ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Sunday, 24 June 2012

วิชาญ มีนชัยนันท์: เปิดหูเปิดตาท้าคนกรุง แยกแยะ "ทักษิณ-ข้างบน" และองคมนตรี

ที่มา uddred

 ประชาชาติธุรกิจ 24 มิถุนายน 2555 >>>





หลังพระราชกฤษฎีกาปิดสมัยประชุมรัฐสภา สมัยนิติบัญญัติ ทั้ง 2 พรรคใหญ่เปิดอภิปรายนอกสภาอย่างคึกคัก
พรรคประชาธิปัตย์ชิงลงมือก่อนด้วยการจัดอีเวนต์ปักธงทั้งในกรุงเทพฯและหัว เมือง อภิปรายไม่ไว้วางใจก่อนสมัยการประชุมสามัญทั่วไป 2 เดือน
พรรคเพื่อไทยโดย "วิชาญ มีนชัยนันท์" ประธานภาค กทม. ลงมือตามไปประดาบในเขตเลือกตั้งเมืองหลวง
"ประชาชาติธุรกิจ" จับเข่าคุยกับ "วิชาญ" หลังเวทีปราศรัย เขาแนะนำให้คน กทม. เปิดใจกว้างเพื่อลบภาพเผาบ้าน-เผาเมือง และ "ปีศาจทักษิณ" ในสายตาคนกรุง

เหตุผลของการจัดเวทีปราศรัย "เพื่อไทย ความจริง เพื่อประชาธิปไตย"

พรรคประชาธิปัตย์จัดเวทีปราศรัยมาแล้ว 2 ครั้ง (ลานคนเมือง และวงเวียนใหญ่) เพราะดูแล้วเป็นการต่อว่า บิดเบือนข้อเท็จจริงหลังจากสู้ในสภาไม่ได้ และทำให้ประชาชนเริ่มสับสน เราไม่คิดว่าเขาจะจัดครั้งที่ 3 (มีนบุรี) บังเอิญมาจัดในพื้นที่ผม เลยคุยกับทางพรรคว่าควรต้องมีแนวทาง หากเขาปราศรัยแบบนี้ตลอดชาวบ้านเริ่มเชื่อ

คิดว่าพรรคประชาธิปัตย์มาล้วงคองูเห่าถึงพื้นที่ตัวเองหรือไม่ จึงต้องตอบโต้

ในฐานะที่เป็นประธานภาค กทม. คิดว่าหากเราไม่มีการโต้ตอบ ปัญหาที่ตามมาคือประชาชนคงมองว่าพรรคเพื่อไทยยอมรับการวิพากษ์วิจารณ์ของ พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งใช้สื่อบลูสกายมีสมาชิกประชาธิปัตย์ติดตามอยู่ เราจึงเลือกใช้วิธีการตอบโต้

ทำไมเพื่อไทยจึงมาเล่นเกมท้องถนน

การเมืองต้องเล่นในสภา แต่ปิดสมัยประชุมสภา ดังนั้นการที่ประชาธิปัตย์ออกมาปราศรัยเป็นกระบวนการอย่างหนึ่งที่จะทำให้ ระบอบประชาธิปไตยที่เคยเดินไปด้วยดีในระบอบรัฐสภากลับต้องมีการเปลี่ยนแปลง เราจึงมีความจำเป็นต้องสื่อสารให้ประชาชนทราบ

เป็นสงครามแย่งชิงมวลชนอีกแบบ

การแย่งมวลชนเป็นเรื่องปกติในระบอบประชาธิปไตย เพื่อรักษาฐานอำนาจของประชาชนไว้มากที่สุด

ถ้าเพื่อไทยปราศรัยในเขตประชาธิปัตย์ คิดว่าสามารถดึงคะแนนจากพื้นที่ได้ไหม

คนกรุงเทพฯ เบื่อง่ายแต่ลืมเร็ว เราจึงต้องชี้และกระตุ้นเตือนให้เห็น ต้องลงในลักษณะการลงพื้นที่เพื่อสื่อให้เห็น

