ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Thursday, 4 August 2011

จดหมายจากตระกูลวิวัชรวงศ์ ลงวันที่ 29 ก.ค. 54

ที่มา Thai E-News


ภาพประกอบบทความใน New Mandala

แปลโดย ดวงจำปา
ที่มา Internet Freedom

หมายเหตุไทยอีนิวส์:คุณแอนดรูว์ วอล์กเกอร์ ได้นำจดหมายฉบับหนึ่งที่อ้างว่าเขียนโดยคนในตระกูลวิวัชรวงศ์ 4 คน ลงวันที่ 29 กรกฎาคม 2554 เผยแพร่ในเวบไซต์New Mandala โดยเขาแจ้งว่าไม่มีใครยืนยันได้ว่า เป็นของแท้ แต่เนื้อหาสาระนั้นมีความสำคัญหลายอย่าง ที่น่าจะได้ทราบกัน

ไทยอีนิวส์ ได้สอบถามไปยังนักวิชาการผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์สมัยใหม่ดร.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล เพื่อตรวจสอบ(Double check)เกี่ยวกับจดหมายฉบับนี้ ดร.สมศักดิ์กล่าวว่า "ผมไม่แน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์ในความเป็น "ตัวจริง" ของจดหมายฉบับนี้ (แต่ฉบับปี 1998 ผมว่าคงของจริง เพราะมีเอกสารประกอบเยอะแยะ) แต่ค่อนข้างไปในทางว่าน่าจะเป็นของจริง เพราะ (ก) สำนวนและเรื่องที่เล่าเทียบกับฉบับปี 1998 ค่อนข้างคล้ายๆกัน และ (ข) ผมนึกไม่ออกว่าจะมีใครกล้าถึงขนาด "ปลอม" ชื่อ คนระดับนี้

อย่างไรก็ตาม มีคนเสื้อแดงคนหนึ่ง ที่อยู่ในยุโรป (ใช้นามแฝง)ซึ่งผมไม่รู้จัก บอกมาว่า เพื่อนของเขาคนหนึ่ง โทรไปคุยกับ 1 ใน 4 คนนั้น แล้วได้รับคำตอบจากคนนั้นว่า "ไม่รู้เรื่องจดหมายนี้" ..
ผมก็ไม่รู้จะเชื่อได้แค่ไหน (หรือกระทั่ง เป็นไปได้หรือไม่ว่า ใน 4 คนนั้น อาจจะไม่ได้รู้เรื่องทุกคน อาจจะมีบางคนทำแต่คนอื่นไม่รู้หรือเปล่า?)

ในการเผยแพร่ครั้งนี้ ไทยอีนิวส์ได้เซ็นเซอร์ข้อความที่พาดพิงไปยังบุคคลที่3ออกทั้งหมด

29 กรกฎาคม 2554

เพื่อนพ้องน้องพี่ที่เคารพรักทุกท่าน

ปีนี้ก็เป็นปีที่สิบห้า ที่พวกเราได้มาอาศัยอยู่ในต่างประเทศหลายปีที่ผ่านมา พวกเราได้รับการให้กำลังใจที่เต็มไปด้วยความเมตตากรุณาและความปรารถนาดีจากทางอินเตอร์เนทและอีกหลายๆ แห่งจากประชาชนของประเทศไทย ที่กล่าวมานี้ รวมไปถึงทั้งภายในประเทศไทยและทั่วทุกมุมโลก.

เราขอแสดงความขอบคุณจากเบื้องลึกของหัวใจเรา ด้วยความเคารพนอบน้อม และเราขอขอบพระคุณที่ท่านทั้งหลาย ไม่เคยลืมพวกเราเลย

เราได้ทราบมาว่า มีบางท่านที่ยังสงสัย หรือมีคำถามเกี่ยวกับว่าเราไปอยู่แห่งหนตำบลใดภายในหลายปีที่ผ่านมา เพื่อเป็นการลบล้างข้อสงสัยและข่าวลือที่ปราศจากความจริง เราจึงตัดสินใจที่จะขอใช้โอกาสนี้เพื่อที่จะเปิดเผยให้ทราบถึงสถานการณ์ของพวกเรา

หลายปีที่ผ่านมา เราได้รอคอยอย่างอดทน ต่อคำสั่่ง (เซ็นเซอร์ –ไทยอีนิวส์) เพื่อให้เราทั้งหมด เดินทางกลับไปยังประเทศไทยได้

ก็เหมือนกับอย่างที่เป็นอยู่ในตอนนี้ เราไม่ได้รับคำตอบใดๆ เลยจากพ่อของเรา คือ (เซ็นเซอร์) หรือ แม้แต่การติดต่อใดๆ ก็ตามจาก(เซ็นเซอร์) เมื่อปี พ.ศ. 2539, ในขณะที่กำลังศึกษาอยู่ในประเทศอังกฤษ พ่อของเราได้ออกคำสั่งไม่ให้พวกเราเดินทางกลับบ้านในประเทศไทย

