เมื่อ 24 ก.พ. รอยเตอร์รายงานความคืบหน้าคดีสังหารหมู่ช็อกโลกในสองเหตุการณ์ซ้อนที่นอร์ เวย์ ว่า ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็น 92 ราย โดยเป็นเหยื่อในเหตุยิงกราด 85 ราย หลังจากพบอีกศพอยู่ในเกาะมรณะที่คนร้ายยิงกราดนักเรียนในค่ายเยาวชน และตำรวจยังหาผู้สูญหายที่เหลืออีก 5-6 ราย ส่วนเหยื่อในเหตุคนร้ายวางระเบิดอาคารรัฐบาลในกรุงออสโล มี 7 ศพ ซึ่งอาจทำให้ยอดผู้เสียชีวิตรวมสองเหตุการณ์สูงถึง 98 ราย
นายเกร์ ลิปป์สตัด ทนายความของนายแอนเดอร์ส เบรวิก วัย 32 ปี ผู้ต้องหาคดีสังหารหมู่ เปิดเผยว่า นายเบรวิกปกป้องการกระทำของตนเองว่า ถึงโหดร้าย แต่ก็จำเป็น และยินดีจะอธิบายเหตุผลในการขึ้นรับฟังข้อกล่าวหาที่ศาลในวันจันทร์ที่ 25 ก.ค.นี้
ทั้งนี้ จากการสืบค้นประวัติคนร้ายเบื้องต้นพบว่า มีแนวคิดขวาจัดคล้ายนีโอนาซี เกลียดชังชาวมุสลิม และต่อต้านความหลากหลายทางวัฒนธรรม ก่อนก่อเหตุ 6 ชั่วโมง โพสต์วิดีโอขึ้นอินเตอร์เน็ต ชักชวนผู้เห็นด้วยมาร่วมก่อการ ลงรูปเผยวิธีทำระเบิดจากปุ๋ย ทั้งยังเผยแผนการว่าตนเองจะปลอมเป็นตำรวจไปก่อการในครั้งนี้ด้วย
สำหรับปฏิบัติการระงับเหตุของฝ่ายรัฐบาล พบว่า ตำรวจใช้เวลานานถึง 90 นาที หรือชั่วโมงครึ่งกว่าจะไปถึงที่เกิดเหตุยิงกราด นับตั้งแต่คนร้ายเปิดฉากยิง เนื่องจากตำรวจใช้เฮลิคอปเตอร์อย่างเร่งด่วนไม่ได้ ทั้งยังไม่มีเรือที่จะพายเข้าไปยังเกาะอูโทย่า ที่เกิดเหตุ กว่าจะไปถึงเกาะ คนร้ายยิงวัยรุ่นในค่ายเสียชีวิตไปแล้วถึง 85 ราย ผู้รอดชีวิตในเหตุการณ์ยิงกราดต่างกล่าวว่า ที่เอาชีวิตรอดมาได้เพราะวิ่งไปหาที่หลบซ่อนคนร้ายและบางรายว่ายน้ำหนีลง ทะเล
สำหรับวิธีการที่คนร้ายใช้ก่อเหตุนั้น ตำรวจนอร์เวย์แจ้งว่า การวางระเบิดเป็นวิธีที่คนร้ายในสหรัฐระเบิดอาคารรัฐบาลในโอกลาโฮมา เมื่อปี 2538 โดยใช้ปุ๋ยผสมทำระเบิดแบบเดียวกันและเล็งถล่มเป้าหมายตึกรัฐบาลแบบเดียวกัน
ส่วนเหตุยิงกราด คนร้ายปลอมตัวเป็นตำรวจและตะโกนล่อเหยื่อออกมา ว่า "ออกมาได้ ข้างนอกปลอดภัย พวกคุณจะปลอดภัย ผมเป็นตำรวจ" จากนั้นมีวัยรุ่นออกไปยืนรวมกันราว 30-40 คน นายเบรวิกจึงเริ่มเปิดฉากยิง มีคนรอดมาได้เพียง 5-6 คน พยานคนหนึ่งกล่าวว่า นายเบรวิกก่อเหตุด้วยท่าทีที่สุขุมมาก มีการยิงซ้ำไปที่ร่างเหยื่อ เพื่อให้แน่ใจว่าเสียชีวิต
