ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Tuesday, 12 July 2011

ชนะที่ "แท้จริง"

ที่มา มติชน



โดย สุวพงศ์ จั่นฝังเพ็ชร

(ที่มา คอลัมน์สถานีคิดเลขที่ 12 หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับประจำวันที่ 10 กรกฎาคม 2554)


ในแง่ความเป็นพี่-น้อง ระหว่าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แล้ว

ความรู้สึกหลังรับทราบผลการเลือกตั้ง 3 กรกฎาคม คงไม่แตกต่างไปจากคำพาดปกของ "มติชนสุดสัปดาห์" ฉบับนี้

"เราชนะแล้วพี่จ๋า.."

นั่นเป็นเรื่อง ปุถุชน

นั่นเป็นเรื่องครอบครัว

แต่สำหรับคนไทยแล้วสิ่งที่รอคอยหลัง "ชัยชนะ" ข้างต้น คือผลที่ต่อเนื่องจากนั้นมากกว่า

ผลต่อเนื่อง ที่จะได้ฟังเสียงใสๆ จาก นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศ ประกาศว่า

"เราชนะแล้วประชาชนจ๋า..."

นั่นย่อมเป็น "ชัยชนะ"สูงสุด ที่ทุกคนอยากได้

และต่าง "คาดหวัง" จาก น.ส.ยิ่งลักษณ์อย่างมาก

นี่ คือสิ่งที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องแบกเอาไว้บนบ่า โดยไม่มีข้อยกเว้นหรือเห็นใจว่า จะป็นบ่าอันบอบบางของหญิงสาวตัวเล็กๆ ใดๆ ทั้งสิ้น เพราะเธอเป็นผู้อาสาไม่ได้ถูกบีบบังคับมา

เป็นภาระอันหนักหน่วง แน่นอน

และน่าห่วงใยยิ่ง

คำชี้แนะของนักการเมืองเก๋าอย่าง นายบรรหาร ศิลปอาชา ที่ว่า "ต้องมีที่ปรึกษาเยอะๆ ใช้ดุลยพินิจสุขุมเยือกเย็น คิดสักนิด และค่อยเดินหน้า" นั่นน่าฟัง

เพราะดูสภาพของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ตอนนี้ ที่ถูกมะรุมมะตุ้ม ตั้งแต่ยังไม่เริ่มทำงานแล้ว ก็น่ากังวล

น่ากังวลว่าจะทำได้อย่างที่ประชาชนคาดหวังหรือไม่

ต้องไม่ลืมว่า สิ่งที่พรรคเพื่อไทยนำเสนอในช่วงหาเสียง ว่าจะทำ ล้วนแต่เป็นเรื่องยากๆ และขับเคลื่อนอยู่นอกกรอบที่ทุกคนไม่คุ้นเคย

เลยมีคำถาม มีความไม่เชื่อมั่น และบางเรื่องไม่เชื่อว่าจะทำได้

จำต้องมีคำอธิบายและสร้างความเชื่อมั่นให้ทั้งสิ้น

เมื่อตอนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี อาจจะไม่ยุ่งยากเท่า

เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณทำมากับมือ และอำนาจก็เบ็ดเสร็จ สามารถจะชี้ให้เลี้ยวขวา เลี้ยวซ้ายได้

การที่ทุกคนต้องวิ่งไล่ พ.ต.ท.ทักษิณให้ทัน เท่ากับว่า พ.ต.ท.ทักษิณผู้กำหนดเกม ให้คนอื่นเล่น

ซึ่งถือเป็นจุดแข็ง ของรัฐบาลทักษิณเมื่อปี 2544 มาก

แต่ วันนี้ เมื่อภารกิจมาอยู่ในมือ น.ส.ยิ่งลักษณ์ แม้จะมีเสียงเกินครึ่ง แต่ก็เชื่อว่าความเบ็ดเสร็จเด็ดขาดไม่เท่า พ.ต.ท.ทักษิณ ประสบการณ์ก็น้อย แถมยังถูกมองว่าเป็นแค่นอมินี

การจะเป็น "ผู้กำหนดเกม" ให้คนอื่นวิ่งตามนั้น ไม่ใช่เรื่องง่าย

เมื่อไม่ง่าย แต่ต้องไปทำในสิ่งที่ยาก ถึงยากมาก

ก็ไม่แน่ใจว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ จะรับมือไหมหรือไม่

เอา แค่การตั้งคณะรัฐมนตรี หาก น.ส.ยิ่งลักษณ์ทำได้อย่างที่พูดไว้ คือ ไม่ยึดติดเรื่องโควตาภาค โควตามุ้ง จะเลือกเฟ้นเอาบุคคลที่มีความสามารถมาทำงานให้เหมาะสมกับกระทรวง ก็ต้องถือว่าเยี่ยมแล้ว

แต่ดูการเคลื่อนไหว ต่อรองภายในพรรค การต่อรองของมวลเสื้อแดง รวมถึงการต่อรองของพรรคร่วมรัฐบาลแล้ว

ไม่ค่อยมั่นใจนักว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์จะทำได้อย่างที่เอ่ยปากไว้

ซึ่งถ้าหากคณะรัฐมนตรีที่ออกมา หน้าตาไม่ดี เชื่อว่าความเชื่อมั่นและศรัทธา จะลดลงไปอย่างมาก

และเมื่อดูแรงเสียดทานที่ปรากฏตามหน้าข่าวสื่อมวลชนขณะนี้แล้ว เชื่อว่าจะฉุดให้ตกต่ำกว่าเป็นจริงลงไปอีก

ยังไม่รวมกับสิ่งที่ประกาศว่าจะทำ ซึ่งไม่ต้องไปไกล เอาแค่ "6 นโยบายทำทันที" คำถามในเชิงลบ ในเชิงท้าทาย ว่าจะทำไม่ได้ ก็เซ็งแซ่

รวมทั้งเริ่มเห็นอาการรวนๆ บ้างแล้ว

การจะยืนโต้กับกระแส "ลบ" เหล่านี้ได้ ภาวะความเป็นผู้นำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องสูงยิ่ง และมีฐานที่หนักแน่น มั่นคง นั่นหมายถึงทีมที่ปรึกษาดีๆ

ขณะเดียวกัน "คณะรัฐมนตรี" ต้องดูดี ไม่ใช่แค่ "เฉลี่ย" ความสุขเฉพาะภายในพรรคหรือกลุ่มของตัวเองเท่านั้น

เราชนะแล้วพี่จ๋า...จะแผ่วเบาอย่างยิ่ง

หาก "ชัยชนะ" นั้น มรรคผลไม่ได้ตกไปถึงมือ "ประชาชน"