ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Sunday, 1 August 2010

รองผู้ว่าฯสตง.คนสนิท!หัก"จารุวรรณ"ยัน หนังสือขอกลับมามีอำนาจมิชอบด้วย กม. จนท.ปฏิบัติตามมีความผิด

ที่มา มติชน

สตง.ป่วนหนัก"พิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส"รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เตรียมออกหนังสือเวียนภายใน 2 ส.ค.นี้ แจ้งให้ทราบหนังสือเวียน"จารุวรรณ"กลับมาปฏิบัติหน้าที่มิชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากพ้นจากตำแหน่งไปแล้ว จนท.รายใดปฏิบัติตามคำสั่งอาจมีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่

กรณีที่ คุณหญิงจารุวรรณ เมณฑกา รักษาการผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้ทำหนังสือเวียนแจ้งข้าราชการและเจ้าหน้าที่ สตง. จะกลับเข้าปฏิบัติหน้าที่ผู้ว่าการ สตง. ตั้งแต่วันที่ 30 กรกฎาคม 2553 เป็นต้นไป โดยอ้างความเห็นคณะกรรมการที่ปรึกษากฎหมายประธานวุฒิสภา ที่เห็นว่าคุณหญิงจารุวรรณ ยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้จนกว่าจะมีคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) ชุดใหม่ และผู้ว่าการ สตง.คนใหม่ มาเป็นหลักในการดำเนินการเรื่องนี้ แม้ว่าตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ.2542 จะกำหนดให้คุณหญิงจารุวรรณต้องพ้นจากตำแหน่งผู้ว่าการ สตง. เนื่องจากอายุครบ 65 ปีบริบูรณ์ ไปตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาก็ตามนั้น


นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส รองผู้ว่าตรวจเงินแผ่นดิน สตง. ในฐานะรักษาการผู้ว่าการ สตง.ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ว่ายอมรับว่าขณะนี้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ สตง.กำลังมีความสับสนอย่างมากกับหนังสือเวียนที่คุณหญิงจารุวรรณจัดทำขึ้น เพื่อแจ้งว่าจะกลับเข้ามาปฏิบัติหน้าที่ผู้ว่าการ สตง.เหมือนเดิม เพราะไม่แน่ใจว่าการกล่าวอ้างถึงความเห็นทางกฎหมายของคณะกรรมการที่ปรึกษากฎหมายประธานวุฒิสภาดังกล่าว สามารถทำได้หรือไม่ เพราะความเห็นที่มีการหารือไปยังนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการกฤษฎีกา ยังไม่มีข้อสรุปชัดเจน ขณะที่ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดินฯ ก็กำหนดไว้ชัดเจนว่าผู้ว่าการ สตง.จะต้องมีอายุไม่เกิน 65 ปี หากอายุเกินแล้ว ก็ไม่สามารถอยู่ปฏิบัติหน้าที่ได้ ตัวอย่างก็มีให้เห็นชัดเจนจากกรณีของกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) บางคน ที่เมื่ออายุครบกำหนดตามข้อกฎหมาย ก็ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้


นายพิศิษฐ์กล่าวว่า เพื่อให้เกิดความชัดเจนในขั้นตอนการปฏิบัติงานของข้าราชการและเจ้าหน้าที่ สตง. ในวันที่ 2 สิงหาคม จะทำหนังสือแจ้งเวียนภายใน สตง.ให้รับทราบว่าแม้ว่าในหนังสือเวียนของคุณหญิงจารุวรรณจะใช้คำว่า ปฏิบัติหน้าที่ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน แต่เมื่อในข้อเท็จจริงคุณหญิงจารุวรรณ พ้นจากตำแหน่งตามอายุไปแล้ว และไม่มีบทกฎหมายรองรับชัดเจนให้ปฏิบัติหน้าที่ ตามที่อ้างในบันทึก จึงถือว่าการออกหนังสือเวียนดังกล่าว เป็นบันทึกไม่ชอบด้วยกฎหมาย และหากข้าราชการและเจ้าหน้าที่ สตง.รายใดปฏิบัติตามคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายดังกล่าว ก็ต้องรับผิดชอบเป็นการส่วนตัว และอาจเป็นความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ได้ และจะประสานให้หน่วยงานราชการอื่นๆ รับทราบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ด้วย


