จาตุรนต์ ฉายแสง เย้ย มาร์ค ปูดประเด็นรัฐสวัสดิการ กลบครหาสลายม็อบ ดิ้นดึงเสียงคนชนบทกลบจุดอ่อนประชาธิปัตย์...
นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย กล่าวถึง กรณีที่กลุ่มนักวิชาการออกมาคัดค้านการอัดประชานิยมลดแลกแจกแถม และแนวนโยบายรัฐสวัสดิการของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี นั้น สิ่งนี้สะท้อนถึงการที่นายกฯรู้ว่าตัวเองอยู่ในฐานะที่ลำบากมาก เพราะถ้ามีการตรวจสอบข้อเท็จจริงกันจริงๆ จนรู้ว่าการปราบหรือสลายการชุมนุมขัดต่อหลักการของสหประชาชาติ ขัดต่อกฎหมายไทยเอง นายกฯกับพวกก็อยู่ในฐานะลำบาก ถ้าปล่อยให้มีการพูดกันแต่เรื่องเหล่านี้มากโดยไม่หาเรื่องอื่นมาเบนความสนใจ ก็ไม่ได้ ก็เลยต้องหาเรื่องอื่นมาเบี่ยงเบน
ขณะเดียวกันก็ทำทุกวิธีที่หวังว่าจะอยู่ในอำนาจต่อไป รวมทั้งจะชนะการเลือกตั้งคราวหน้าให้ได้ ก็เลยเอานโยบายลดแหลกแจกแถมดังกล่าวมาใช้โดยไม่ได้คำนึงว่าสอดคล้องกับนโยบายตัวเองหรือไม่ จะเป็นไปได้หรือไม่ และจะเป็นการส่งสัญญาณที่ผิดอย่างไร การใช้นโยบายแจกบริการฟรี หรือพูดถึงรัฐสวัสดิการ โดยที่ฐานภาษีของประเทศเล็ก รายได้ของรัฐบาลมีเพียง 14-15%ของรายได้ประชาชาติ มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว เพราะแตกต่างจากประเทศพัฒนาแล้วที่มีนโยบายรัฐสวัสดิการมาก ซึ่งเขามีรายได้ของรัฐบาลมาก ตั้งแต่ 30 % ไปจนถึงกว่า 50%ของรายได้ประชาชาติ ถึงมีเงินมาใช้บริการประชาชน
“นายกฯรู้อยู่แก่ใจอยู่แล้ว รู้อย่างดีที่สุด เพราะเรียนเศรษฐศาสตร์มาด้วย และโตมาจากประเทศที่พัฒนาแล้วว่ารายได้ของประเทศต่ำมาก ฐานภาษีของเมืองไทยแคบ ภาษีทางตรงมีน้อย คนไทยส่วนใหญ่เสียภาษีทางอ้อม ดังนั้นการไม่พูดถึงเรื่องการขยายหรือเพิ่มฐานภาษี แล้วมาบอกว่าบริการของรัฐจะไม่เก็บเงิน แต่กลับจะใช้จ่ายเงินของรัฐมากขึ้นพื่อบริการประชาชน มันจึงเป็นไปไม่ได้เลยสำหรับประเทศที่มีรายได้น้อยอย่างประเทศไทย แต่นายกฯก็ต้องพูดเรื่องอย่างนี้ไว้ก่อน เพื่อหวังว่าจะซื้อใจประชาชนได้ ประชาชนคนไทยก็จะฉลาดพอที่จะรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ เห็นชัดว่าเป็นการพูดเพื่อกลบเรื่องการละเมิดสิทธิเสรีภาพประชาชน การปราบปรามการชุมนุม และใช้วีธีนี้มาดึงคะแนนเสียงจากประชาชนในชนบทที่เป็นจุดอ่อนของประชาธิปัตย์
โดยเฉพาะทางภาคเหนือและอีสาน รัฐบาลจะดันทุรังอยู่ไปให้นานที่สุด แต่ในที่สุดคนก็จะเห็นความล้มเหลวในด้านต่าง ๆชัดเจนมากขึ้นเรื่อย ๆ “ นายจาตุรนต์ กล่าว