโซทั้งหลาย ในการปฎิบัติการร่วมกับ นางฮุ้ง แซ่ล้อ หรือ คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช ผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรค แมลงสาบคนใหม่ ที่เพียบพร้อมด้วยความสามารถในการเข้าถึง และประสานเชื่อมต่อกับบรรดากลุ่มก๊วนผู้ดีตีนแดงดังกล่าว ได้เป็นอย่างดี
แต่แผนดังกล่าวมิใช่จะปฎิบัติง่ายๆดังที่คิด ทางฝ่ายวอร์รูมสี่เสาตระหนักในข้อนี้ดี พลังมวลชนคนเสื้อแดงที่เปรียบประดุจหนึ่งขุนเขาสูงทมึนคอยปกป้องและพิทักษ์ รักษาให้กับพรรคเพื่อไทย และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ให้อยู่รอดปลอดภัย มันคือขวากหนามที่ยิ่งใหญ่เกินกว่าแผนปฎิบัติการที่จะถูกนำมาใช้ ซึ่งถึงแม้ว่าจะได้มีการทำลายพลังมวลชนคนเสื้อแดงมาโดยตลอดในทุกๆวิธีแล้วก็ ตาม
ก็ต้องคอยจับตาดูกันล่ะครับว่า ในวันที่ 19 กรกฏาคม ศกนี้ จะมีอะไรพลิกผันจาก กกต.อีกหรือไม่ รวมไปถึงเดือน สิงหาคม ที่มีกระแสข่าวว่าจะเป็นเดือนแห่งชัยชนะ แต่......ไม่ใช่ของพรรคเพื่อไทยและคุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
อย่ากระพริบตา............
********
เรื่องเกี่ยวเนื่อง
หัวหน้าประชาธิปัตย์
ที่มา คอลัมน์ชกไม่มีมุม หนังสือพิมพ์ข่าวสด
โดย วงค์ ตาวัน
แกนนำรุ่นเก่าๆ ของประชาธิปัตย์เริ่มออกมาแสดงท่าทีต้องการความเปลี่ยนแปลงในพรรคประชา ธิปัตย์อย่างชัดเจนมากขึ้น หลังความพ่ายแพ้ต่อพรรคเพื่อไทยอย่างขาดลอยในการเลือกตั้ง
นายพิเชษฐ พันธุ์วิชาติกุล ถึงกับระบุว่า ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา พรรคถดถอยลงไปมาก
แน่นอนว่า ความเคลื่อนไหวขณะนี้ มีเป้าหมายโดยตรงต่อเก้าอี้หัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค
ใกล้จะเลือกผู้มานั่ง 2 เก้าอี้นี้ ภายหลังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ขอลาออก เพื่อแสดงความรับผิดชอบหลังเลือกตั้ง
นายสุเทพนั้นแน่ชัดว่าขอลาขาด แต่นายอภิสิทธิ์ ไม่ปิดโอกาสที่จะกลับมาอีกหน พร้อมกับมีเสียงเรียกร้องจากคนในพรรคบางส่วนตามมาทันที
จนเริ่มเข้าใจกันว่า คงลาออกเพื่อจะกลับมาใหม่
แต่เมื่อมีท่าทีจากแกนนำสายภาคใต้ออกมา น่าคิดว่าคนประชาธิปัตย์จะยอมให้อภิสิทธิ์นำพาพรรคต่อไปอีกหรือ!?
2-3 ปีที่ผ่านมา น่าจะมีอะไรให้ชาวประชาธิปัตย์ต้องทบทวนมากมาย
จริงอยู่มีหลายปัจจัยในการพิจารณาความเหมาะสมของผู้นำพรรค
แต่มองในสายตาคนนอก บอกได้เลยว่า นายอภิสิทธิ์กำลังจะเผชิญกับคดีใหญ่คือ 91 ศพ!
แค่เรื่องนี้เรื่องเดียว ก็ต้องคิดมากแล้ว ว่าจะนำพรรคไปผูกไว้กับหัวหน้าแบบไหน
แล้วถามจริงๆ เถอะ ตอนที่นายอภิสิทธิ์นั่งตัดสินใจเดินหน้าประดุจเหยี่ยว เมื่อปี 2553 นั้น
นั่งคิดกับใครในราบ 11 เคยไต่ถามผู้มีประสบการณ์ในพรรคหรือไม่??
คนเก่าแก่ต้องบอกได้เลยว่า มีประชาชนตายมากมายในการชุมนุมประท้วงทางการเมืองเมื่อไร ยากจะลบล้างเลือดที่เปื้อนมือได้
เรื่องข้ออ้างชุดดำนั้นฟังยาก
ยิ่งถ้ามีชุดดำจริง มีแต่ต้องยิ่งเจรจาให้จบลงโดยไว เพราะถ้าเดินหน้าก็ต้องนองเลือดแน่
ผู้นำที่ดีมีเมตตามองไกล จะต้องไม่เลือก วิธีรบเอาชนะ ให้สงบราบคาบ บนซากศพชาวบ้าน เป็นอันขาด
แล้วผลการเลือกตั้งบอกได้ชัดมิใช่หรือ
ที่ไปเปิดเวทีราชประสงค์ โหมประโคมเผาบ้านเผาเมือง คนส่วนใหญ่เชื่อหรือ
ถ้าเชื่อทำไมเพื่อไทยจึงชนะถล่มทลาย!?
ปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ต้นๆ ของเพื่อไทยนั้น เต็มไปด้วยแกนนำเสื้อแดง
แล้วคนกว่า 15 ล้านก็แห่กันไปเทเสียงให้!