ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Monday, 16 February 2009

หากทักษิณยังอยู่ ดอน สอนระเบียบ ก็คงไม่ต้องไปรบกวนเบื้องพระยุคลบาทสมเด็จพระราชินิเป็นแน่

ที่มา thaifreenews

บทความโดย..ลูกชาวนาไทย



จากข่าวที่ คุณดอน สอนระเบียบ อดีตดาราและนักร้องชื่อดังได้รับพระเมตตาจากสมเด็จพระนางเจ้าฯ รับไว้เป็นคนไข้พิเศษ ของพระองค์ท่าน ตามข่าวนี้

[url]http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=190883&NewsType=1&Template=1[/url]

ได้ยินข่าวนี้ ผมรู้สึกนึกรันทดในใจอย่างยิ่ง เพราะหากท่านายกฯทักษิณยังอยู่ โครงการสามสิบบาทรักษาทุกโรคยังคงอยู่ สังคมไทยคงช่วยคนเจ็บป่วยอนาถาได้มากกว่านี้ เพราะช่วงที่ทักษิณอยู่นั้น ผู้ป่วยจำนวนมากได้รับการรักษา และเข้าถึงบริการรักษาโรคไม่ว่าโรคหัวใจหรือป่วยหนักแค่ไหนก็ตาม ต่างก็สามารถเข้าถึงบริการได้อย่างเท่าเทียมกัน ไม่ต้องไปรบกวนระคายเคืองเบื้องพระยุคคลบาท อย่างคุณดอน สอนระเบียบนี้


เพราะแม้พระองค์ท่านจะทรงมีพระเมตตาสูงเพียงใดก็ตาม แต่ก็คงช่วยคนเจ็บป่วยเช่นนี้ได้จำนวนน้อยนิดของสังคม อย่างมากก็ไม่เกินสิบยี่สิบคนหรือร้อยคน แต่สังคมเรามีคนป่วยเช่นคุณดอนนี้จำนวนพันคนหรือมากกว่า พวกเขาจะทำอย่างไร หากความเดือดร้อนจากการเจ็บป่วยของเขา ไม่ได้ยินไปถึงพระกรรณของสมเด็จฯท่าน เพราะอาจอยู่ไกล จนพระองค์ท่านไม่ได้รับรู้ ซึ่งคาดว่ามีอีกเป็นจำนวนมาก

นึกแล้วก็เสียดายโครงการดีๆ ของท่านนายกฯทักษิณ เช่น ระบบประกันสุขภาพ ซึ่งท่านนายกฯทักษิณนำมาเรียกว่า โครงการสามสิบบาทรักษาทุกโรคนั่นแหละครับ ซึ่งที่จริงชื่อที่ใช้ในวงการสาธารณสุขที่เขาเรียกกันคือ ระบบ Comprehensive Health System ซึ่งระบบนี้ถือว่า ประชาชนทุกคนที่เจ็บป่วยต้องได้รับการรักษา และ "เข้าถึง" บริการอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าคนๆ นั้นจะยากจน ไม่มีเงิน ไร้ชื่อเสียงเช่นใดก็ตาม ก็เหมือนๆ กับที่เราได้รับรู้ในยุคที่ท่านนายกฯทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรี คนแก่จำนวนมากที่เป็นโรคหัวใจก็ได้รับการผ่าตัด แม้จะมีค่ารักษาเป็นแสน แต่ก็เสียเพียงสามสิบบาทเท่านั้น และคนแก่เหล่านี้ แม้จะอยู่ในหมู่บ้านห่างไกล ก็ตาม ระบบก็ไม่ได้กีดกันคนเหล่านี้ออกไป

ในประเทศอังกฤษที่ไม่มี "บัตรประชาชน" โรงพยาบาลจะรับคนไข้ทุกคนไม่ว่าจะมีสัญชาติใดๆ เขาก็ไม่ถามด้วยซ้ำ เพราะวถือว่า แพทย์ไม่มีสิทธิปฎิเสธการรักษาผู้ป่วยทุกกรณี เคยมีรัฐมนตรีมหาดไทยอังกฤษที่ต้องการให้มีการทำบัตรประชาชน ก็ได้รับการต่อต้าน เพราะในบัตรหากระบุสัญชาติ แพทย์เขาก็ไม่มีสิทธิปฎิเสธการรักษา ท้ายสุดก็ต้องล้มเลิกไป

กรณีคุณดอน สอนระเบียบ ถือว่าเป็นผู้ที่ได้รับโชคดี เทียบได้กับการถูกล็อตเตอรี่รางวัลที่หนึ่งทีเดียว แต่เราเคยมีระบบที่ไม่ต้องการ "คนที่ถูกหวย" เช่นนี้ แต่คนอีกนับพันนับหมื่น ที่ไม่โชคดีเหมือนคุณดอน ก็ต้องทนทุกข์ทรมานต่อไป เราเคยมีระบบที่ประกันว่า ประชาชนทุกคนที่เจ็บป่วยต้องได้รับการรักษาและเข้าถึงบริการทุกคน

ที่จริงระบบที่ท่านนายกฯทักษิณ สร้างเอาไว้นั้นดีเยี่ยมแล้ว

เฮ้อ สังคมไทยเสียดายสิ่งดีๆ
ปีหนึ่งๆ เราจะมีคนโชคดีเช่นคุณดอน สักกี่คน

ในยุคทักษิณ นิยายน้ำเน่าที่เราเคยได้ยินในสมัยก่อน เช่น ลูกสาวขายตัวเอาเงินไปรักษาแม่ที่เป็นโรคหัวใจ หายไปอย่างสิ้นเชิง เพราะไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้นอีกแล้ว แค่ไปที่โรงพยายาบาลก็ได้รับการรักษา ภายใต้ระบบประกันสุขภาพที่รัฐบาลได้สร้างเอาไว้แล้ว

สังคมไทยของเรา คงต้องต่อสู้เพื่อให้ได้สิ่งดีๆ กลับคืนมาครับ

ผมขอแสดงความยินดี กับคุณดอน สอนระเบียบด้วยนะครับ ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณอย่างล้นพ้นเช่นนี้ครับ ครอบครัวของคุณดอน ควรซาบซึ้งในพระคุณเช่นนี้ตลอดไป



ก็ไม่ต่างจากชาวรากหญ้าทั้งหลายที่เคยได้รับอานิสงค์จากโครงการสามสิบบาทรักษาทุกโรคของท่านนายกฯทักษิณ ชินวัตร ก็ซาบซึ้งในความกล้าคิดกล้าทำของท่านนายกฯทักษิณ และแม้ท่านจะต้องอยู่ห่างจากประเทศไทย เพราะปัญหาทางการเมือง และความอยุติธรรมในสังคมไทย แต่คนไทยจำนวนหลายแสนหลายลานคนที่ได้รับอานิสงค์นี้ คงไม่อาจลืมท่านอดีตนายกฯทักษิณได้ครับ