โดย kajokkub
กองพลน้อยที่ 70 (นี้แค่กองทัพน้อย) กัมพูชา สวนสนามโชว์อาวุธใหม่ๆ ณ.ชานกรุงพนมเปญ
Type 59 รถถังหลัก กองทัพกัมพูชา ที่จีนนำ T-54/55 ของ USSR มาลอกเลียนแบบ พัฒนา และ ผลิต
จากภาพล่าสุดทหารม้ากัมพูชา กองพลน้อยที่ 70 นำออกมาโชว์สวนสนาม เต็มรูปแบบครบเครื่อง combat suit
คาดว่า กองทัพบกกัมพูชา มี Type 59 และ T-54/55 มากกว่า 350 คัน รวมถีงรถถังใหม่จำนวนหนึ่ง
ที่สั่งซื้อจากจีน ไม่นานมานี้
BM 21 เครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง ขนาด 122 มม. ติดตั้งบนรถบรรทุก Ural-375D รวมทุกขนาด
ทั้ง BM-13, BM-14 ,Type63 กองทัพกัมพูชาน่าจะมีในครอบครองกว่า 20,000 ลูก (ราคาลูกละ 3,000 us$)
PF-89 เครื่องยิงจรวดต่อสู้รถถัง (คจตถ) ขนาด 80มม. รุ่นใหม่จากจีน ระยะยิงหวังผล 200 ม.อานุภาพสูง
เทียบเท่า M136 AT-4 USA. ไว้รับมือรถถังไทยทุกรุ่น เพื่อเสริมและทดแทน RPG-7 ที่เขมรยังมีอยู่ อีกเหลือเฟือ
AT-4 USA
FN-6 หรือ FeiNu-6 ขีปนาวุธนำวิถี พื้นสู่อากาศ 80 มม.ล่าสุดจากจีน
กองร้อยขีปนาวุธต่อสู้อากาศยาน นำติดตั้งแท่นคู่บนรถจี๊ปเล็ก คลื่อนที่เร็ว คล่องตัว
ที่ผู้นำกัมพูชาประกาศกร้าวว่าจะสอยเครื่องบินไอพ่นและอากาศยานทุกลำที่ล่วงละเมิดน่านฟ้าประเทศเขมร
ยังไม่นับรวม SA-7Grail, HN-5, FN12/16 จำนวนมาก และ C-125M(SA-3) ขีปนาวุธต่อสู้อากาศยานอีก33ระบบ
สมเด็จฯ ฮุนเซน กล่าว
"ผมอยากจะบอกพวกคุณว่า ถึงแม้ว่าขีปนาวุธพวกนี้จะมีราคาถึงลูกละ 120,000 ดอลลาร์ ก็จะหาซื้อมันมา"
กัมพูชาได้ทำลายขีปนาวุธต่อสู้อากาศยานแบบประทับบ่ายิง แล้ว 270 ลูก
เพื่อแลกกับข้อเสนอความช่วยเหลือจาก สหรัฐอเมริกา ในหลายปีก่อน
แต่ สมเด็จฮุนเซ็น ก็ได้จัดหา ขีปนาวุธรุ่นใหม่ ที่ทันสมัยยิ่งกว่า เข้าประจำการอีกเป็นจำนวนมาก
ก็คือ FN-6 หรือ FeiNu-6 หรือ HongYing 6 นั่นเอง
ภาพแฟ้มเอเอฟพี วันที่ 18 พ.ย.2548 กองทัพกัมพูชาจัดพิธีระเบิดทำลายขีปนาวุธต่อสู้อากาศยาน SA-3 หรือ C125M ที่มีใช้ทั้งหมด 36 ลูก ภายใต้อำนวยการของรัฐบาลสหรัฐฯ ที่เกรงว่าจะตกไปถึงมือกลุ่มก่อการร้ายข้ามชาติ สมเด็จฯ ฮุนเซนเปิดเผยว่าที่ผ่านมามีการทำลายขีปณาวุธแบบต่างๆ ไปแล้ว 270 ลูก แต่ก็ยังมีเหลืออีกมากมายตั้งแต่ครั้งสงคราม และที่จัดซื้อในยุคใหม่ด้วย
...