เราได้รับคำสั่งโดยเฉพาะเจาะจงว่า เราไม่สามารถที่จะใช้ ตำแหน่งของทาง(เซ็นเซอร์)ได้ และต้องใช้นามสกุล “วิวัชรวงศ์” แทนไม่ว่าจะเป็นเวลาใดก็ตาม เราไม่เคยที่จะสละตำแหน่งของเราทางฝ่าย(เซ็นเซอร์)โดยสมัครใจ หรือเลือกที่จะยอมใช้นามสกุล (“เซ็นเซอร์”) แทน เนื่องจากว่า เราไม่ได้รับความช่วยเหลือสนับสนุนจากทาง(เซ็นเซอร์) โดยทางการเงินหรือเรื่องใดๆ พวกเราได้ย้ายถิ่นฐานมาอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกากับแม่ของพวกเรา

เมื่อตอนที่พวกเรายังเล็กอยู่, เราไม่เข้าใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรงกับชีวิตของพวกเรา หรือเราก็ไม่สามารถที่จะจับความได้ว่าทำไม พวกเราจะต้องใช้ชีวิตอยู่นอกประเทศที่พวกเรารักเป็นอย่างยิ่ง

แม่ของเรานั้น ได้เตือนเราเสมอว่า เราจะต้องกระทำตามคำสั่งของทางฝ่าย(เซ็นเซอร์) และเราจะต้องแสดงให้เห็นถึงความกตัญญูและให้ความเคารพ สถานการณ์ของพวกเราในขณะนั้น ไม่เป็นเรื่องที่ง่ายดายเลย อย่างไรก็ตาม เราก็ไม่ได้ยืนอยู่กับที่ แทนที่จะเป็นอย่างนั้น เราก็ได้เรียนรู้ด้วยการฉุดตนเองไปสู่จุดมุ่งหมายที่สูงที่สุดในชีวิต และจะประพฤติในรูปแบบที่จะไม่นำความเสื่้อมเสียและน่าอับอายมาสู่(เซ็นเซอร์)เป็นอันขาด

จุฑาวัชร์ได้รับปริญญาตรีในสาขาการบินและการบำรุงรักษา และปริญญาโทในสาขาวิทยาศาสตร์การบิน
หลังจากที่ทำงานอยู่ในกลุ่มงานเกี่ยวกับการบิน ในตอนนี้ เขาก็เข้าเรียนในคณะกฎหมายเพื่อที่จะได้รับปริญญาบัตรทางดุษฎีบัณฑิตในสาขานิติศาสตร์

สำหรับวัชรศรนั้น หลังจากที่เขาได้รับปริญญาตรีในสาขารัฐศาสตร์, ดุษฎีบัณฑิตทางด้านกฎหมาย และ ปริญญาโทสาขานิติศาสตร์ ในตอนนี้ก็ได้ประกอบอาชีพทนายความอยู่

จักรีวัชร์ ได้รับปริญญาตรีทางด้านชีวจิต สาขาเคมีเป็นศาสตร์รอง ในตอนนี้เขากำลังเรียนอยู่ในวิทยาลัยการแพทย์ และในไม่ช้าจะเริ่มไปประกอบอาชีพวนเวียนอยู่ในทางคลีนิค

วัชรวีร์ได้รับปริญญาตรีสองแขนงทางด้านธุรกิจต่างประเทศและทางการคลังและได้รับปริญญาโททางสาขาบริหารธุรกิจ ขณะนี้เขากำลังเรียนอยู่ในสาขานิติศาสตร์ เพื่อที่จะได้รับปริญญาเอกทางกฎหมาย

นอกจากนี้ เราทั้งหมดก็ยังได้ตระหนักถึงข่าวลือมากมาย ที่ได้ถูกเผยแพร่วนไปวนมาอยู่ในเรื่องสุขภาพของจักรีวัชร์ ข้อเท็จจริงก็คือว่า จักรีวัชร์นั้น กำลังต่อสู้กับโรคท้าวแสนปม (ประเภทที่สอง) ตั้งแต่เขาอายุได้ สิบสามปี โรคที่ทำให้เกิดเนื้องอกปรากฏขึ้นรอบๆ ระบบประสาทของเขาและการผ่าตัดหรือการบำบัดรักษาโดยใช้รังสีช่วยนั้น จะต้องทำในทุกๆ ปี หรือเป็นระยะเวลาแบบนั้น หรือไม่ก็ต้องรักษาเนื้องอกเหล่านี้ เนื่องจากว่าเขาได้รับการฉายรังสีมาเป็นจำนวนนับครั้งไม่ถ้วน จึงเกิดความเสียหายต่อเส้นประสาทในระบบการฟัง
และเขาก็เริ่มหูหนวกอยู่หนึ่งข้าง เขาจะได้รับการผ่าตัดอีกครั้งในเดือนสิงหาคมของปีนี้ แม้ว่าจะต้องฟันฝ่าขั้นตอนหลายๆ อย่างแสนสาหัสเป็นกิจวัตรธรรมดา จักรีวัชร์ก็ยังมีความตั้งใจอย่างมุ่งมั่นที่จะสำเร็จการอบรมทางการแพทย์ของเขา

