ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Wednesday, 20 June 2012

นพดลชี้ทักษิณรวยเพราะมูลค่าหุ้นพุ่ง

ที่มา uddred

 โพสท์ทูเดย์ 19 มิถุนายน 2555 >>>


"นพดล" โต้แทน "ทักษิณ" ปัดซุกหุ้น ยัน 7.3 หมื่นล้านพุ่งตามดัชนีหลักทรัพย์

นาย นพดล ปัทมะ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธกรณีซุกหุ้นของ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยยืนยันว่าไม่ได้มีการปกปิดบัญชีทรัพย์สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบ ปรามทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) เนื่องจากตอนเข้ารับตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ เมื่อวันที่ 26 ต.ค. ปี 2537 ยังไม่มีกฎหมายระบุให้เปิดเผยบัญชีทรัพย์สินต่อประชาชน
อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.ทักษิณ ได้เปิดเผยที่พรรคพลังธรรมว่ามีหุ้นจำนวนทั้งหมด 69,570,000 หุ้น ซึ่งขณะนั้นดัชนีตลาดหลักทรัพย์อยู่ที่ 1479 จุด ราคาหุ้นในตลาดอยู่ที่ 740 บาทต่อหุ้น จึงมีมูลค่าหุ้นรวม 51,481 ล้านบาท เมื่อรวมทรัพย์สินอื่นจึงมีประมาณ 6 หมื่นล้านบาท ดังนั้นกล่าวได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ร่ำรวยตั้งแต่ก่อนลงมาเล่นการเมือง
นายนพดล กล่าวต่อว่า ต่อมาเมื่อเข้ารับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีในปี 2540 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่ต้องแสดงทรัพย์สินต่อ ปปช. วิกฤตเศรษฐกิจทำให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ลดลงอยู่ที่ 623 จุด ราคาหุ้นในตลาดตกลงจาก 740 เหลือ 218 บาทต่อหุ้น จึงทำให้มีมูลค่าหุ้นรวมเหลือเพียง 15,166 ล้านบาท รวมทรัพย์สินอื่นแล้วมีจำนวนทั้งสิ้น 23,880 ล้านบาท
   "ความมั่งคั่งหรือความร่ำรวยของ พ.ต.ท.ทักษิณ ผูกอยู่กับดรรชนีตลาดหลักทรัพย์ ดรรชนีมากขึ้น หุ้นราคาสูงขึ้นก็รวยขึ้น ถ้าตัวเลขลดลงก็รวยน้อยลง" นายนพดล กล่าว
นายนพดล ยังกล่าวอีกว่า เมื่อครั้ง พ.ต.ท.ทักษิณ รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2544 ค่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์อยู่ที่ 324 จุด แต่ต่อมาเมื่อมีการขายหุ้นในวันที่ 23 ม.ค. 2549 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์พุ่งสูงที่ 750 จุด ราคาในตลาดหลักทรัพย์จึงสูงขึ้นเป็น 49.25 บาทต่อหุ้นจากราคา 21 บาทต่อหุ้นในปี 2544 จึงทำให้ในปี 2549 มีมูลค่าหุ้นรวมสูงถึง 7.3 หมื่นล้านบาทจากเดิมที่มีเพียง 3.1 หมื่นล้านบาทในปี 2544
   "ไม่เป็นความจริงที่มีการกล่าวหาว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรี บริหารราชการแผ่นดินทุจริตจนทำให้ราคาหุ้นสูงขึ้น หุ้นของครอบครัวชินวัตรที่ พ.ต.ท.ทักษิณ และคุณหญิงพจมานโอนหุ้นทั้งหมดก่อนเป็นนายกรัฐมนตรีนั้นก็สูงขึ้นตามดัชนี ตลาดหลักทรัพย์และกลไกการเติบโตของตลาด นอกจากนี้หุ้นของ ปตท. ธนาคารกรุงเทพ ไอทีวี  กสิกร ชินคอร์ป กฤษดามหานคร และปูนซีเมนต์ไทย ก็ล้วนขึ้นในอัตราเดียวกัน คือ จาก 324 จุดในปี 44 เป็น 750 จุดในปี 49 ทั้งนั้น ไม่ได้สูงขึ้นแค่หุ้นชินเพียงอย่างเดียว" นายนพดล กล่าว