ปฏิบัติการสายฟ้าแลบ
กรณีพรรคภูมิใจไทยเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมให้แก่ผู้กระทำผิดในการชุมนุมทางการเมืองของประชาชน ต่อนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร
โดยมีเนื้อหาสาระสำคัญ เป็นการนิรโทษกรรมให้แก่ ผู้กระทำความผิดในการชุมนุมทางการเมือง ระหว่างวันที่ 26 พฤษภาคม ถึงวันที่ 3 ธันวาคม 2551 และระหว่างวันที่ 26 มีนาคม ถึงวันที่ 14 เมษายน 2552
เพื่อให้การกระทำทั้งหลายของบุคคลใด ที่เรียกตัวเองว่ากลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) รวมทั้งเจ้าหน้าที่ของรัฐ
ที่เกี่ยวกับการชุมนุมทางการเมืองในสองช่วงเวลาดังกล่าว ไม่ว่าจะกระทำในฐานะตัวการ ผู้สนับสนุน ผู้ใช้ ให้กระทำ ผู้ถูกใช้ ผู้ออกคำสั่ง หรือผู้ปฏิบัติตามคำสั่ง
หากการกระทำนั้นผิดกฎหมายให้พ้นจากความผิดและความรับผิดทางอาญา ทางแพ่ง และทางวินัยอย่างสิ้นเชิง
และให้ศาลปล่อยตัวจำเลยทั้งหมดที่ถูกฟ้องหรือถูกคุมขังอยู่ ให้พนักงานสอบสวนยุติการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดที่ถูกกล่าวหา
อ้างเหตุผลเพื่อต้องการให้เกิดความสามัคคี เนื่องจากการชุมนุมของประชาชนทั้งกลุ่มเสื้อเหลืองและกลุ่มเสื้อแดง เป็นการแสดงออกทางการเมืองโดยสุจริต
แต่ตอนนี้หลายคนถูกดำเนินคดี หากจะทำให้ประเทศสามัคคีกันได้ ต้องให้โอกาสคนเหล่านี้ เพื่อให้หันหน้าเข้าหากัน
พร้อมออกตัวการออกกฎหมายนิรโทษกรรมครั้งนี้ไม่รวมถึงผู้กระทำผิดกรณียุบพรรคการเมือง ยืนยันนักการเมืองบ้านเลขที่ 109 และ 111 รวมทั้งคดีหมิ่นสถาบัน จะไม่ได้อานิสงส์จากกฎหมายฉบับนี้
ในขณะที่นายชัยซึ่งเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย ก็รับลูกสั่งบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วนทันที เพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯในสัปดาห์หน้า
การขับเคลื่อนเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของพรรคภูมิใจไทยแบบสายฟ้าแลบครั้งนี้
ทำให้พรรคร่วมรัฐบาลโดยเฉพาะพรรคแกนนำอย่างพรรคประชาธิปัตย์ และฝ่ายค้าน พรรคเพื่อไทย งงเป็นไก่ตาแตก
จับต้นชนปลายกันไม่ถูกว่า ทะลุ่มทะลุยเสนอเข้ามาได้ยังไง
หรือแม้แต่กลุ่มคนที่จะได้ประโยชน์โดยตรงจากร่างกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับนี้
ทั้งบรรดาแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ "เสื้อเหลือง" และแกนนำกลุ่ม นปช. "เสื้อแดง" ก็ตั้งตัวกันไม่ติด
เพราะไม่มีใครรู้เรื่อง ไม่เคยมีการประสานงานกันมาก่อน
ทั้งฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายค้าน กลุ่มเสื้อเหลือง เสื้อแดง เดาทางกันไม่ถูกว่า การเดินเกมเสนอร่างกฎหมายนิรโทษกรรมของพรรคภูมิใจไทย
มีเป้าหมายอะไรกันแน่
ต้องการสร้างความสมานฉันท์ ลดการเผชิญหน้า แก้ปัญหาความแตกแยกแบ่งฝ่ายแบ่งสี หรือมีวาระแฝงมากกว่านั้น
กลายเป็นปมปริศนาที่ทุกฝ่ายขบคิดวิเคราะห์
อย่างไรก็ตาม แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง รีบออกมาบอกปัดแนวทางนิรโทษกรรมของพรรคภูมิใจไทย โดยมองว่า
มีวาระซ่อนเร้น
พร้อมบลัฟกลับคดีของคนเสื้อแดงจะมาแลกกับคดีของคนเสื้อเหลืองไม่ได้ เพราะความผิดแตกต่างกัน
