ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Wednesday, 1 February 2012

อมธ.นำต้านมติผู้บริหารธรรมศาสตร์ปิดกั้นนิติราษฎร์-นศ.ขึ้นป้ายเสรีภาพตายแล้ว!

ที่มา thaifreenews

โดย bozo











วันที่ 1 ก.พ. ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานว่า
องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) ได้เผยแพร่
แถลงการณ์องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ผ่านเฟซบุ๊ก http://www.facebook.com/thammasatsu มีข้อความดังนี้

"...กรณี มติคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยไม่อนุญาตใช้พื้นที่มหาวิทยาลัย
เพื่อเคลื่อนไหว มาตรา ๑๑๒...

ตามที่ได้มีข้อเท็จจริงปรากฏว่า ศ.ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ได้เขียนข้อความผ่านทาง Facebook ว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัย
ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ ซึ่งมีข้อความว่า “ไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่มหาลัย
เพื่อเคลื่อนไหวกรณีมาตรา ๑๑๒ อีกต่อไป
เพราะมหาลัยเป็นสถานที่ราชการ การอนุญาตต่อไปอาจทำให้คนเข้าใจผิดว่า
เป็นการดำเนินการของมหาลัยหรือมหาลัยเห็นด้วยกับการดำเนินการดังกล่าวข้างต้น
อีกทั้งอาจนำมาซึ่งความขัดแย้งอย่างรุนแรงภายในบริเวณมหาลัย
จนมหาลัยไม่อาจดูแลความปลอดภัยของบุคคลและทรัพย์สินของมหาลัยได้” นั้น
องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.)
ในฐานะผู้แทนของนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เห็นว่ามติที่มีผลผูกพันดังกล่าวมีเนื้อหาที่กระทบต่อสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น

องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อมธ.) จึงขอแสดงจุดยืนที่มีต่อมติดังกล่าว ดังนี้

1) อมธ. ร้องขอให้ทบทวนมติของคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัย
ตามที่ท่านอธิการบดีได้ระบุไว้ข้างต้น
เพราะมติดังกล่าวมีเนื้อหาที่กระทบต่อสาระสำคัญแห่งสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น

2) มหาวิทยาลัยเปรียบได้กับห้องทดลองในทางสังคมศาสตร์
เป็นสถานที่หลักในการขับเคลื่อนพัฒนาการในทางวิชาการ
เปรียบได้กับพัฒนาการในทางวิทยาศาสตร์ที่ต้องอาศัยห้องทดลองเป็นสำคัญ
การไม่อนุญาตให้บุคลากรในมหาวิทยาลัยแสดงความคิดเห็น
ย่อมไม่ต่างอะไรกับการทำลายเสาค้ำยันในความเป็นมหาวิทยาลัย
ที่มีเสรีภาพในทางความคิดทิ้งไป

3) เพื่อความชัดเจนในเรื่องดังกล่าว จึงขอเรียกร้องให้ท่านอธิการบดี
ชี้แจงถึงมติดังกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษรเป็นการทั่วไป ทั้งนี้ เพื่อความเข้าใจโดยทั่วกัน

สุดท้ายนี้ อมธ. ยังคงยืนยันในจุดยืนแห่งการมีสิทธิเสรีภาพ
ในการแสดงความคิดเห็นภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
และเรายังคงเคารพในความเห็นที่แตกต่างไม่ว่าจะมาจากกลุ่มใดก็ตาม
ตราบเท่าที่ความคิดเห็นเหล่านั้นยังคงอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย

ทั้งนี้ อมธ. ในฐานะผู้แทนของนักศึกษาซึ่งมีความหลากหลายทางความคิด
ขอรับรองว่า มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ไม่ใช่กลุ่มทางการเมืองใด
และไม่มีกลุ่มทางการเมืองใดเป็นมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
หากแต่ความสวยงามในความคิดเห็นที่แตกต่างคือ
ภาพสะท้อนแห่งความเป็นมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่แท้จริง

ด้วยจิตคารวะคณะกรรมการบริหารองค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๕"

ด้านนายปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีฝ่ายการนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
และนักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย สมัยพฤษภาทมิฬ 35
โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Parinya Thaewanarumitkul ระบุว่า

"ถึงแม้ว่าผมจะไม่เห็นด้วยกับคณะนิติราษฎร์ในหลายเรื่อง
แต่ผมเห็นว่าเสรีภาพในทางวิชาการและเสรีภาพในการแสดงความคิด
เห็นที่อยู่ในขอบเขตของกฎหมาย เป็นสิ่งที่เราควรจะต้องเคารพและคุ้มครอง
ทั้งนี้ไม่ว่าเราจะเห็นด้วยหรือไม่กับความคิดเห็นนั้น

"ผมไม่ได้อยู่ในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เมื่อวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๕๕ ที่ผ่านมา
จึงไม่ทราบรายละเอียดของการประชุมและมตินี้ของที่ประชุม
แต่ผมเข้าใจว่ามติของที่ประชุมคณะกรรมการบริหารมหาวิทยาลัย
น่าจะเป็นเรื่องความห่วงใยที่มีการใช้สถานที่ของมหาวิทยาลัย
ในการเคลื่อนไหวแก้ไขมาตรา ๑๑๒ ที่อาจจะนำไปสู่ความแตกแยกของคนในสังคม
แต่ไม่น่าจะเป็นเรื่องการห้ามมิให้ใช้สถานที่ในการจัดกิจกรรมทางวิชาการ
เพราะเสรีภาพในทางวิชาการและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นในขอบเขตของกฎหมาย
เป็นสิ่งที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์คุ้มครองเสมอมา และควรจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป"

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต
มีนักศึกษานำเอาป้ายประท้วงการที่คณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย
สั่งห้ามจัดกิจกรรมทางวิชาการ เกี่ยวกับการแก้ไข ม.112 มาติดไว้ที่บอร์ดตามตึกต่างๆ
โดยเฉพาะตึกเอสซี จำนวนมาก
โดยป้ายแต่ละป้ายเขียนข้อความเสียดสีทางการเมือง อาทิ
"กำหนดการสวนอภิธรรมศพ คุณเสรีภาพ ทุกตารางนิ้ว
ณ ฌาปนกิจสถานมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี"
พร้อมกับเรียกร้องให้น.ศ.แต่งชุดดำ ขณะที่ป้ายอื่นๆ เช่น
"เสรีภาพตายแล้ว"
"ทำไมธรรมศาสตร์ไม่มีเสรีภาพสักตารางนิ้ว"
และ "ฉันรักธรรมศาสตร์เพราะสอนให้ฉันรู้รักษาตัวรอด"



http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRNeU9EQTRNamswTWc9PQ==&sectionid=