เป็นเวลาหลายปี ที่เราได้ใช้ชีวิตของพวกเราอยู่อย่างเงียบๆ ซึ่งก่อให้เกิดการคาดเดาว่า เรามีความปรารถนาที่จะตั้งรกรากอยู่ในต่างประเทศ ในทางตรงกันข้าม แม้ว่าเราต้องการที่จะกลับมาเหลือเกิน เราก็ไม่ที่สามารถฝ่าฝืนกฎระเบียบที่สั่งไม่ให้เราเดินทางกลับมา หรือแม้กระทั่งให้ความเห็นเพื่อเป็นการแก้ไขชื่อเสียงของพวกเรา เรากลัวที่จะเสี่ยงในการกระทำแบบนี้ แม้เพียงที่จะสรุปความคิดเห็นอย่างน้อยนิด ซึ่งอาจจะกลายเป็นความไม่เคารพต่อ(เซ็นเซอร์)ได้

พวกท่านหลายคนอาจจะสงสัยว่า ทำไมเราถึงไม่กล่าวออกมา เพื่อโต้ตอบข่าวลือที่ปราศจากความจริง หรือข้อกล่าวหาที่มีต่อพวกเราทุกคน ความจริงนั่นก็คือ มันเป็นเรื่องที่ดี ในการยอมเจ็บเป็นทุกข์อยู่เงียบๆ
มากกว่าที่จะเสี่ยงในการทำความเสียหายต่อ(เซ็นเซอร์)

เราไม่เคยท้อถอยในความปรารถนาที่ว่า สักวันหนึ่ง เราจะได้รับคำสั่งจากประเทศไทยที่อนุญาตให้เรากลับบ้านได้ ทุกๆ ปี เราได้เขียนจดหมายถึงคุณปู่คุณย่าของเรา,(เซ็นเซอร์), คุณพ่อของเรา, คือ (เซ็นเซอร์)และคุณน้าของเรา คือ (เซ็นเซอร์) เราได้เขียนเพื่อที่จะให้พวกเขาได้รับรู้ถึงความเป็นอยู่ในคราวล่าสุดของพวกเรา
โดยอธิบายพวกเขาให้ทราบถึง ความก้าวหน้าในการเรียนด้านวิชาการต่างๆ รวมไปถึงเรื่องทางการแพทย์ หรือ แม้กระทั่งส่งความปรารถนาดีไปยัง(เซ็นเซอร์)เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ หรือวันเกิด อย่างไรก็ตาม ไม่มีท่านผู้ใดเคยตอบจดหมายที่เราส่งไปให้เลย การสื่อสารนั้น เป็นอยู่ทางฝ่ายเดียวโดยเสมอ

หลายท่านยังได้คาดคะเนเกี่ยวกับสถานการณ์ของพวกเรา หรือไม่ก็ช่วยกระพือข่าวลือที่ปราศจากความจริงและเต็มไปด้วยความพยาบาทเกี่ยวกับพวกเรา แทนที่จะกล่าวถึงประเด็นเหล่านี้อย่างเปิดเผย และเสี่ยงที่จะโจมตีทางฝ่าย(เซ็นเซอร์) พวกเราได้ตัดสินใจที่จะอยู่อย่างเงียบๆ เราเพียงต้องการที่จะใช้จดหมายเปิดฉับบนี้
ให้เป็นโอกาสที่จะขอบคุณประชาชนชาวไทยหลายๆ ท่านที่ยังเป็นห่วงและจำพวกเราได้ และเพื่อที่จะแจ้งให้ทราบอย่างชัดเจนว่า ทุกๆ วันที่ผ่านไป พวกเรามีความปรารถนาที่จะเดินทางกลับไปยังประเทศไทย

เป็นเวลาสิบห้าปีแล้ว ที่เราไม่เคยเข้าไปเหยียบผืนแผ่นดินไทยของเรา และเราคิดถึงประเทศของเราเกินกว่าที่จะพรรณาได้ อย่างไรก็ตาม จนกว่าเราจะได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับได้ พวกเราก็จะยังคงยืนยันความจงรักภักดีที่มีต่อ(เซ็นเซอร์) และสวดมนต์ภาวนาให้กับอนาคตของประเทศอันเป็นที่รักของพวกเรา

พวกเราขอแสดงความนับถือทุกท่านเป็นอย่างยิ่ง

จุฑาวัชร์

วัชรศร

จักรีวัชร์

วัชรวีร์