กลุ่มคนเสื้อเหลืองมีโทษถึงขั้นประหารชีวิตจากการบุกยึดสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง ขณะที่คนเสื้อแดงมีโทษเล็กน้อยจากการปิดถนนเท่านั้น
ในขณะที่แกนนำกลุ่มเสื้อเหลืองก็ปฏิเสธแนวทางนิรโทษกรรมครั้งนี้ โดยระบุว่า
ลึกๆแล้วพรรคภูมิใจไทยหวังนิรโทษกรรมให้ข้าราชการประจำระดับสูงที่อิงแอบกับพรรคการเมือง โดยเฉพาะนายตำรวจใหญ่ที่ต้องรับผิดชอบคดีสลายม็อบหน้ารัฐสภา
และเมื่อร่างกฎหมายนี้เข้าสภาฯก็อาจจะไต่ระดับไปนิรโทษกรรมให้นักการเมืองอีกหลายสิบคนที่ถูกดำเนินคดีต่างๆอยู่ในขณะนี้
ยืนยันคดีความของแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯทุกคนไม่เคยวิตกกังวล พร้อมพิสูจน์ความบริสุทธิ์ใจทุกขั้นตอนในกระบวนการยุติธรรม
เสื้อแดงปฏิเสธ เสื้อเหลืองไม่รับมุก
ในขณะที่แกนนำกลุ่ม 40 ส.ว.ชี้ว่า เจตนาของพรรคภูมิใจ-ไทย ในการยื่นร่างกฎหมายฉบับนี้ ต้องการนิรโทษกรรมให้ เจ้าหน้าที่รัฐที่สั่งการ หรือรับคำสั่งให้ปฏิบัติการในการชุมนุม
ยกความผิดในคดีอาญา คดีแพ่ง และความผิดทางวินัย แต่จะตอบคำถามญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิต ผู้ได้รับบาดเจ็บ และพิการจากเหตุการณ์ สลายการชุมนุมอย่างรุนแรงที่หน้ารัฐสภาเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 ไม่ได้
ที่สำคัญการออกกฎหมายนิรโทษกรรมอย่างนี้อาจจะเป็นการส่งเสริมให้มีการใช้กำลังรุนแรงกับประชาชนหรือไม่ หากร่างกฎหมายนี้เข้าสู่ที่ประชุมวุฒิสภาเชื่อว่าต้องถูกคัดค้านอย่างแน่นอน
ส.ว.ขวางลำการออกกฎหมายช่วยเจ้าหน้าที่รัฐให้พ้นผิด
ขณะเดียวกัน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ระบุถึงการเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของพรรคภูมิใจไทยว่า
คงต้องฟังเหตุผลก่อนว่าครอบคลุมถึงใคร ความผิดอะไรบ้าง และเหตุใดต้องมีกฎหมายลักษณะนี้
กฎหมายนิรโทษกรรมเป็นเครื่องมือหนึ่งที่จะใช้ได้และต้องผ่านกระบวนการตรากฎหมายตามปกติ แต่โดยหลักต้องคำนึงว่า มีเหตุผลพิเศษ เพราะถ้าทำบ่อยหรือทำพร่ำเพรื่อ ก็จะเป็นจุดที่ทำให้คนมองว่า ต่อไปอาจจะละเมิดกฎหมายได้
ฉะนั้น ในแต่ละครั้งที่จะทำต้องมีเหตุผลพิเศษจริงๆ จึงคิดว่าน่าจะดูให้รอบคอบเพราะกฎหมายที่พิเศษอย่างนี้ต้องสามารถอธิบายได้ และคิดถึงอนาคตด้วย
ยืนยันไม่ใช่ร่างกฎหมายของรัฐบาล เพราะรัฐบาลไม่ได้เป็นผู้เสนอและไม่มีนโยบายในเรื่องของนิรโทษกรรม ส่วนที่ประธานสภาฯบรรจุวาระเป็นเรื่องด่วน ถือเป็นดุลพินิจของประธานสภาฯ
เน้นย้ำไม่ใช่ร่างกฎหมายของรัฐบาล โยนให้เป็นเรื่องของสภาฯ
"ทีมข่าวการเมืองไทยรัฐ" ได้ติดตามความเคลื่อนไหวในการเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมของพรรคภูมิใจไทย เพื่อยกเว้นความผิดให้แก่ผู้ชุมนุมกลุ่มเสื้อเหลือง เสื้อแดง และเจ้าหน้าที่ของรัฐในครั้งนี้ เราขอชี้ว่า
เป็นสิทธิที่สามารถจะทำได้ตามครรลองระบอบประชาธิปไตย
และถือว่าถูกต้องที่ใช้เวทีสภา เป็นเวทีในการแก้ปัญหา
ทั้งนี้โดยขั้นตอนในการเสนอร่างกฎหมายเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ เมื่อประธานสภาฯบรรจุระเบียบวาระการพิจารณา
อาจมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาพิจารณาก่อนรับหลักการ หรือรัฐบาลอาจจะรับไปพิจารณาก่อนรับหลักการก็ได้ และอาจมีการเพิ่มเติมหรือเสนอร่างกฎหมายเข้ามาประกบ
หรือเมื่อสภาฯพิจารณารับหลักการแล้วและตั้งคณะกรรมาธิการแปรญัตติ ก็สามารถมีการเพิ่มเติมเนื้อหาเข้าไปได้อีก
ฉะนั้น เมื่อร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเข้าสู่สภาฯ แม้ผู้เสนอร่างกฎหมายฉบับนี้ ยืนยันว่า
ไม่เกี่ยวกับการนิรโทษกรรมนักการเมืองบ้านเลขที่ 109 และ 111
แต่เมื่อร่างกฎหมายเสนอเข้าสู่ขั้นตอนการพิจารณาของสภาฯแล้ว ก็มีความเป็นไปได้ที่จะมีการสอดแทรกเนื้อหาที่เกี่ยวเนื่องกับการนิรโทษกรรมนักการเมืองบ้านเลขที่ 111 และ 109 พ่วงเข้าไปด้วย
หรืออาจรวมไปถึงนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น
ขึ้นอยู่กับความสมประโยชน์ของแต่ละพรรคการเมืองที่มีเสียงสนับสนุนอยู่ในสภาฯ
ขณะเดียวกัน ในขณะที่สภาฯดำเนินการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ก็อาจเป็นเชื้อให้การเมืองนอกสภาฯ ทั้งเสื้อแดง เสื้อเหลือง หยิบเอามาเป็นประเด็นในการเคลื่อนไหวก่อม็อบ
พร้อมที่จะเกิดโรคแทรกซ้อนได้ตลอดเวลา
เหนืออื่นใด ทีมของเราขอชี้ว่า การเสนอร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมให้แก่กลุ่มคนเสื้อเหลืองและเสื้อแดง เพื่อมุ่งหวังให้เกิดความปรองดองสมานฉันท์
คงหวังผลได้ยาก เพราะปรากฏการณ์เสื้อเหลืองและเสื้อแดง ไม่ใช่ต้นเหตุของปัญหา
แต่เป็นปรากฏการณ์ ต่อเนื่องมาจากการไม่ยอมรับ "ระบอบทักษิณ" และการต่อสู้เพื่อทวงคืนอำนาจของ "ระบอบทักษิณ"
ฉะนั้น แม้จะมีการนิรโทษกรรมให้กลุ่มคนเสื้อเหลือง ไม่ต้องรับโทษในกรณีบุกยึดสนามบินสุวรรณภูมิและสนามบินดอนเมือง
และนิรโทษกรรมให้กลุ่มคนเสื้อแดงไม่ต้องรับโทษในกรณีบุกล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่พัทยาและการก่อเหตุจลาจลช่วงสงกรานต์
ไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ
ที่สำคัญเห็นได้ชัดว่า ทั้งแกนนำกลุ่มเสื้อแดงและเสื้อ เหลือง ไม่ได้แสดงท่าทีสนใจไยดีต่อการเสนอร่างกฎหมายนิรโทษกรรมในครั้งนี้
แถมยังตั้งแง่ ตั้งข้อสงสัย พรรคภูมิใจไทยมีเจตนาแอบแฝง
จากปฏิกิริยาที่แสดงออกมา สะท้อนให้เห็นว่า การออกกฎหมายล้างผิดให้กลุ่มเสื้อเหลือง-เสื้อแดง ไม่ได้ช่วยให้ ความสมานฉันท์เกิดขึ้น
ขณะเดียวกันยิ่งจะเป็นการสร้างปัญหา ทำให้ระบบกฎหมาย ระบบนิติรัฐ เสียหาย
เพราะเป็นการแก้ปัญหาให้กฎหมู่ โดยไม่คำนึงถึงกฎหมายบ้านเมือง
เหนืออื่นใด การออกกฎหมายนิรโทษกรรมลักษณะนี้ อาจกลายเป็นตัวอย่าง เป็นบรรทัดฐานก่อให้เกิดปัญหาในอนาคต
ใครใช้กฎหมู่ทำให้บ้านเมืองเสียหาย เดี๋ยวก็นิรโทษกรรมกันได้ ซึ่งจะส่งผลให้ไม่มีใครยำเกรงกฎหมายบ้านเมือง
อย่างไรก็ตาม มาถึงวันนี้เมื่อมีการเสนอร่างกฎหมายนิรโทษกรรมเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ทุกอย่างก็ต้องเดินไปตามขั้นตอน
ถ้าเสียงข้างมากเอาด้วยก็ต้องเป็นไปตามนั้น แต่ถ้าเสียงข้างมากไม่เอาด้วยก็จบไป
แต่ทีมของเราขอย้ำว่า การนิรโทษกรรมให้กลุ่มเสื้อเหลือง-เสื้อแดง ไม่ใช่การแก้ปัญหา ที่ต้นเหตุ ไม่ช่วยให้เกิดความสมานฉันท์
เพราะตราบใดที่ "ทักษิณ" ยังไม่ได้ในสิ่งที่เขาต้องการ วิกฤติความวุ่นวายก็ยังไม่จบ.
"ทีมการเมือง"