ผู้สื่อข่าวถามว่า การออกหนังเวียนฉบับใหม่มาตอบโต้คุณหญิงจารุวรรณ อาจทำให้สังคมเข้าใจว่า สตง.กำลังมีปัญหาเรื่องความขัดแย้งภายในเกิดขึ้น นายพิศิษฐ์กล่าวว่า ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทุกคนยังเคารพคุณหญิงจารุวรรณเหมือนเดิม แต่เมื่อกฎหมายกำหนดไว้อย่างไร ก็ต้องทำตามนั้น และตลอดระยะเวลาที่ตนได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่รักษาการผู้ว่าการ สตง. ไม่เคยมีความขัดแย้งอะไร ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา แต่มีบางเรื่องที่มีการฝากให้ทำ แต่ทำให้ไม่ได้ เช่น การแต่งตั้งบุคคลภายนอกเข้ามาเป็นที่ปรึกษาของ สตง.หรือการออกประกาศยกเลิกการประกวดราคาก่อสร้างอาคาร สตง.แห่งใหม่ เพราะเห็นว่าเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ส่วนจะทำให้ใครไม่พอใจหรือไม่นั้นไม่ทราบ แต่จำเป็นต้องทำแบบนี้ เพื่อให้เกิดความถูกต้องในขั้นตอนปฏิบัติงาน


"นอกจากนี้ ผมก็ยังได้ลงนามไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อให้ตอบข้อหารือเรื่องการดำรงตำแหน่งของคุณหญิงจารุวรรณด้วย ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าคุณหญิงจะพอใจที่ทำแบบนี้หรือไม่" นายพิศิษฐ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายพิศิษฐ์ เป็นลูกน้องที่มีความใกล้ชิดคุณหญิงจารุวรรณอย่างมาก แม้จะได้รับแต่งตั้งเป็นรองผู้ว่าฯไม่นานและยังมีอาวุโสน้อย แต่คุณหญิงจารุวรรณให้เป็นรองผู้ว่าฯอันดับหนึ่งและแต่งตั้งให้รักษาราชการแทนผู้ว่าฯมาตลอด


ขณะที่นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึงความล่าช้าในการสรรหาผู้ว่าการสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แทนคุณหญิงจารุวรรณ ว่าคณะกรรมการสรรหา ผู้ว่าการ สตง.ประชุมสรรหาผู้ว่าการ สตง.ไปแล้วถึง 3 ครั้ง แต่ก็ยังไม่ได้ข้อยุติเนื่องจากติดขัดในข้อกฎหมาย เพราะร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดินที่วุฒิสภาลงมติไปโดยเสียงไม่เกินกึ่งหนึ่ง และร่างดังกล่าวจะต้องเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร โดยนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งร่วมเป็นกรรมการสรรหาด้วย ได้รับปากต่อที่ประชุมว่าจะนำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาในสัปดาห์ที่ 2 เมื่อเปิดสมัยประชุม หากสภาผู้แทนราษฎรยืนยันร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว รัฐบาลก็หยิบยกขึ้นมาประกาศใช้ได้ใน 180 วัน แต่หากไม่เห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวก็ตกไป และต้องนำเสนอมาใหม่


"สตง.ก็ได้ทำหนังสือมายังผมเหมือนกันเพื่อสอบถามในกรณีดังกล่าว รวมทั้งแจ้งให้ทราบว่าขณะนี้ได้มีการทำหนังสือสอบถามไปยังคณะกรรมการกฤษฎีกาว่า คุณหญิงจารุวรรณยังสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้หรือไม่ ผมยืนยันว่าทางคณะกรรมการสรรหาไม่ได้ล่าช้าในการสรรหาผู้ว่าการคนใหม่ แต่เมื่อกฎหมาย สตง.ยังไม่ออกมาบังคับใช้จะให้ทำอย่างไร ถ้ากฎหมายบังคับใช้ก็คงไม่มีปัญหาหรอก เพราะกรรมการสรรหาพร้อมที่จะดำเนินการสรรหาอยู่แล้ว ขณะนี้บางคนบอกว่าสรรหาได้เลย แต่บางคนก็บอกว่ายังทำไม่ได้ ก็เป็นเรื่องที่แต่ละคนจะตีความซึ่งก็ไม่มีใครตอบข้อสงสัยได้ ทางที่ดีก็ควรส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความเพื่อให้เป็นข้อยุติผูกพันทุกองค์กร ซึ่งเรื่องที่จะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความนั้นต้องเป็นความขัดแย้งระหว่างองค์กร ซึ่งประเด็นแรกต้องตอบให้ได้ก่อนว่าใครเป็นคู่ขัดแย้ง เพื่อจะส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย โดยสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเป็นแค่ตัวกลางหรือเป็นเลขานุการในการนัดประชุมกรรมการสรรหาเท่านั้นไม่มีอำนาจทำอย่างอื่น" นายประสพสุขกล่าว