ทั้งหมดของกองทัพกัมพูชา
กองทัพบกกัมพูชา
กองทัพบกกัมพูชาเป็นเหล่าทัพที่สำคัญที่สุดในจำนวน 3 เหล่าทัพ อาวุธส่วนมากของกัมพูชาจะเป็นอาวุธจากค่ายสังคมนิยมเดิมอย่างรัสเซียและจีน
กองทัพกัมพูชาประกอบด้วย กรมทหารราบ 9 กรม, กองพันยานเกราะ 3 กองพัน, กรมทหารช่าง 4 กรม, และกองพลน้อยต่อต้านการก่อการร้าย 3 กองพล มีกำลังทหาร 124,000 นาย งบประมาณกลาโหม 120 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปีโดยประมาณ
อาวุธส่วนมากเป็นอาวุธในยุคสงครามเย็นที่เคยใช้ในสงครามกลางเมือง ในปัจจุบันอาวุธหลายรายการได้รับการช่วยเหลือจากจีน รัสเซีย และสหรัฐ สำหรับอาวุธหลักของกองทัพบกกัมพูชาประกอบไปด้วย
รถถัง
- รถถังหลัก T-55 จากรัสเซียจำนวนราว 100 คัน - รถถังหลัก Type-59 จากจีนจำนวนราว 200 คัน - รถถังเบา PT-76 จากรัสเซีย, รถถังเบา Type-62/63 จากจีนและรถถังเบา AMX-13 จากฝรั่งเศสจำนวนราว 50 คัน
รถเกราะ
- รถรบทหารราบ BMP-1 จากรัสเซียจำนวน 10 คัน - รถเกราะสายพาน M113A1/A3 จากสหรัฐจำนวน 20 คัน - รถเกราะล้อยาง BTR-60 จากรัสเซียจำนวน 120คัน - รถเกราะล้อยาง BTR-152 จากรัสเซียจำนวน 100 คัน - รถเกราะล้อยาง OT-64 จากโปแลนด์จำนวน 26 คัน
ปืนใหญ่/ปืนต่อสู้อากาศยาน/จรวดต่อสู้อากาศยาน
กองทัพบกกัมพูชามีปืนใหญ่ทั้งจากฝั่งสหรัฐและรัสเซียประจำการหลายรายการเช่นปืนใหญ่ขนาด 105 มม. แบบ M101, ปืนใหญ่ขนาด 155 มม. แบบ M114 จากสหรัฐ หรือปืนใหญ่สนามขนาด 130 มม. แบบ M1954 และปืนใหญ่วิถีโค้งขนาด 152 มม. แบบ M1955
สำหรับปืนต่อสู้อากาศยานนั้น กองทัพบกกัมพูชายังมีปืนจากรัสเซียและจีนเป็นกำลังหลัก ส่วนจรวดต่อสู้อากาศยานนั้นกัมพูชาเคยมีจรวด SA-3 ไว้ใช้งาน แต่ได้ทำลายทิ้งไปตามข้อเสนอของสหรัฐเพื่อแลกเปลี่ยนกับความช่วยเหลือด้านอื่นเนื่องจากสหรัฐกลัวว่า SA-3 จะตกไปในมือของผู้ก่อการร้ายครับ
กองทัพเรือกัมพูชา
กองทัพเรือกัมพูชายังมีสถานการณ์เป็นกองทัพเรือใกล้ฝั่ง (Green Navy) โดยกัมพูชามีเรือตรวจการณ์ลำน้ำชั้น Kaoh จำนวน 2 ลำ และเรือเร็วโจมตี (ปืน) อีก 2 ลำ
ในปี 2548 รัฐบาลจีนได้บริจาคเรือตรวจการณ์ขนาด 46 เมตรจำนวน 4 ลำ เรือตรวจการณ์ขนาด 20 เมตรจำนวน 3 ลำ และเรือลำเลียงสัมภาระอีก 1 ลำให้กองทัพเรือกัมพูชาเพื่อช่วยเหลือในการป้องกันการกระทำผิดกฏหมายทางทะเลและลาดตระเวนปราบโจรสลัด
ทั้งนี้หลังจากการค้นพบแหล่งน้ำมันของกัมพูชาในบริเวณอ่าวไทย ทำให้เชื่อได้ว่ากองทัพเรือกัมพูชาอาจจำเป็นต้องจัดหาเรือตรวจการณ์ที่มีขนาดใหญ่เพิ่มเติมเพื่อลาดตระเวนคุ้มกันแหล่งผลิตน้ำมันของตน
