ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Saturday, 18 February 2012

Andrew MacGregor Marshall: วิกฤตไทยคือภัยจากคนคลั่งเจ้า

ที่มา Thai E-News



"เมื่ออดีดนักข่าวหัวเห็ดของรอยเตอร์ กล้ายอมทิ้งหน้าที่การงานที่กำลังรุ่งโรจน์เพื่อเผยความจริง เราก็กล้าที่จะบอกว่าเขาต้องการพูดความจริงเรื่องอะไร"


15 กุมภาพันธ์ 2555

โดย แอนดรูว์ แม็คเกรเกอร์ มาร์แชล
แปลโดย จรรยา ยิ้มประเสริฐ

ประเทศไทยคือราชอาณาจักรที่อยู่ในห้วงวิกฤติ ที่เคลื่อนคล้อยเข้าใกล้วันเวลาแห่งความโกลาหลอย่างยากที่จะหยุดยั้งได้ ถูกหลอกหลอนด้วยผีศักดินาและผีเผด็จการแห่งอดีตกาลที่ยังพากันส่งเสียงระงม เซ็งแซ่ และกำลังทุรนทุรายอยู่ในความกลัวแห่งการโดดเดี่ยวตัวเองในโลกอนาคต ได้กลายเป็นประเทศที่ถูกแช่แข็งในกาลเวลา ตกอยู่ในกับดักแห่งวัฏจักรพิษของความรุนแรงและการปราบปราม

ความรุนแรงที่ทวีมากขึ้นอันเนื่องมาจากความขัดแย้งทางสังคมและทางการเมือง ที่ปกคลุมปัจจุบันสมัยของไทยนั้นก็คือการต่อสู้เพื่อที่จะค้นหาคำตอบที่แท้ จริงต่อคำถามอันสำคัญยิ่งที่ว่า: คน ไทยทั้งหลายทั้งมวลนั้นมีความชอบธรรมที่จะอยู่ในความเท่าเทียมกันหรือไม่? ประชาธิปไตยของประเทศไทยควรจะดำเนินไปในรูปแบบใด? และ “การเป็นคนไทย” หมายถึงอะไร? คำถามเหล่านี้เป็นคำถามที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อีก ต่อไป เพราะสังคมไทยได้ขยับเคลื่อน ดังนั้นจึงมีความตื่นตัวและอ่อนไหวต่อสถานการณ์ต่างๆ มากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน

ประชาชนในประเทศนี้ต้องการที่จะค้นหาคำตอบที่จะเชื่อมสมานบาดแผลแห่งความ เจ็บปวดที่เกิดจากการกีดกั้น และหนทางที่จะยอมให้ประเทศไทยก้าวไปข้างหน้าได้ มีเพียงทางเดียว คือจะต้องค้นพบซึ่งคำตอบ ซึ่งมันจำเป็นยิ่งที่คนไทยจำเป็นจะต้องพูดคุยเกี่ยวกับคำถามเหล่านี้

แต่มันมีการบังคับเงียบจนแทบจะหายใจไม่ออกในประเทศไทย อำนาจที่ทรงพลังได้ตัดสินใจที่จะต่อต้านการถกเถียงอย่างตรงไปตรงมาต่อ ประเด็นที่ว่า ประชาชนต้องการเห็นประเทศเป็นเช่นใรในศตวรรษสมัยที่ 21 คนไทยไม่ได้รับอนุญาตแม้แต่จะรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่เป็นความจริงขั้นพื้น ฐานเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และการเมืองของพวกเขา

การพูดความจริงถูกทำให้เป็นอาชญากรรมได้อย่างง่ายดาย ประชาชนถูกคาดหวังให้เชื่อชุดข้อมูลแห่งเทพนิยายและตำนานขุนศึกต่างๆ - หรืออย่างน้อยก็ต้องแกล้งทำเป็นว่าพวกเขาเชื่อเรื่องเหล่านั้น - และปิดตาต่อปรากฎการณ์แห่งความรุนแรงที่เกิดขึ้นในประเทศ

