เหล็กใน
สมิงสามผลัด
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ คุยฟุ้งว่าเป็นของขวัญปีใหม่ 2554 ให้คนไทยทุกคน
ประเด็นหลักๆ การปฏิรูปก็มี 4 หัวข้อ คือ เศรษฐกิจ สังคม การศึกษา และกระบวนการยุติธรรม
เน้นสร้างความเท่าเทียมกันในสังคม ความซื่อสัตย์สุจริต
บอกด้วยว่าจะนำไปสู่ความปรองดองสมานฉันท์ นำสังคมกลับเข้าสู่ความสุขอย่างยั่งยืน
เป็นนโยบายที่สวยหรูตามแบบฉบับพรรคประชาธิปัตย์ จริงๆ
แต่เอาเข้าจริงๆ แค่ประเด็น"สร้างความเท่าเทียมกัน"
รัฐบาลชุดนี้ก็สอบตกไปแล้ว
ตลอด 7-8 เดือนที่ผ่านมา ความเท่าเทียมกันเป็นเรื่องที่จับต้องไม่ได้เลย
ถ้านายอภิสิทธิ์ต้องการชูเรื่องนี้
ประการแรกเลยต้องคืนความเป็นธรรมกับนักโทษเสื้อแดงหลายร้อยคนที่ยังถูกจองจำคุก
ต้องปล่อยผู้บริสุทธิ์ออกจากเรือนจำก่อน
ไม่ควรจำกัดคนเสื้อแดงเป็นพลเมืองชั้น 2 อยู่แบบนี้
ความเท่าเทียมกันยังรวมไปถึงคดีความต่างๆของคนเสื้อแดง
ที่ผ่านมา รัฐบาลไม่เคยมองว่าคนเสื้อแดงเป็นผู้ถูกกระทำเลย
ไม่เคยให้ความสนใจคดี 91 ศพเหยื่อสลายม็อบ
กลับมองว่า 91 ศพและผู้บาดเจ็บอีกเกือบ 2 พันคนเป็นศัตรูเสียด้วยซ้ำ
คดีความของคนเสื้อแดงเป็นผู้ต้องหาก็เร่งรัด คาดคั้น เอาเป็นเอาตาย
ต่างกับคดีม็อบเหลืองราวฟ้ากับดิน
ตอกย้ำ 2 มาตรฐานและไม่เท่าเทียมจริงๆ
อีกประเด็นที่นายอภิสิทธิ์ชูไว้ในนโยบายปฏิรูปประเทศคือเรื่องซื่อสัตย์สุจริต
ตรงนี้ก็ล้มเหลวตั้งแต่ยังไม่เริ่มเช่นกัน
ตัวอย่างง่ายๆ โพลสำรวจความคิดเห็นหลายสำนักในช่วงปลายปี 2553
พากันตีแผ่การคอร์รัปชั่นของรัฐบาลชุดนี้กันถ้วนหน้า
เริ่มที่ผลสำรวจความคิดเห็นจากผู้เข้าร่วมสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศที่ขอนแก่น
ระบุรัฐบาลนายอภิสิทธิ์มีการคอร์รัปชั่นมากสุดรอบ 3 ปีทีเดียว !
ภาคธุรกิจเกือบ 80 เปอร์เซ็นต์ต้องจ่ายเงินใต้โต๊ะให้นักการเมืองและข้าราชการเกิน 25 เปอร์เซ็นต์ของรายรับ
โพลยังระบุด้วยว่ารัฐบาลสอบตกในการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ คอร์รัปชั่น สังคม การศึกษา
ยังมีผลสำรวจเอแบคโพลที่ระบุว่าร้อยละ 90.1 เชื่อว่ามีข้าราชการและเจ้าหน้าที่รัฐยังคงทุจริตคอร์รัปชั่นอยู่ในรัฐบาลชุดปัจจุบัน
ที่สำคัญผลสำรวจการทุจริตมากกว่าเพิ่มสูงขึ้นจากการสำรวจเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2548
หรือก่อนการปฏิวัติ 19 กันยายน 2549 !
ฉะนั้น การปฏิรูปประเทศไทยของนายอภิสิทธิ์จะไม่ประสบ ความสำเร็จได้เลย
ถ้ายังปล่อยให้เกิดความไม่เท่าเทียม
ยังปล่อยให้คอร์รัปชั่นกันอยู่แบบนี้