เหล็กใน
ไม่เชื่อก็ต้อง เชื่อว่าคนไทยและชาวต่างชาติที่เสียชีวิตรวม 91 ศพ ในพื้นที่กรุงเทพฯ จนทุกวันนี้ผู้เกี่ยวข้องยังหาคนรับผิดชอบไม่ได้!??
รัฐบาลและทหารซึ่งควรจะเป็นผู้รับผิดชอบสูงสุด เพราะฝ่ายแรกไฟเขียวให้ใช้อาวุธร้ายแรงปราบผู้ชุมนุม
ส่วนฝ่ายหลังก็สนุกกับการขนอาวุธทุกชนิดออกมาจากกรมกอง
เรียกว่าหากเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 ที่ว่าโหดเหี้ยมสุดๆ เพราะทหารออกมาเข่นฆ่านักศึกษาที่ไร้ทางสู้ ยังเทียบไม่ได้กับเหตุการณ์ระหว่างเดือนเม.ย.-พ.ค.ที่ผ่านมา
เนื่องจากห้วงเดือนเม.ย.-พ.ค. นอกจากจะฆ่าฝ่ายตรงข้ามอย่างมันมือและสนุกอยู่ฝ่ายเดียว เพราะคู่ต่อกรไร้ทางสู้อย่างสิ้นเชิงแล้ว
คนไม่เกี่ยวข้องอีกจำนวนมากที่เพียงไปอยู่ผิดที่ผิดทางก็พลอยตาย เจ็บ และพิการไปด้วย
และที่เลวร้ายกว่านั้นในอดีตทุกเหตุการณ์รุนแรง รัฐบาลและทหารที่ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ก่อเหตุต้องออกมารับผิดชอบ และจำเป็นบทเรียนอีกยาวนาน
เช่นกรณี 6 ตุลา 19 หรือพฤษภา 35 ทหารต้องเก็บตัวอย่างสงบเสงี่ยมนานนับสิบๆ ปี ขณะที่นักการเมืองก็เรียบๆ ร้อยๆ อยู่พักใหญ่
แต่การตาย 91 ศพที่ผ่านมา ผู้เกี่ยวข้องไม่ต้องรับผิดชอบอะไร
ทำให้กลุ่มคนเหล่านี้รู้สึกเหลิงว่ามีอำนาจมากมายในมือ!!!
มันน่ากลัวตรงที่เหตุการณ์นี้อาจกลายเป็น"โมเดล"ใหม่ที่จะเกิดขึ้นซ้ำๆ ในอนาคตอันใกล้
เพราะใครก็ตามหากสามารถผ่านเหตุการณ์ฆ่ากลางเมืองโดยไม่ต้องรับผิดชอบ ก็ไม่มีอะไรต้องหวาดกลัวอีกแล้ว
เป็นความย่ามใจที่จะทำอะไร หรือใช้อำนาจขนาดไหนก็ย่อมได้!!!
เราจึงเห็นรัฐบาลชุดนี้ใช้อำนาจแปลกๆ และมองขัดๆ ไม่ว่าจะปัญหา 2 มาตรฐานระหว่างการชุมนุมของ"เสื้อเหลือง"กับ"เสื้อแดง"
คดีพันธมิตรฯก่อการร้ายยึดสนามบิน อืดเป็นเรือเกลือผ่านมาเกือบ 2 ปี ยังไปไม่ถึงไหน แต่คดีนปช.ก่อการร้ายเหมือนกัน แต่ใช้เวลาแค่ไม่นานถูกดำเนินคดีและยัดเข้าคุกจนทุกวันนี้
การพร้อมเปิดศึกกับประเทศซาอุดีอาระเบีย พี่ใหญ่ของค่ายตะวันออกกลาง
โจมตี"กัมพูชา" ว่าเป็นแหล่งฝึก"คนชุดดำ"เพื่อมาล่าสังหารนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ
นี่ยังไม่นับความขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้านแทบจะรอบตัวเราทั้งหมด ชนิดที่ไม่เคยมีรัฐบาลไทยชุดไหนสร้าง"ฟาร์มเพาะศัตรู"ระดับชาติได้มากขนาด นี้มาก่อน
ก็อย่างที่บอกหากผ่านเหตุนองเลือด คนตายเป็นเบือ ยังไม่อินังขังขอบ
ก็ไม่มีอะไรที่รัฐบาลนี้จะทำไม่ได้อีกแล้ว!??