โดย poonnook
ผมยอมรับด้วยความภาคภูมิใจ... ไม่เคยรู้สึกเสียใจหรือเป็นปมด้อยแม้แต่น้อยที่จะบอกกับใครต่อใครว่า “ผมคือคนไทยที่ศรัทธาในแนวทางประชาธิปไตยและใส่เสื้อแดง” ในฐานะประชาชนที่จะเรียกได้ว่าเป็น “คนร่วมสมัย” หรืออาจจะเรียกว่า “คนรุ่นต่อเชื่อม” ระหว่าง คนรุ่นก่อนที่ไม่รู้จักเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ กับคนรุ่นใหม่ที่มีวิถีชีวิตที่ขาดคอมพิวเตอร์ไม่ได้ในปัจจุบัน สิ่งที่ได้รับรู้และเห็นมาโดยตลอดก็คือ.. การเปลี่ยนแปลงของโลกที่หมุมเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วมาก.. โลกเมื่อ 30 - 40 ปีที่แล้วที่เรียกว่ายุคอนาลอค.. แต่ละปีมีการเปลี่ยนไปของวิถีชีวิตไม่มากนัก..หรือบางทีอาจจะมีน้อยจนไม่รู้สึกว่ามีการเปลี่ยนแปลงด้วยซ้ำ.. แต่นับจากเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์เริ่มก้าวเข้ามาสู่ความเป็น เทคโนโลยีแบบดิจิตอล.. ทุกสิ่งเปลี่ยนไปจนไม่อาจจะคาดคิดได้.. จากการคำนวณด้วยลูกคิดแบบจีน.. สไลด์รูท์.. มาเป็นการคำนวณด้วยเครื่องคิดเลขดิจิตอลอันเล็กเท่านามบัตร (หรือเล็กกว่า) .. จากโทรศัพท์สายเครื่องใหญ่เท่าโต๊ะมาสู่โทรศัพท์ไร้สายอันเล็กเท่าไม้จิ้มฟัน.. “ระบบระหัสมอส” ที่เคยเป็นนวัตกรรมอันยิ่งใหญ่เมื่อ 100 ปีก่อน ในที่สุดก็ต้องถูกเก็บเข้าพิพิธภัณฑ์ไม่มีใครนำมาใช้อีก..นี่กระมังที่เป็นสิ่งสำแดงให้เห็นถึงการเป็นไปตามกฏของไตรลักษณ์คือ “อนิจจัง..ทุกขัง..อนัตนา” หรือที่ทางพระพุทธศาสนาจะใช้คำว่า “เกิดขึ้น..ตั้งอยู่..ดับไป” เป็นธรรมดา การเกิดขึ้นของกระแสความนิยมในตัวของท่านนายกทักษิณ ชินวัตร ก็เป็นไปตามกฏของไตรลักษณ์นี้เช่นเดียวกันคือ..ท่านนายกทักษิณ มาทำงานการเมืองพร้อมกับแนวคิดเพื่อนำพาชาติไทยก้าวไปสู่ความเปลี่ยนแปลง ให้ทันกับเทคโนโลยีของโลกที่เปลี่ยนไป.. ท่านมองเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ต้องการให้ประชาชนไทยมีความเข้าใจและใช้โอกาสที่โลกกำลังเปลี่ยนแปลงนี้ให้เกิดประโยชน์กับทุกๆ คนโดยรวม... ท่านนายกทักษิณ เป็นนายกไทยคนแรกที่นำเอาระบบการทำงานแบบดิจิตอลมาใช้ในการบริหารและพัฒนาประเทศ มีวิสัยทัศน์อันกว้างไกลที่ล้ำหน้าใครหลายๆ คนที่เป็นเป็นผู้บริหารประเทศก่อนหน้านั้นอย่างชนิดเทียบกันไม่ได้.. เป็นผู้นำประเทศคนแรกที่มีแนวคิดในการบริหารประเทศแบบ win win คือทุกๆ คนในประเทศนี้ได้รับประโยชน์ร่วมกัน..(คือการสร้างระบบทุนนิยมเสรีขึ้นมา) ปูนนก Re: | ||
|