ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Friday, 6 March 2009

เรียกม็อบ

ที่มา ข่าวสด

เหล็กใน




เกือบ 3 เดือนแล้วที่พรรคประชาธิปัตย์ เข้ามาบริหารประเทศ

ด้วยสาเหตุจากการชุมนุมของพันธมิตร และการยุบพรรคพลังประชาชน ชาติไทย และมัชฌิมาธิปไตย

ทำให้มีอำนาจพิเศษฉวยโอกาสเข้ามาช่วยจัดตั้งรัฐบาลจนเป็นผลสำเร็จ

ที่ผ่านมา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็ยังไม่ได้แสดงความโดดเด่น หรือโชว์ศักยภาพความเป็นผู้นำออกมาได้เต็มที่

อำนาจของนายกฯ ถูกลอดทอนด้วยรังสีอำมหิตของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ กองทัพ แกนนำกลุ่มเพื่อนเนวิน รวมถึงหัวโจกพันธมิตรบางคน

แม้จะมีรายการยกหางกันเองด้วยโทรโข่งระดับขนเพชรว่านายอภิสิทธิ์โกอินเตอร์ เทียบชั้นได้กับผู้นำของโลกชาติอื่นๆแล้ว

แต่ของจริงเป็นอย่างนั้นหรือไม่ ชาวบ้านตัดสินได้เอง

การประชุมอาเซียนซัมมิตที่ผ่านพ้นไป ชาวบ้านมีความรู้สึกว่าไม่ได้เกี่ยวข้องและไม่ได้อะไรด้วยเลย

งบกระตุ้นเศรษฐกิจกว่า 1 แสนล้านที่นำมาหว่าน เป็นน้ำที่สาดเข้าไปไม่ตรงกับจุดที่ไฟลุกไหม้

เสียทั้งน้ำ แถมไฟก็ไม่ดับอีกต่างหาก

แม้จะได้เป็นรัฐบาล แต่ก็ยังติดนิสัยฝ่ายค้าน นั่นคือแทนที่จะตั้งใจทำงานพิสูจน์ฝีมือ กลับมาเสียเวลาตอบโต้คู่แข่งทางการเมืองรายวัน

โดยเฉพาะกรณีพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรนั้นจะเอาเป็นเอาตายให้ได้

นายกฯถึงขนาดสั่งการด้วยตัวเองว่ากระทรวงการต่างประเทศ สำนักงานอัยการสูงสุด และเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องลากตัวมาดำเนินคดีให้ได้

ทำไมกรณีกำนันเป๊าะ หรือนายวัฒนา อัศวเหม จึงไม่แสดงความขึงขังอย่างนี้

แต่กับการดำเนินคดีกับแกนนำพันธมิตร พอเจอนักเลงโตส่งเสียงขู่เข้าหน่อยก็หงอ

สำหรับสถานการณ์ต่อจากนี้ หลังนายกฯสั่งให้รัฐมนตรีลงพื้นที่ บรรยากาศทางการเมืองก็คงจะกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง

คงจะได้รับการต้อนรับจากกลุ่มเสื้อแดงแน่ๆ

เรื่องร้อนๆที่เคยเกิดขึ้นหน้าทำเนียบรัฐบาล ก็จะเข้มข้นกระจายไปตามจังหวัดต่างๆ

โดยเฉพาะพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสาน

บางทียุทธวิธีที่อ้างว่าจะสร้างความเข้าใจกับประชาชน อาจเป็นการลงไปท้าทายก็ได้

ถือเป็นงานหนักของฝ่ายปกครองที่จะต้องป้องกัน ไม่ให้มีม็อบไล่รัฐมนตรี ถ้าห้ามไม่ได้ เอาไม่อยู่ ก็คงมีรายการย้าย สั่งเด้งล้างบางตามมา

เรื่องอย่างนี้ถ้าประสบผลสำเร็จ ไม่มีเหตุการณ์รุนแรงก็น่ายินดี

แต่ถ้าลงไปแล้ว กลับกลายเป็นการไปเรียกม็อบให้ตามมาแล้ว

รัฐบาลเห็นท่าจะอยู่ลำบาก