ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Thursday, 31 May 2012

ฉุดประธานลงบัลลังก์ปชป.ขวางลงมติเลื่อนพ.ร.บ.ปรองดอง

ที่มา uddred

 โลกวันนี้ 31 พฤษภาคม 2555 >>>

         
        

ประชุมสภาพิจารณาเลื่อน พ.ร.บ.ปรองดอง 4 ฉบับขึ้นมาพิจารณาเต็มไปด้วยความวุ่นวาย มีการประท้วง ตะโกนโห่ด่าทอกันไปมาอยู่ตลอดเวลา เมื่อ ส.ส.เพื่อไทยพยายามให้สภาลงมติ ขณะที่ ส.ส.ประชาธิปัตย์ตั้งป้อมคัดค้านให้ไปตีความก่อนว่าเข้าข่ายเป็น พ.ร.บ.การเงินหรือไม่ ด้านประธานสภาให้ลงมติก่อนจึงตีความภายหลัง ทำให้ ส.ส.ประชาธิปัตย์ไม่พอใจรุกฮือขึ้นไปล้อมกรอบเพื่อกระชากตัวลงจากบัลลังก์ ไม่ให้ทำหน้าที่ต่อจนต้องพักการประชุม ขณะที่ด้านนอกสภาวุ่นวายไม่แพ้กันเมื่อ “สนธิ-จำลอง” นำกลุ่มพันธมิตรฯ ชุมนุมคัดค้านอภิปรายโจมตี โดยมี ส.ส.ประชาธิปัตย์หลายคนออกไปแสดงตัวให้กำลังใจเป็นระยะ บางคนก็ไปเข้าร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุมด้วย

การประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 30 พ.ค. ที่ผ่านมา วุ่นวายขึ้นทันทีตั้งแต่เริ่มเปิดประชุม โดย ส.ส.เพื่อไทยเสนอให้เลื่อนการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยความปรองดองแห่งชาติ ที่มีผู้เสนอเอาไว้ 4 ฉบับขึ้นมาพิจารณา แต่ ส.ส.ประชาธิปัตย์ที่ไม่เห็นด้วยทำการคัดค้านอย่างหนัก ขณะที่ด้านหน้าสภามีกลุ่มผู้ชุมนุมหลายกลุ่มมารวมตัวกันเพื่อคัดค้าน

ฝ่ายค้านให้ตีความก่อน

เมื่อ มีการอภิปรายกันไปมาระยะหนึ่ง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์เสนอให้นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร วินิจฉัยว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องด้วยหรือไม่ เป็น พ.ร.บ.เกี่ยวกับการเงินหรือไม่ เพราะถ้าเป็น พ.ร.บ.เกี่ยวกับการเงินต้องให้นายกรัฐมนตรีลงชื่อรับรองก่อน เนื่องจากต้องมีการคืนเงิน 46,000 ล้านบาทให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แต่นายสมศักดิ์พยายามดำเนินการตามข้อบังคับการประชุมตามที่มีผู้เสนอญัตติ ให้เลื่อนวาระนำร่าง พ.ร.บ. ทั้ง 4 ฉบับขึ้นมาพิจารณาก่อน แต่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์พยายามคัดค้านและส่งเสียงโห่ฮา ตะโกนท้าทายกันตลอดเวลา

นาย สมศักดิ์กล่าวว่า การพิจารณาว่าเป็น พ.ร.บ.การเงินหรือไม่ผ่านขั้นตอนนั้นมาแล้ว เพราะได้บรรจุเข้าวาระการประชุมแล้ว หากใครสงสัยให้ยื่นตีตามช่องทางที่มีอยู่

ตีรวนโห่ฮาตลอด

จากนั้นพยายามให้ลงมติแต่ ส.ส.ประชาธิปัตย์ยังตีรวนด้วยการโห่ฮาตลอดเวลา

นาย เชน เทือกสุบรรณ ส.ส.ประชาธิปัตย์ อภิปรายว่า ร่างกฎหมายนี้เกี่ยวข้องกับการเงินเพราะผูกพันต่อเงินของรัฐ ซึ่งนายกรัฐมนตรีต้องรับรอง และให้ประธานกรรมาธิการสามัญของสภาทุกคณะร่วมกันวินิจฉัย