ดังนั้นแล้ว ราวกับว่าติดอยู่อยู่ในห้วงแห่งความฝันร้ายที่ไม่อาจตื่น ประเทศไทยเดินอย่างเลื่อนลอยสู่อนาคตที่ทุกผู้คนต่างก็ประจักษ์ว่ามันคือ สภาวะอันตรายยิ่ง แต่ก็รู้สึกว่าไร้ซึ่งอำนาจใดใดจะป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้น

คำถามเร่งด่วนที่ท้าทายประชาชนในประเทศไทยเหล่านี้จะไม่ถูกทำให้หมดไปได้ ด้วยการเพิกเฉยต่อมัน และถ้าคำถามเหล่านี้ไม่สามารถหาคำตอบได้จากการถกเถียงแลกเปลี่ยน มันก็จะได้ข้อยุติบนการนองเลือด

มันค่อนข้างประจักษ์ชัดต่อผู้สังเกตการณ์ประเทศไทยที่รู้จักเหตุผลว่ามี เพียงวิถีทางเดียวที่จะแก้ปัญหาวิกฤติประเทศไปได้อย่างสันติภาพ คือ : สำนักพระราชวังจำเป็นจะต้องปรับตัว และปรับรูปแบบพระราชพิธีของพระราชสำนักภายใต้วิถีกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ ที่คล้ายคลึงกับประเทศทั้งหลายในโลกนี้ที่ปกครองด้วยวิถีประชาธิปไตยในรูป แบบเดียวกัน

ไม่ว่ารอยัลลิสต์ชาวไทยจะมีความปรารถนาว่าจะสามารถหยุดยั้งนาฬิกาไม่ให้หมุน เดินหน้า และแช่แข็งกาลเวลาไว้กับยุคแห่งอดีตกาลก็ตาม พวกเขาก็ไม่มีทางที่จะทำเช่นนั้นได้ โลกรอบตัวของพวกเขาได้เปลี่ยนไปแล้ว และสถาบันพระมหากษัตริย์ก็จำเป็นจะต้องเปลี่ยนไปพร้อมกับโลกด้วยเช่นกัน

อันตรายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย และต่อพัฒนาการของประเทศไทย ที่จะขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้สำเร็จด้วยสันติวิธีและเป็นประเทศประชาธิปไตย ก็จะมาจากพวกคลั่งรอยัลลิสต์ใจคับแคบที่ปฎิเสธที่จะพูดถึงการเปลี่ยนแปลงแม้ แต่นิดเดียว ทั้งรัฐประหาร 2549 การแทรกแซงของรอยัลลิสต์ในปี 2551 และการปราบปรามผู้ประท้วงชาวเสื้อแดงในปี 2553 ความรุนแรงอย่างน่าตระหนกของคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และในยามนี้ อันได้แก่ ปฏิกริยาแห่งความบ้าคลั่งและไม่เป็นมิตรแม้แต่น้อยต่อข้อเสนอที่มีเหตุมีผล ของกลุ่มนิติราษฎร์

ทั้งหลายทั้งมวลนี้ชี้ให้เห็นว่า นอกจากไม่ยอมรับความจำเป็นที่จะต้องปฏิรูปแล้ว พวกรอยัลลิสต์สุดโต่งกำลังขุดสนามเพลาะเพื่อเตรียมตัวทำสงคราม การกระทำของพวกเขาเป็นอันตรายยิ่งต่อทั้งกับวังและต่อประเทศไทย

มันเนิ่นนามมามากแล้ว ที่พวกรอยัลลิสต์สุดโต่งเหล่านี้ ได้เป็นผู้กำหนดนโยบายทางการเมืองของประเทศไทย วิถีความคิดที่น่ารังเกียจของพวกเขาได้ถูลู่ถูกังประเทศไทยจากความรุนแรง หนึ่งสู่อีกความรุนแรงอย่างไม่หยุดหย่อน มันจำเป็นจะต้องหยุดได้เสียที

