ที่มา เวบไซต์ liberalthai
8 มีนาคม 2552
FACTorial: Stop Thai censorship and repression
กลุ่มเสรีภาพต่อต้านการเซ็นเซอร์แห่งประเทศไทย : หยุดเซนเซอร์ หยุดกดดัน
การจับกุมตัวจีรนุช เปรมชัยพร ผู้ร่วมก่อตั้ง FACT สมาชิกของผู้ก่อตั้งไทยเนทติเซนเนทเวร์ค ผู้ดูแลเว็บบอร์ดประชาไท ซึ่งเป็นสื่ออิสระ และนักต่อสู้เพื่อการแสดงออกอย่างเสรีมาอย่างยาวนาน และในวันนี้เป็นการส่งสัญญาณอย่างชัดเจนมาจากรัฐบาลไทยว่า
รัฐบาลไทยไม่ต้องการให้ประเทศไทย มีการแสดงความคิดเห็นอย่างอิสระ ไม่ต้องการให้มีการแสดงความคิดเห็นอย่างเสรี ไม่ต้องการให้มีการถกเถึยง และการแสดงออกอย่างเสรี ไม่ว่าจะเป็นจากทางอินเตอร์เน็ตหรือจากทางหนังสือ ทางข่าว ทางด้านความคิดเห็นในบทบรรณาธิการ ทางภาพยนต์หรือทางสื่อกระจายเสียง สังคมอย่างนี้ จะเป็นสังคมได้อย่างไร ถ้าปราศจากการติดต่อระหว่างกันและกันอย่างเสรี
เว็บบอร์ดแสดงความคิดเห็นในประชาไท และฟ้าเดียวกัน ได้เป็นเป้าหมายของการถูกเซ็นเซอร์ มีข่าวรั่วมาจากทางกระทรวงไอซีที จนถึงวันนี้ รัฐบาลไทย ยังคงหัวชนฝาในเรื่องการเซ็นเซอร์ ที่ขัดต่อหลักรัฐธรรมนูญและขาดความเป็นประชาธิปไตย
รัฐบาลไทยต้องเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง ต่อการแยกขั้วทางการเมืองในสังคมไทย ที่เพิ่มมากขี้นในทุกวันนี้และตลอดไป การที่รัฐบาลสร้างแรงกดดันและใช้อำนาจของกฎหมายโบราณในข้อบังคับเกี่ยวกับ พ.ร.บ. ความผิดทางคอมพิวเตอร์, กฎหมายหมิ่นฯ และใน พ.ร.บ.ความมั่นคง ต่อการใช้อินเตอร์เน็ต เป็นการสักแต่พูดที่ว่า จะมีการต่อรอง มีการรอมชอม หรือมีความเห็นอกเห็นใจ
การดำเนินคดีและการเซ็นเซอร์อย่างไร้หลักการณ์ ต่อการแสดงความเห็นของสื่อไทยทั้งหมดนี้ เพื่อต้องการจะกำจัดความคิดเห็นที่แตกต่างกับตัวเอง เพื่อกำจัดคำวิจารณ์ และเพื่อกำจัดไม่ให้เกิดการแสดงความคิดเห็นอย่างเสรีในประเทศไทย
เมื่อไม่นานมานี้ ประเทศไทยได้เป็นประเทศที่ให้เสรีภาพต่อสื่อมากที่สุดในแถบเอเซีย อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยในตอนนี้ ไม่แยแสในการจะทำให้ประเทศเป็นประชาธิปไตย
จึงเป็นเรื่องที่น่าสงสัยเป็นอย่างยิ่งว่า ความคิดเห็นทั้งหมดในอินเตอร์เน็ต จะมีเจตนาร้ายไปเสียทั้งหมด ความเห็นทั้งหมดที่เราได้อ่านมา เป็นเพียงแค่ความเป็นห่วง และความต้องการเสรีภาพของคนไทย ต่ออนาคตของประเทศอันเป็นที่รักของเรา
รมต.ยุติธรรมของไทยได้กล่าวว่า จะไม่อนุญาตให้มีการดำเนินคดี ต่อผู้ที่ออกความคิดเห็นอย่างไม่ตั้งใจ ที่จะเป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎหมาย แต่การจับกุมที่ยังคงมีอยู่ในทุกวันนี้ ทำให้เห็นว่า การพูดที่มีความเห็นอกเห็นใจ เป็นเพียงการโกหกอย่างหน้าตาย การที่ตำรวจบุกเข้าจับกุมดังกล่าว จะต้องมีการได้รับอนุญาตจากบุคคลระดับรัฐมนตรี แล้วนายกรัฐมนตรีไปมุดหัวอยู่ที่ไหนหรือ