กองทัพอากาศกัมพูชา
กองทัพอากาศกัมพูชามีฐานบินอยู่สองฐานคือ ฐานทัพอากาศพระตะบองและฐานทัพอากาศพนมเปญ แต่มีเครื่องบินประจำการที่ฐานทัพอากาศพนมเปญเพียงที่เดียว
จำได้ไหม F-16 2ลำของไทย ถูกล๊อคเป้าแล้ว โดยเครื่องบินรบ มิค-29ของกัมพูชา ไว้รอให้ท่านฯพณฯทักษิณ ชินวัตร นักบินไทย เห็นดังนั้น แทบทิ้งเครื่องหนีกลางอากาศ เพราะศักยภาพคนละตีน
"โคบรา" ติดปืนกลและจรวด
เครื่องบินขับไล่/โจมตี/ทิ้งระเบิด JAS39 Gripen
กัมพูชาเคยจัดหาเครื่องบินขับไล่แบบ MiG-21 จำนวน 22 ลำจากรัสเซียในปี 2529 แต่เครื่องบินถูกสั่งกราวน์ทั้งหมดในปี 2535 เนื่องจากขาดงบประมาณ ต่อมาในปี 2539 กองทัพอากาศกัมพูชาว่าจ้างบริษัท Israel Aircraft Industry ให้ทำการปรับปรุง MiG-21 จำนวน 12 ลำ และจัดหา L-39C มือสองที่ได้รับการปรับปรุงอีก 6 ลำ โดยกองทัพอากาศกัมพูชาได้รับมอบ L-39C ทั้งหมดในปี 2540 แต่จากการที่สมเด็จฮุนเซ็นขับเจ้านโรดมรณฤทธิ์ออกจากการร่วมรัฐบาล ทำให้ธนาคารโลกและสหรัฐตัดความช่วยเหลือต่อกัมพูชา ซึ่งส่งผลกระทบกับโครงการปรับปรุง MiG-21 อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทำให้อิสราเอลส่งมอบ MiG-21 คืนให้กับพูชา 2 ลำ ปัจจุบันเราไม่ทราบสถานะของเครื่องบินทั้ง 2 ลำนี้ แต่คาดว่าไม่สามารถทำการบินได้เนื่องจากขาดงบประมาณและขาดนักบินที่มีความชำนาญ
กองทัพอากาศกัมพูชามีอากาศยานดังต่อไปนี้
- เครื่องบินขับไล่ MiG-21 Bis และ MiG-21UM จากรัสเซียอย่างละ 1 ลำ (ทำการบินไม่ได้) - เครื่องบินขับไล่ฝึก L-39C จากสาธารณรัฐเช็คจำนวน 6 ลำ - เครื่องบินลำเลียง Y-12 จากจีนจำนวน 2 ลำ - เครื่องบินลำเลียง An-24RV จากรัสเซียจำนวน 2 ลำ (รับโอนจากกัมพูชาแอร์ไลน์) - เครื่องบินลำเลียงเบา BN-2A Islander จากอังกฤษจำนวน 2 ลำ - เครื่องบินรับส่งบุคคลสำคัญ Falcon 20E จากฝรั่งเศสจำนวน 1 ลำ (ได้รับบริจากจากฝรั่งเศส) - เฮลิคอปเตอร์ AS350 Ecureuil จำนวน 2 ลำ (ได้รับบริจากจากฝรั่งเศส) - เฮลิคอปเตอร์ SA365 Dauphin จำนวน 1 ลำ (ได้รับบริจากจากฝรั่งเศส) - เฮลิคอปเตอร์ Mi-8/Mi-17 จำนวน 6 ลำ - เฮลิคอปเตอร์ Mi-26 จำนวน 2 ลำ
ส่วนมากจะนึกถึงแต่ภาพทหารด้วยชุดพอเพียงแบบนี้
ส่วนนี่ หทารไทย ป้อหญิง ร้อง โอเกะ ตีกอล์ฟ ยึดอำนาจ ปราบประชาชน
ที่มา: http://rungsira-milicorp.spaces.live.com/blog/cns!6E4628D5A51A23F1!334.entry
: http://atcloud.com/stories/60605