คน กทม. อาจติดภาพเรื่องที่แกนนำคนเสื้อแดง หรือ ส.ส.เพื่อไทย ถูกตราหน้าว่าเผาเมือง จะลบภาพเหล่านี้ได้อย่างไร

ทุกวันนี้คนกรุงเทพฯที่สนใจการเมืองนั้นไปตามกระแส แต่ไม่เคยศึกษาเลยว่าขณะนี้ผู้คนเดือดร้อน มีความจำเป็นเรื่องอะไร เรื่องแก้ไขปัญหาด้านเศรษฐกิจเป็นเรื่องของรัฐบาลอยู่แล้ว แต่เรื่องการปรองดองและการแก้ไขรัฐธรรมนูญต้องสนใจ อย่ามัวแต่ไปวิพากษ์วิจารณ์แต่เรื่องเศรษฐกิจอย่างเดียวมันไม่ใช่ เพราะเศรษฐกิจจะไปได้รากฐานของการเมืองต้องมั่นคงแข็งแรง ฝ่ายรัฐบาลต้องเข้มแข็ง

คนกรุงเทพฯที่ไม่เลือกเพื่อไทย อาจเป็นเพราะปัญหาม็อบกลางเมืองและผลประโยชน์คุณทักษิณ จะแก้ภาพนี้ได้ไหม

คนกรุงเทพฯในฐานะคนเมืองหลวง ต้องเปิดใจกว้าง ต้องมีความรู้ ความสามารถ ไม่ใช่ปิดตา ปิดหู เชื่อแล้วปักใจ เรากำลังชี้แจง ในอดีตก็เคยเลือกพรรคไทยรักไทยเมื่อปี 2544 จาก 36 ที่นั่ง ได้รับเลือกเข้ามาถึง 26 ที่นั่ง ต่อมาปี 2548 จาก 36 ได้ถึง 31 ที่นั่ง คนกรุงเทพฯเลือกพรรคไทยรักไทยในขณะนั้น ก็เพราะว่าเชื่อมั่น แต่เมื่อเกิดกระบวนการล้มล้างทักษิณ ท่านปักใจเลย ท่านไม่ให้โอกาสเลย
คนชนบทที่เขาเลือกพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย เพราะเขาคิดว่าพรรคดำเนินการช่วยเหลือประชาชนรากหญ้าที่แย่ที่สุด คนจำนวน 30-40 ล้านคน คนกรุงเทพฯที่เป็นคนชั้นกลางระดับมีเงินถึงระดับรวยมาก รวมถึงคนที่มีธุรกิจจะได้ประโยชน์ ต้องยอมรับฟัง
เพราะฉะนั้น ถ้าคนกรุงเทพฯบอกว่าตัดคุณทักษิณ (ชินวัตร) ให้ออกไปคนเดียว เขาก็ต้องมองเชื่อมต่อไปถึงข้างบนด้วยว่ามีคนสั่งการ มีองคมนตรีที่เชื่อมโยงกันออกมา ถ้าคนกรุงเทพฯคิดอย่างนั้นก็ไม่มีหลักความเป็นธรรม เพราะประเทศนี้เป็นประเทศที่มีประชาธิปไตย มีรัฐธรรมนุญ มีนิติรัฐ คนกรุงเทพฯต้องเผื่อใจไว้สำหรับตัดสินความถูกต้อง นานาอารยประเทศเขามองประเทศไทยอยู่ ประเทศไทยไม่ได้มีเฉพาะกรุงเทพฯอย่างเดียว
คนเสื้อแดงก็เหมือนกัน ต้องฟังความถูกต้อง แยกแยะ อย่าตัดสินด้วยความรู้สึก แล้วใช้มาเป็นการตัดสินอย่างนี้ตลอดไม่ได้