เราไม่ต้องการให้สังคมของเรา มีการถาม มีการวิจารณ์ มีการคิดหรืออย่างไร ให้กลับไปสู่ยุคเผด็จการเหมือนอดีตหรือ ประเทศไทยต้องการเป็นเหมือนพม่า เกาหลีเหนือ หรืออิหร่านจริงๆ หรือ
เรื่องที่ถูกเปิดเผยเมื่อไม่นานมานี้ เกี่ยวกับคุกลับของอเมริกาในประเทศไทย ที่ตั้งขี้นเพื่อใช้ทรมานชาวต่างชาติ ด้วยความร่วมมือของกองทัพไทย เป็นเรื่องที่โด่งดังมากไปกว่าการพูดซ้ำซากของนักการเมืองไทย ทั้งหมด เป็นการเปลี่ยนจากการใช้เป็นคุกลับ มาเป็นคุกลับของตำรวจแทน ไม่มีใครปลอดภัยในประเทศไทย
การที่เจ้าหน้าที่หน่วยปราบปรามอาชญากรรมของตำรวจแห่งราชอาณาจักรไทย บุกเข้าจู่โจม จับกุมจีรนุชในวันนี้ ประชาไทเป็นเพียงผู้สื่อข่าวไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย นี่เป็นทำนอง “การปราบปราม” เพื่อต้องการจะเยียวยารักษาสังคมไทยจริงๆ หรือ
ระบบการปกครองแบบเจ้าขุนมูลนาย เป็นเหมือนการเติมเชื้อฟืน ซึ่งจะเป็นการทำลายประเทศไทย และทุกๆอย่าง การกดดันทางการเมืองแบบนี้ จะทำลายความสำเร็จต่างๆ ที่กษัตริย์ได้สร้างมามากกว่า ๖๐ ปี ให้หมดสิ้นไป ลองมองเนปาลว่า เกิดอะไรขี้น เมื่อไม่มีที่ว่างเหลือให้มีการประนีประนอมกัน
การกดดันทางการเมืองนี่ ส่งผลให้มีการต่อต้านทางใต้ดิน เหมือนที่เคยเกิดขี้นกับประเทศไทยในอดีต ระหว่างการเปลี่ยนแปลงจากระบบสมบูรณาญาสิทธิราช มาเป็นระบบกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ เมื่อปี ๒๔๗๓ ระหว่างที่ประเทศไทย ถูกกองทัพญี่ปุ่นเข้ายึดครองในช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒ ระหว่างที่ประเทศไทย มีการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ในเดือนตุลาคม ๒๕๑๓ และแม้แต่ระหว่างพฤษภาทมิฬในปี ๒๕๓๕ นี่คือความตั้งใจรัฐบาลไทยหรือ ในการใช้เป็นเหตุอ้างว่า การกดดันทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง เป็นเรื่องเหมาะสมแล้ว
- เราต้องการให้มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายสาธารณะในไทย เราต้องการรัฐบาลสำหรับประชาชนไม่ใช่เป็นศัตรูกับประชาชน
- เราทั้งหมดมีสิทธิที่จะแสดงออกอย่างเสรี FACT เรียกร้องให้หยุดการใช้กฎหมายไทย ในทางผิดเพียงเพื่อเป็นเครื่องมือในการกดดันทางการเมือง
- เราขอเรียกร้องให้มีการยกเลิกข้อกล่าวหาทั้งหมดที่มีต่อจีรนุช และประชาไท
หยุดการดำเนินคดีทางการเมืองในประเทศไทย เดี๋ยวนี้
แปลและเรียบเรียง - chapter 11
ที่มาต้นฉบับภาษาอังกฤษ คลิกลิงก์