มันถึงเวลาแล้วที่คนไทยฝ่ายก้าวหน้าและมีความคิดทุกคน - ไม่ว่าจะมีความคิดความเชื่อในทฤษฏีการเมืองแบบใดและมีจุดยื่นต่อสถาบันพระ มหากษัตริย์แบบไหน - จำเป็นต้องลุกขึ้นสู้เพื่อนำประเทศไทยกลับมาจากการกำกับของรอยัลลัสติ์สุด โต่งที่กำลังนำพาประเทศไปสู่ความแตกสลาย

คนไทยจำเป็นที่จะต้องทำความเข้าใจว่าการถกเถียงเกี่ยวกับบทบาทสถาบันพระมหา กษัตริย์และสถาบันทหารในอนาคตของพวกเขาไม่ใช่เป็นเพียงความชอบธรรมที่พึง กระทำเท่านั้น แต่ยังจำเป็นอย่างยิ่งอีกด้วย มันถึงเวลาที่จะต้องเริ่มต้นการพูดคุยถกเถียงระหว่างกันด้วยท่าที่แห่งการ ให้เคารพเกียรติ เปิดเผย และซื่อสัตย์ เพื่อนำพาประเทศไทยให้พ้นจากขอบเหว

ศัตรูที่แท้จริงของประเทศไทยไม่ใช่คนที่ต้องการถกเถียงเกี่ยวกับอนาคต แต่จากคนที่ป้องกันไม่ให้มีการถกเถียงในประเด็นเหล่านี้ต่างหาก มันถึงเวลาที่จะต้องชัดเจนกันเสียทีว่า : คนที่ต่อต้านไม่ให้มีการถกเถียง และต่อต้านการแก้ไขมาตรา 112 ไม่ได้กระทำด้วยเจตนาบริสุทธิ์ต่อประชาชนคนไทย วันเวลาของพวกเขามันหมดไปแล้ว

มันไม่จำเป็นจะต้องเปลี่ยนด้วยความรุนแรง และไม่จำเป็นจะต้องผ่านการปฏิวัติ ถ้าคนไทยที่รักประเทศของตัวเองต้องการทำอะไรที่เป็นผลดีตต่อประเทศชาติ พวกเขาจำต้องทำความเข้าใจว่าการสนทนาและถกเถียงเกี่ยวกับอนาคตเป็นสิทธิของ พวกเขาและพวกเขาก็ควรจะกระทำได้โดยปราศจากความกลัว ความกล้าหาญแพร่กระจายได้ทางการสัมผัส ยิ่งทำมากขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้คนมากยิ่งขึ้นเท่านั้น

นี่จึงเป็นหนทางที่จะนำพาประเทศไทยก้าวสู่ศตวรรษที่ 21

0 0 0 0 0

Thai's crisis

Thailand is a kingdom in crisis, skidding towards catastrophe. Haunted by the unquiet ghosts of a feudal and despotic past, and stricken by fear of a desolate future, it has become a nation frozen in time, caught in a toxic cycle of violence and repression. The escalating social and political conflict gripping modern Thailand is a struggle to find legitimate answers to profound questions: Do all of Thailand’s people deserve equal rights? How should democracy work in Thailand? What does it mean to be Thai? These are issues that cannot be avoided as Thai society evolves and becomes increasingly aware and sophisticated. The country’s people need to seek answers that will heal their bitter divisions and allow Thailand to move forward. There is only one way to find answers to such immense and important questions: Thailand’s people need to talk.

