1 กุมภาพันธ์ 2555
โดยคุณยาย
ถอดความโดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
This Kun Yai is wondering why only in Thailand ordinary citizen has to prove that they love and respect the throne? I wonder if the Japanese, English and other citizen of the world have to come out in public to declare their loyalty to their kings or queens? Only in Thailand that the question of loyalty to throne is used as a weapon to bring down the lawful government.
ยายสงสัยว่าทำไมในเมืองไทย คนไทยอย่างเราๆ ต้องพิสูจน์ว่า เรามีความรัก และความจงรักภักดีต่อราชบัลลังก์? ยายยังสงสัยว่า คนญี่ปุ่น คนอังกฤษ และคนอื่น ๆ ต้องคอยย้ำความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ หรือพระราชินีของเขาในที่สาธารณะอย่างเมืองไทยหรือเปล่า? มีแต่ในเมืองไทยเท่านั้นที่เรื่องความจงรักภักดี ถูกนำมาใช้เป็นอาวุธล้มรัฐบาลที่มาอย่างถูกต้องตามกฎหมายThere has never been any doubt in the mind of ordinary Thai citizen that the Institute of the Throne is beyond reproach. I and my generation have been brought up to love and respect the three Institutes… Chart, Sasana, Pra Maha Kasat...The Nation, the religion and the King.. and it has always been imbedded in our hearts and souls.
ไม่มีข้อ สงสัยในหัวใจของคนไทยเลยว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ทรงอยู่เหนือการวิพากษ์วิจารณ์ ยายและคนไทยรุ่นยาย ถูกปลูกผังให้รักและเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์... ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ถูกปลูกฝังในหัวใจและวิญญาณของเรา
Now, I am afraid that the Democrat party and the military are creating doubts on this subject for no other reason than to gain their power.Do we have to carry a flag annoucing our loyalty ? Or put a tattoo on our foreheads that .I Love the King?
แต่ ในปัจจุบันนี้ ยายกลัวว่า พรรคประชาธิปัตย์ และทหาร กำลังสร้างความสับสนให้กับสังคมในเรื่องนี้เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง ไม่มีอื่นใดนอกจากการต้องการเพิ่มอำนาจให้กับตน ตอนนี้พวกเราจะต้องพกรูปติดตัวเพื่อประกาศความจงรักภักดีกันแล้วหรือ? หรือว่าต้องสักหน้าผากเพื่อแสดงว่า เรารักในหลวง?In the year 2549..there was a big celebration of the 60th reign of King Bhumibol sponsored by Thaksin who was PM then. I proudly showed my friends and neighbours pictures of thousands of people sitting on the ground waiting for the King to appear on the window, and when the King and Queen appeared, the people promtly prostrated on their hands and knees. If that was not prove beyond any doubts that we the people do not love or respect our King and Queen I don't know how else can we show our loyalty to the throne.
เมื่อปี ๒๕๔๙... ซึ่งเป็นปีที่มีการเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติครบ ๖๐ ปีของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลฯ ที่อดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณเป็นผู้ดูแลในส่วนภาครัฐ ยายได้โชว์ภาพของประชาชนนับพันที่นั่งตามท้องถนนรอชมพระพักตร์ที่จะเสด็จมา ที่หน้าต่าง และเมื่อในหลวงและราชินีเสด็จมา ประชาชมต่างก้มกราบอย่างพร้อมเพรียง ให้กับเพื่อน ๆและเพื่อนบ้านชาวต่างชาติ ยายไม่รู้ว่า จะมีอะไรที่สะท้อนความจงรักภักดีได้ดียิ่งกว่านี้Those who accuse other people of treason are the one that drag down the Institue to the ground for their own gain are the one that have no love or respect for the throne...this is all I want to say because I am so disgusted with the dirty tactics that those people are using against ordinary innocent people like me.
พวก ที่กล่าวหาผู้อื่นว่าเป็นกบฏไม่จงรักภักดีเพื่อผลประโยชน์ตัวเอง พวกนี้แหละเป็นผู้ที่ดึงสถาบันให้ต่ำ และเป็นผู้ที่ไม่จงรักภักดีตัวจริง,,, ยายขอพูดแค่นี้เพราะขยะแขยงพวกนี้ ที่ใช้วิธีการสกปรกกับประชาชนผู้บริสุทธ์เช่นยาย
Kob kun ka..Kun Yai from California.
ขอบคุณค่ะ . . คุณยาย แคลิฟอเนียร์
คุณยายศรีลัดดา ขณะนี้อายุ 88 ปี อยู่อาศัยในแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา
สมัยยังสาวๆเคยทำงานด้านการบินที่กรุงเทพฯเป็นเวลา 21 ปี ก่อนจะย้ายมาอยู่ในสหรัฐฯในปีพ.ศ.2515 จนปัจจุบันร่วมๆ39ปีแล้ว
สมัย อยู่เมืองไทยครอบครัวของคุณยายศรีลัดดาเป็นชาวพรรคประชาธิปัตย์ ถึงขนาดสมาชิกในครอบครัวเคยลงสมัครส.ส.ของพรรคเก่าแก่นี้ ในช่วงที่ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช ยังเป็นผู้นำพรรคอยู่ แต่เวลานี้คุณยายบอกว่าน่าเศร้าใจและผิดหวังกับพรรคประชาธิปัตย์ ช่างน่าละอายใจกับพรรคที่เคยมีเกียรติคุณชื่อเสียงกลับมามีพฤติกรรมฉ้อฉลใน ตอนนี้
ปัจจุบันนี้คุณยายอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมกับแมวตัวหนึ่งชื่อ จัสมิน(ชื่อ ไทยๆว่า"ดอกมะลิ") และไม่รู้สึกเหงาเลย เพราะเมื่อ 3 ปีก่อนได้หัดใช้อินเตอร์เน็ต แล้วก็ใช้อินเตอร์เน็ตติดตามข้อมูลข่าวสารทางเมืองไทยได้คล่อง ตอนนี้คุณยายดีใจมากเลยที่ได้ใช้อินเตอร์เน็ตท่องโลก
ตอนนี้อินเตอร์ เน็ตก็ทำให้คุณยายสามารถคุยกับลูกสาวและลูกเขยที่พำนักอาศัย อยู่ในฝรั่งเศส รวมทั้งหลานๆในเยอรมนี และเพื่อนๆในอเมริกาได้อย่างสบาย
แน่นอนว่ารวมถึงข้อมูลข่าวสารทางเมืองไทยด้วย