โฆษกพรรคเพื่อไทย
เปิดเผยศาลรัฐธรรมนูญรับพิจารณา 5 คำร้องจากกลุ่ม 40 ส.ว.
ที่ขอให้ยับยั้งการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม
ซึ่งอาจขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 68 และมาตรา 291
ไว้พิจารณาถือว่าทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย
กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญได้รับ 5 คำร้องไว้พิจารณา จากกลุ่ม 40 ส.ว.
นำโดย พลเอกสมเจตน์ บุญถนอม นายสมชาย แสวงการ
ที่ได้ยื่นหนังสือต่อศาลรัฐธรรมนูญขอให้พิจารณายับยั้งการพิจารณาร่างรัฐ
ธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ที่ผ่านวาระที่ 1-2 และกำลังเข้าสู่วาระที่ 3
ในวันที่ 5 มิถุนายนนี้ ซึ่งอาจขัดรัฐธรรมนูญมาตรา 68 และมาตรา 291
ของรัฐธรรมนูญ และล่าสุดศาลได้นัดไต่สวนคู่กรณี
พร้อมสั่งให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรแจ้งรัฐสภา
เพื่อให้รอการดำเนินการเกี่ยวกับการแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญดังกล่าวไว้ก่อนจน
กว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยนั้น
โฆษกพรรคเพื่อไทยเชื่อว่าเรื่องนี้น่าจะขัด
ต่อมาตรา 68 ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งบัญญัติไว้ชัดเจนว่า
ต้องมีการนำเสนอเรื่องให้อัยการสูงสุดตรวจสอบข้อเท็จจริงและเป็นผู้ยื่นคำ
ร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเอง และข้อเท็จจริง 5
คำร้องของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ได้ยื่นให้อัยการสูงสุดพิจารณาแล้ว
โดยศาลรัฐธรรมนูญต้องรอให้อัยการสูงสุดทำความเห็นก่อน
ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญจะรับคดี 5 คำร้องมายื่นโดยตรงไม่ได้
ดังนั้นการที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติรับคำร้องไว้พิจารณาจึงเป็นการกระทำที่ขัด
ต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 68 อย่างชัดเจน
นายพร้อมพงศ์ กล่าวอีกว่า
ศาลรัฐธรรมทำผิดรัฐธรรมนูญ
เนื่องจากข้อกำหนดของศาลรัฐธรรมนูญกำหนดให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเป็นเจ้า
พนักงานของรัฐตามประมวลกฎหมายอาญา
ซึ่งการกระทำของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญที่รับคำร้องทั้ง 5 คำร้องไว้พิจารณา
จึงถือเป็นการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ
ซึ่งอาจถูกดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ในคดีนี้ได้
และอาจถูกยื่นถอดถอนได้