กรุงเทพธุรกิจ 10 กรกฎาคม 2555 >>>
'ธาริต' แถลงไร้ชายชุดดำเผาเซ็นทรัลเวิลด์ แจงจับกุมคนร้ายส่งฟ้องคดีวางเพลิง-ลักทรัพย์ได้ 9 ราย ยันไม่กระทบคดีก่อการร้าย
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงความคืบหน้าคดีวางเพลิง เผาทรัพย์และลักทรัพย์เซ็นทรัลเวิลด์ เมื่อเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2553 ว่า ไม่มีชายชุดดำเข้าไปเกี่ยวข้อง แต่มีผู้ต้องหา 9 ราย ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีในข้อหาลักทรัพย์ ประกอบด้วยนายพินิจ จันทร์ณรงค์ นายวิศิษฏ์ แกล้วกล้า นายภาสกร ไชยสีทา นายคมสันต์ สุดจันทร์ฮาม นายอัตพล วรรณโต นายอาทิตย์ เบ้าสุวรรณ นายพรชัย โลหิตดี นายยุทธชัย สีน้อย และนางเจียม ทองมา ซึ่งดีเอสไอได้สั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมดและส่งสำนวนให้พนักงานอัยการไปแล้ว ตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค. 2553
นายธาริต แถลงว่า ต่อมาพนักงานอัยการมีคำสั่งฟ้อง ต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ และศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง โดยศาลอาญากรุงเทพใต้ มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2554 ลงโทษจำเลยทั้ง 7 คน ในความผิดฐานฝ่าฝืน พ.ร.ก. คนละ 6 เดือน และลงโทษจำเลย นายคมสันต์ สุดจันทร์ฮาม ในความผิดฐานลักทรัพย์เป็นเวลา 3 ปี รวมเป็น 3 ปี 6 เดือน ฐานความผิดอื่น ยกฟ้อง พนักงานอัยการไม่อุทธรณ์ คดีถึงที่สุดแล้ว
ส่วนผลคดีของนายภาสกร ไชยสีทา และนายอัตพล วรรณโต ขณะนี้ศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง สืบพยานฝ่ายโจทก์เสร็จสิ้นแล้ว ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาล
นายธาริต ระบุด้วยว่า คดีวางเพลิงพนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน รับคดีและทำการสืบสวนสอบสวน ออกหมายจับผู้ต้องหารวม 7 คน คือ ชายไทยไม่ทราบชื่อ ปรากฏตามภาพถ่ายหมายจับผู้ต้องหาที่ 1 ชายไทยไม่ทราบชื่อ ปรากฏตามภาพถ่ายหมายจับ ผู้ต้องหาที่ 2 นายสายชล แพบัว ชายไทยไม่ทราบชื่อ ปรากฏตามภาพถ่ายหมายจับผู้ต้องหาที่ 4 นายพินิจ จันทร์ณรงค์ ผู้ต้องหาที่ 5 นายอัตพล วรรณโต ผู้ต้องหาที่ 6 และนายภาสกร ไชยสี
อย่างไรก็ตาม ต่อมาพนักงานสอบสวนคดีพิเศษได้ขอศาลออกหมายจับเพิ่มเติม อีก 2 คน ตามภาพถ่าย รวมเป็น 9 คน ทั้งนี้ผู้ต้องหาที่ 3 เดิมออกหมายจับตามภาพถ่าย ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวได้ที่บริเวณสนามหลวง ทราบชื่อภายหลังว่า นายสายชล แพบัว ส่วนผู้ต้องหาที่ 5-7 นั้น เป็นผู้ต้องหาในคดีปล้นทรัพย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ได้ชี้ยืนยัน ตัวว่าเป็นผู้กระทำความผิดในการวางเพลิงด้วย สน. ปทุมวัน เห็นว่าเป็นคดีที่ต่อเนื่องเกี่ยวพันกับคดีพิเศษ จึงส่งมาเป็นคดีพิเศษ
"คดีวางเพลิงได้สั่งฟ้องผู้ต้องหาทั้งหมด และผลของเหตุการณ์ทำให้ห้างเซ็นทรัลเวิลด์ได้รับความเสียหายมูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท และในที่เกิดเหตุพบนายกิตติพงษ์ สมสุข วัย 19 ปี ชาวจังหวัดศรีษะเกษ เสียชีวิตเพราะขาดอากาศหายใจ ขณะนี้พนักงานอัยการได้ส่งฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 9 คน และได้ฟ้องนายสายชล แพบัว และนายพินิจ จันทร์ณรงค์ ต่อศาลบอาญากรุงเทพใต้ คดีอยู่ระหว่างการสืบพยานโจทก์ นัดสืบพยานพนักงานสอบสวนในวันที่ 21 และ 23 ส.ค. นี้ รวมทั้งทั้งได้ส่งฟ้องนายอัตพล วรรณโต และนายภาสกร ไชยสีทา ต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง โดยศาลนัดสืบพยานโจทก์วันที่ 3 ส.ค. นี้เช่นกัน"
ผู้สื่อข่าวถามว่าเมื่อไม่มีชายชุดจะเปลี่ยนจากคดีก่อการร้ายมาเป็นคดีวาง เพลิงเผาทรัพย์หรือไม่ นายธาริต กล่าวว่า กรณีเซ็นทรัลเวิลด์ต้องแยกกัน ในเรื่องก่อการร้ายเป็นมิติภาพรวมมีการฟ้องคดี ซึ่งอยู่ระหว่างการสืบพยานในชั้นศาล คดีเซ็นทรัลเวิร์ดมีการเข้าไปวางเพลิงเพื่อลักทรัพย์และสามารถจับตัวคนร้าย ได้ จึงชี้แจงว่าไม่เกี่ยวข้องกับชายชุดดำ