คอลัมน์ เหล็กใน
มันฯ มือสือ
แต่หลายคนยังอดเป็นห่วงไม่ได้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ หญิงมือใหม่ จะมีความสามารถจัดการกับปัญหาน่าปวดหัวนี้อย่างไร
ยังดีที่ลำพังเพื่อไทยพรรคเดียวมีส.ส.เกินครึ่งสภา จึงตัดปัญหาวุ่นวายในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆ ไปได้
เหลือแค่การต่อรองภายในของพรรคตนเอง ที่ถึงจะเป็นแค่สีสันแต่ก็เป็นสีสันที่ร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ ไม่รู้ว่าจะบานปลายไปถึงจุดใด
เนื่อง จากพรรคเพื่อไทยมีองค์ประกอบภายใน หลายกลุ่มก๊วน ซึ่งก็เป็นธรรมดาเช่นกันที่แต่ละกลุ่มก๊วนต้องการผลักดันแกนนำกลุ่มตนเอง เข้ามามีตำแหน่งในรัฐบาล
บางกลุ่มขอเพียงมีตำแหน่งรัฐมนตรีไว้ประดับ บารมี จะกระทรวงใดก็ได้ ไม่เกี่ยง แต่บางกลุ่มก็ "ล็อกสเป๊ก" มาเลยว่าต้องกระทรวงเกรดเอ เกรดต่ำกว่านั้นไม่เอา
เข้าทำนองได้คืบเอาศอก โดยอ้างว่าตนเองมีสิทธิ์เรียกร้องเก้าอี้ใหญ่ เพราะมีส่วนสำคัญในการปรา ศรัยช่วยให้พรรคชนะเลือกตั้งถล่มทลาย
หรือ อย่างบางคนที่ไม่มีคุณสมบัติความรู้ความสามารถพอ ก็จะใช้วิธีอ้างเป็นสายตรง "นายใหญ่" บางคนก็วิ่งเข้าหาญาติพี่น้องคนใกล้ชิดตระกูลชินวัตร หรือผู้ใหญ่ในบ้านเลขที่ 111 ขอตำแหน่งกันดื้อๆ
สุดท้ายถ้าพรรคไม่มีท่าทีตอบสนองก็จะแสดงอาการกระฟัดกระเฟียด แอบไปตั้งวงด่าผู้บริหารพรรคลับหลัง หนักเข้าก็ขู่จะก่อแรงกระเพื่อม
เลยเถิดถึงขั้นขู่ถอนตัวจากพรรค
เดือด ร้อนถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องปากเปียกปากแฉะ ฝากไปถึงลูกพรรคขอให้ใจเย็นๆ เพราะขณะนี้โผรายชื่อต่างๆ ที่ออกมาทางหน้าหนังสือ พิมพ์ ยังไม่ใช่ข้อสรุป
และพรรคไม่เคยลืมคนที่ร่วมทุกข์ร่วมสุข
อย่างไรก็ตามรายชื่อรัฐมนตรีที่ออกมา คือบททดสอบแรกในการก้าวสู่วังวนการเมือง ว่าน.ส. ยิ่งลักษณ์ มีคุณสมบัติเหมาะกับ "ผู้นำประเทศ"
หรือ เป็นได้แค่ "ผู้นำพรรคการเมือง" ที่บุญพาวาสนาส่งให้ได้เป็นนายกฯ แล้วต้องมาติดอยู่ภายใต้กับดักอิทธิพลเครือญาติ กับแรงกดดันจากกลุ่มก๊วนในพรรคไปตลอด
จนไม่อาจเป็นตัวของตัวเอง