ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Tuesday, 6 October 2009

รำลึก6ตุลา เงียบเหงา ไร้เงาคนในรัฐบาล

ที่มา ไทยรัฐ
Pic_37748

นายสุรพล นิติไกรพจน์

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดงานรำลึก 33 ปี เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ไร้เงานักการเมืองมาร่วมในพิธีวางพวงมาลาเหมือนทุกปี ขณะที่ญาติวีรชนจี้รัฐให้ความสำคัญ.....

ผู้สื่อข่าวรายงานวันนี้(6 ต.ค.)ว่า ที่สวนปฎิมากรรมประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีการจัดงานรำลึก 33 ปี เหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 พิธีช่วงเช้ามีการตักบาตรพระสงฆ์ 34 รูป จากนั้น นายสุรพล นิติไกรพจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวเปิดงาน วัฒน์ วรรยางกูล อ่านบทกวีรำลึกวีรชน ญาติวีรชน คนเครือข่ายเดือนตุลา องค์กรประชาธิปไตยและองค์กรนักศึกษาร่วมกันวางพวงมาลาที่ปฎิมากรรม 6 ตุลา

ขณะที่นายสุรพล ปัญญาวชิระ ศิลปินผู้ออกแบบสวนปฎิมากรรมประวัติศาสตร์ ได้แสดงละครเสียดสีความขัดแย้งทางการเมืองด้วยการใช้ธงชาติห่มร่างตัวเองแล้วใช้ตีนตบและมือตบ ที่กลุ่มคนเสื้อแดงและเสื้อเหลืองใช้เป็นสัญลักษณ์ในการชุมนุม ออกมาตีหัวตัวเองไปพร้อมกับการร้องเพลงชาติ และใช้สีดำทาทับปิดสีเหลืองและแดงบนบนเวที เป็นการเรียกร้องให้คนไทยยุติการแตกแยก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในปีนี้ไม่คึกคักเหมือนทุกปีที่ผ่านมา มีคนมาร่วมงานประมาณ 100 คน ในจำนวนนี้มีคนสวมเสื้อแดงมาร่วมงานกว่า 10 คน และเป็นที่น่าสังเกตุว่า ไม่มีนักการเมืองมาร่วมในพิธีวางพวงมาลาเหมือนทุกปี พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ซึ่งเคยมาร่วมงานทุกปีก็ไม่ปรากฎตัวให้เห็น มีเพียงนายอมร อมรรัตานนท์ คนเดือนตุลา ที่ไปเคลื่อนไหวอยู่กับกลุ่มเสื้อเหลืองสวมชุดดำมาร่วมในพิธี แต่นั่งอยู่เงียบๆ ที่ด้านหลัง เพราะเห็นว่า มีกลุ่มคนเสื้อแดงอยู่หลายคนและบางคนแสดงอาการพูดตะโกนด่าระบอบอมาตยาธิปไตยด้วยความไม่พอใจ ซึ่งญาติวีรชนหลายคนที่มาร่วมงานต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ถึงความขัดแย้งในสังคมว่าทั้งสองสี ควรจะวางความขัดแย้งแล้วมาร่วมงานรำลึกวีรชน

นายสุรพล นิติไกรพจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กล่าวว่า เหตุการณ์ 6 ตุลา จะเป็นเครื่องเตือนสติให้คนไทยได้คิดว่า ควรแก้ปัญหาข้อขัดแย้งอย่างสันติ การใช้กำลังความรุนแรง แบบเหตุการณ์ในอดีต ไม่ควรจะเกิดขึ้นอีก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุ จัดงานขึ้นก็เพื่อให้ทุกคน ระลึกถึงความรุนแรง ที่เกิดจากความคิด ความเชื่อ ที่ขัดแย้งกัน ไม่มีประโยชน์ที่คนไทยจะมาเข่นฆ่ากัน ข้อขัดแย้งที่เกิดขึ้นในเวลานี้ ควรจะยุติด้วยสันติวิธีในระบอบประชาธิปไตย ซึ่งจะเป็นสิ่งเดียวที่คนในสังคมจะยอมรับได้

ด้านนางเล็ก วิทยาภรณ์ อายุ 77 ปี ญาติผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ 6 ตุลา กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์เคยเป็นรัฐบาลยุค 6 ตุลา 19 ผ่านมา 33 ปี พรรคประชาธิปปัตย์กลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง อยากถามว่าทำไมวันนี้ คนในรัฐบาลนี้ถึงไม่สนใจเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ที่คนไทยเสียชีวิตจำนวนมาก จะเห็นว่าไม่มีใครมาร่วมงานอยากให้รัฐบาลหันกลับมามองดูบ้าง ในเมื่อเป็นรัฐบาลแล้ว ควรกลับมาแก้ไขเหตุการณ์ในอดีต ให้มีความแจ่มชัด อย่าปล่อยให้ประชาชนที่ออกมาเรียกร้องต้องตายอย่างมัวหมอง

ขณะที่นายจินดา ทองศรี กล่าวเสริมว่า 33 ปีผ่านไป ประชาธิปไตยไทยยังย่ำอยู่ที่เดิม รัฐบาลยังเป็นรัฐบาลเดิม ความขัดแย้งในสังคมก็มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายเหมือนเดิม ก็ไม่เข้าใจว่าทำไมคนในรัฐบาลถึงไม่สนใจงานรำลึกวีรชนคนเดือนตุลา ทั้งที่คนเหล่านนั้นเสียชีวิตเพื่อชาติเพื่ออุดมการณ์.