แปลว่าคนกรุงเทพฯควรเปิดใจรับฟังเพื่อไทยบ้าง

ในฐานะที่ผมเป็น ส.ส.กรุงเทพฯ อยากบอกว่า ถ้าบอกว่าพรรคประชาธิปัตย์ถูก คุณเลือกไปเลยพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ต้องมาเลือกให้ผมด้วย ผมเป็น ส.ส. มา 26 ปี ยังเชื่อกระบวนการการตัดสินใจของคนกรุงเทพฯ อย่าบอกว่าอย่าไปเลือกมัน อย่าให้มันเป็นรัฐบาล เพราะถ้าเลือกมันเป็นรัฐบาลเราก็อยู่ไม่ได้ ถ้าอย่างนี้อย่าเป็นประชาธิปไตยเลย เป็นเผด็จการดีกว่า

คิดว่าเสียงของพรรคเพื่อไทยกระเตื้องขึ้น หรือยังตามหลังพรรคประชาธิปัตย์

มองว่าจากเหตุการณ์ในสภา ประชาชนเริ่มตระหนักว่าการกระทำบางสิ่งบางอย่างที่ทำให้เกิดความไม่ปกติใน ระบอบรัฐสภา คิดว่าคนกรุงเทพฯคงตัดสินใจได้ระดับหนึ่ง

นโยบายของพรรคเพื่อไทยที่จะพลิกคะแนนให้กลับมาเป็นของพรรคเพื่อไทยอีกครั้งคืออะไร

กรุงเทพฯเป็นเมืองหลวง เป็นเมืองเศรษฐกิจ ดังนั้นรัฐบาลต้องทำศูนย์กลางเศรษฐกิจของประเทศให้ดี และต้องทำให้เกิดความมั่นคงและมั่นใจในการลงทุน ต้องพยายามทำไม่ให้เกิดความวุ่นวาย
ให้เขาเห็นว่าเรามีการปกครองในระบอบนิติรัฐ ยึดถือกฎหมายเป็นหลัก ใช้ควบคู่กับระบบรัฐศาสตร์ในการให้โอกาสของทุกฝ่าย

ประเด็นที่อยากนำเสนอบนเวที "เพื่อไทย ความจริง เพื่อประชาธิปไตย" คืออะไร

เราอยากให้การยึดหลักประชาธิปไตย เพราะการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยไม่ใช่เลือกตั้งการเป็นรัฐบาล แต่มันเป็นรากเหง้าที่จะฝังลึกลงไปสู่ข้างล่าง ถ้าวันนี้สังคมมีระบอบประชาธิปไตยที่แข็งแกร่ง ประเทศเราจะดีขึ้น โดยเฉพาะการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพฯในอนาคตอันใกล้ เราก็ถือโอกาสนี้เหมือนพรรคประชาธิปัตย์ รณรงค์ให้ไปคิด ชี้แจงอีกทางหนึ่ง

การจัดเวทีทั้งสองฝ่ายเป็นการมองข้ามชอตไปสนามเลือกตั้งผู้ว่าฯเดือนมกราคม

(สวนทันที) ถูกต้อง พรรคประชาธิปัตย์กำลังทำในเรื่องการหาเสียงอีกชอตหนึ่ง

ความคืบหน้าในการคัดเลือกผู้สมัคร

ผู้ว่าฯ กทม. ของพรรคเพื่อไทยไปถึงขั้นไหนคนที่จะมาเสนอตัวจะต้องมีการเสนอแนวทางนโยบาย มีวิสัยทัศน์ที่ดีต่อการบริหารประเทศ ซึ่งเวลานี้มีทั้งคนเดิม ๆ และคนใหม่ ๆ แต่ขึ้นอยู่กับกลไกการคัดเลือกของพรรคเพื่อไทย ส่วนระยะเวลาต้องเร่ง แต่ไม่รีบจนเกินควร ต้องหาคนที่มีโอกาสแข่งขันดีที่สุด

คิดว่าจะสู้พรรคประชาธิปัตย์ได้หรือไม่ เพราะเป็นเจ้าของสนามกรุงเทพฯอยู่

พรรคประชาธิปัตย์ก็เพิ่งได้สองผู้ว่าฯเอง อภิรักษ์ (โกษะโยธิน) และ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ (บริพัตร) ไม่ได้เยอะแยะมากมาย