But a suffocating silence is being imposed on Thailand. Powerful forces are determined to strangle any open and honest national debate about what kind of country it should be in the 21st century. Thais are not even permitted to publicly acknowledge some of the most basic realities of their history and politics. Telling the truth has become, quite literally, a crime. People are expected to believe a set of idealized fairy tales and fables — or at least pretend that they do — and to close their eyes to the disaster unfolding in their country.

And so, as if trapped in a traumatic dream from which it is unable to awaken, Thailand wearily stumbles towards a calamity that everyone knows is coming but feels powerless to prevent. The burning questions facing Thailand’s people will not go away just by being ignored, and if they are not resolved through discussion, they will be settled in blood.

It seems clear to every sane observer of Thailand that there is only one way for the country's crisis to be resolved peacefully: the palace needs to evolve, and to conform to the norms of constitutional monarchy similar to other functioning democracies around the world. However much some Thai royalists may wish that they could stop clocks from ticking and freeze time in some ancient era, they cannot. The world around them has changed, and the monarchy needs to change with it.

The biggest danger to the Thai monarchy, and to the prospects of Thailand developing peacefully into a more prosperous and democratic country, is the blinkered refusal of the ultra-royalists to even consider change. The 2006 coup, the royalist interventions in 2008, the crushing of the red shirt protests in 2010, the shocking surge in lese majeste charges, and most recently the frenziedly hostile reaction to the reasonable suggestions of the Nitirat group, all show that far from accepting the need for reform, the extreme royalists are digging in and preparing for battle. Their actions are disastrous both for the palace and for Thailand.

For too long, it has been these extremist ultra-royalists who have been setting the political agenda in Thailand. Their ugly ideology has dragged the country from one disaster to another. This needs to stop.

It is time for all sensible, progressive Thais - whatever their political views and stance towards the monarchy - to stand up and take their country back from the extremist royalists who are leading it towards ruin. Thais need to understand that debate about the role of the monarchy and military in their future is not only legitimate - it is essential. It is time to begin a respectful, open and honest dialogue that brings Thailand back from the brink.

The real enemies of Thailand are not those who want to debate their future, but those who seek to prevent this debate. It's time to be very clear: those who oppose discussion, and oppose reform of 112, are not acting in the best interests of the Thai people. Their day is over.

It doesn't require violence. It doesn't need a revolution. If Thais who love their country want to do something positive, they just need to understand that discussing and debating their future is their right, and they should do so without fear. Courage is contagious, and the more that do it, the more will be inspired. That is the way for Thailand to move forward in the 21st century.

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับแอนดรูว์และผลงานของเขา
http://www.zenjournalist.com/category/cables/

0 0 0 0 0

พบกับแอนดรูว์ 2 ทุ่มคืนพรุ่งนี้16 กุมภาพันธ์ 2555 ในรายการ Discussing Thailand



REDUDD ประจำวันพฤหัสที่ 16-02-55 เสนอรายการ "Discussing Thailand"
เวลา 20.00-22.00 น. เวลาประเทศไทย
ดำเนินรายการโดย...คุณจรรยา และคุณปรวย

ติดตามฟังรายการจากเว็ป REDUDD ได้ที่.....
1. http://www.redudd.com/thread-2.html
2. http://www.ustream.tv/channel/thailand-red-udd

ช่องทางเพิ่มเติมในการรับฟังรายการ...
1. https://www.facebook.com/Bfly4freedom?sk=app_196506863720166 ด้านซ้ายมือที่เป็นรูปไอคอน Ustream เขียนว่า "Redudd"
2. https://www.facebook.com/Bfly4freedom?sk=app_179191362131547 (link นี้เอาวิทยุและ cbox มาไว้หน้าเดียวกันคะ กดตรง view fan page)
3. http://www.redradio-online.us/

และสามารถเข้า cbox เพื่อส่งคำถามและพูดคุยได้ตามปกติที่..
1. http://cbox.ws/?n=2-2166189-514f98
2. http://www.redudd.com/thread-2.html

หรือส่งคำถามได้ที่ hellored2010@gmail.com