นายสม ศักดิ์ยืนยันว่า หากใครสงสัยให้ส่งตีความ เมื่อข้อบังคับให้ประธานมีอำนาจวินิจฉัยก็ต้องใช้อำนาจ ด้าน ส.ส.เพื่อไทยหลายคนอภิปรายสนับสนุนการวินิจฉัยและพยายามให้ลงมติ

ยันประธานไม่มีอำนาจ

นาย สุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.ประชาธิปัตย์ อภิปรายยืนยันว่า ประธานสภาไม่มีอำนาจวินิจฉัยว่าร่าง พ.ร.บ. นี้เป็น พ.ร.บ.เกี่ยวกับการเงินหรือไม่ เพราะกฎหมายให้อำนาจประธานสภาและประธานคณะกรรมาธิการสามัญทุกคณะร่วมกัน วินิจฉัย กฎหมายไม่ได้ให้อำนาจประธานสภาคนเดียว

จากนั้นนายสมศักดิ์ ได้สั่งพักการประชุม 15 นาทีเพื่อไปหารือนอกรอบ เมื่อกลับมาประชุมอีกครั้งก็ยังมีการถกเถียงและโห่ฮากันอยู่ โดยพรรคประชาธิปัตย์ยืนยันว่าจะต้องมีการวินิจฉัยว่าร่าง พ.ร.บ. ทั้ง 4 ฉบับเป็นกฎหมายการเงินหรือไม่

ลุกฮือไล่ประธานพ้นบัลลังก์

การ อภิปรายยังวุ่นวายด้วยการประท้วงกันไปมา จนกระทั่งเวลาประมาณ 18.10 น. ประธานสภาให้ลงมติว่าจะเลื่อนร่าง พ.ร.บ. ทั้ง 4 ฉบับขึ้นมาพิจารณาหรือไม่ ทำให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ส่วนหนึ่งไม่พอใจรุกฮือขึ้นไปบนบัลลังก์ของประธานสภา ล้อมกรอบนายสมศักดิ์และพยายามดึงตัวออกจากที่นั่งประธานสภาทำให้เกิดความ วุ่นวายขึ้นจนเจ้าหน้าที่ต้องมากัน ส.ส. ออกไป เป็นเหตุให้ต้องสั่งพักการประชุมชั่วคราวก่อนกลับมาพิจารณาใหม่ อย่างไรก็ตาม แม้จะพักการประชุมแล้ว ส.ส.ประชาธิปัตย์ก็ยังพยายามดึงเก้าอี้ประธานสภาออกจากบังลังก์เพื่อไม่ให้ ทำหน้าที่ต่อได้อีก จึงมีการยื้อแย่งกับ ส.ส.พรรคเพื่อไทย แต่สุดท้ายเหตุการณ์ก็กลับสู่ภาวะปรกติ

เสื้อหลากสี-พธม. ชุมนุมค้าน

ด้าน กลุ่มเสื้อหลากสีของ นพ.ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ มี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมด้วย เช่น นายเทพไท เสนพงศ์ และนายณัฏฐ์ บรรทัดฐาน และมีผู้ดำเนินรายการจากทีวี.ดาวเทียมช่องบลูสกายขึ้นเวทีปราศรัยด้วย ขณะที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์อีกบางส่วน นำโดยนายอรรถพร พลบุตร ยืนถือป้ายต่อต้าน พ.ร.บ.ปรองดองในเขตรั้วรัฐสภาเพื่อต้อนรับผู้ชุมนุม

ขณะ ที่กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้รวมตัวกันที่ลานพระบรมรูปทรงม้า ก่อนที่จะเคลื่อนการชุมนุมมาที่หน้ารัฐสภา เมื่อมาถึงได้รื้อรั้วแผงเหล็กที่ตำรวจนำมากั้นไม่ให้ผู้ชุมนุมประชิดรั้ว รัฐสภาออกทันที ทำให้ตำรวจที่มารักษาความสงบเรียบร้อยต้องถอยร่นไปอยู่ในรั้วรัฐสภา จากนั้นแกนนำได้เข้าไปยื่นหนังสือให้ถอนร่าง พ.ร.บ. ทั้ง 4 ฉบับออกจากการพิจารณาของสภา

“สนธิ” ชุมนุมจนกว่าจะชนะ

นาย สนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ กล่าวว่า การออกกฎหมายเพื่อยกเลิกคำพิพากษาของศาลเท่ากับเป็นการละเมิดพระราชอำนาจของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ส่วนการชุมนุมคัดค้านจะมีกี่วันนั้นขึ้นอยู่กับว่าได้ชัยชนะเมื่อไร