ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Sunday, 29 January 2012

สนนท.ประณามASTV-หมอสลิ่มให้ร้ายฝ่ายรณรงค์แก้112ล้มเจ้า ย้อนที่ทำำกำลังสนองพระราชดำรัส

ที่มา Thai E-News

นัก ศึกษาแพทย์ และคณาจารย์คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในนามองค์กรแพทย์ขอนแก่น พร้อมด้วยองค์กรเครือข่าย ร่วมออกแถลงการณ์ในนาม “ชาวขอนแก่นรักในหลวง” เพื่อแสดงจุดยืน คัดค้านการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ถือเป็นการลบหลู่สถาบันที่คนไทยทุกหมู่เหล่าเคารพเทิดทูนไว้เหนือหัว ล่าสุดถูกสนนท.ออกแถลงการณ์ประณามว่าเป็นการบิดเบือน

พระราชดำรัส 4 ธันวาคม 2548 ซึ่ง 1 ในคณะรณรงค์แก้ไขม.112 เห็นว่ายังไม่มีใครสนองเลย และชี้ว่าสิ่งที่คณะรณรงค์กำลังดำเนินการแก้ไขม.112นั้น ก็เป็นส่วนหนึ่งในการตอบสนองกระแสพระราชดำรัสอยู่ในเวลานี้

ขณะที่ผู้ร่วมเสวนาในจังหวัดขอนแก่นได้เสนอให้ประชาชนที่เลือกพรรคเพื่อไทย รณรงค์กดดันส.ส.ที่ตัวเองเลือกไปให้สนับสนุนการแก้ไขมาตรา112 ไม่ใช่ปล่อยให้รองนายกฯเฉลิม อยู่บำรุง พูดให้สัมภาษณ์จะคัดค้านการแก้ไขและจ้องจับผิดนิติราษฎร์อยู่อย่างนี้ หากพรรคเพื่อไทยไม่สนองตอบ ก็ควรยุติการสนับสนุน และหันไปเลือกพรรคการเมืองที่สนับสนุนข้อเสนอของนิติราษฎร์และครก.112แทนใน การเลือกตั้งครั้งหน้า


โดย ทีมข่าวไทยอีนิวส์
29 มกราคม 2555


สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) ร่วมกับสหพันธ์นิสิตนักศึกษาภาคอีสาน (สนนอ.)ได้ร่วมกันจัดเสวนาเรื่อง"แก้ไขมาตรา 112 ฟื้นฟูประชาธิปไตย"ที่โรงแรมขวัญมอ มหาวิทยาลัยขอนแก่น เมื่อบ่ายวันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม โดยมีผู้ร่วมงานมากกว่า 200 คน พร้อมกับออกแถลงการณ์ฉบับหนึ่งเรื่อง"ชี้แจงและโต้กลุ่มที่โจมตีการแก้ไข มาตรา 112 ว่าเป็นการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์" โดยมีใจความตอนหนึ่งว่า

ในการจัดการเสวนาครั้งนี้ได้เกิดปัญหาขึ้นเมื่อกลุ่มขอนแก่นรักในหลวงที่นำ โดยนายแพทย์ชวลิต ไพโรจน์กุล และสื่อเครือผู้จัดการได้ออกข่าวบิดเบือนความจริงและใส่ร้ายป้ายสีในการจัด กิจกรรมดังกล่าว (ดูข่าวเว็บASTVผู้จัดการ:นศ.-อาจารย์ มข.กลุ่มล้มเจ้านัดจัดเสวนาหนุนแก้มาตรา 112 บ่าย 29 ม.ค.นี้ และข่าว:“หมอขอนแก่น” ผนึกภาคประชาชน ค้านกลุ่มนิติราษฎร์จ้องล้มสถาบัน) เพราะสิ่งที่่ทางกลุ่มเรากระทำการรณรงค์แก้ไขม.112 มีเจตนาที่บริสุทธิ์ ไม่ได้เป็นการล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์แต่อย่างใด และได้มองเห็นปัญหาของมาตรา 112 ดังกล่าวว่าถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือของผู้ที่ต้องการทำลายคู่ต่อสู้ทางการ เมืองที่เห็นแตกต่่างจากกลุ่มตน จนนำไปสู่การละเลยสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน อันเป็นหลักการสำคัญในระบอบประชาธิปไตยสากล และสิ่งที่เราได้กระทำนั้นอยู่ภายใต้บทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวทุกประการ

สนนท.และสนนอ.จึงขอประณามการกระทำของกลุ่มขอนแก่นรักในหลวงที่ให้ข้อมูลต่อ สาธารณชนที่ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด แต่กลับอ้างถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันเพื่อทำลายกลุ่มรณรงค์แก้ไขม.112ที่ มีเจตนาบริสุทธิ์ในการแก้ไขกฎหมายมาตราดังกล่าว และขอประณามการกระทำของสื่อมวลชนของสื่อเครือผู้จัดการที่นำเสนอข่าวเกี่ยว กับการรณรงค์แก้ไขม.112ที่ทั้งบิดเบือน และไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และขอให้สื่อของท่านพิจารณาจรรยาบรรณในการเป็นนักข่าวด้วย เพราะการกระทำดังกล่าวเป็นการกระทำที่ยิ่งทำให้สังคมแตกแยก ไม่มีทางปรองดองกันได้ อันนำมาสู่การนองเลือดในที่สุดอย่างครั้งประวัติศาสตร์เคยสอนสังคมไทย

สำหรับการจัดการเสวนาดังกล่าวนี้ ผู้จัดงานเปิดเผยว่่า นักวิชาการมหาวิทยาลัยขอนแก่นรายหนึ่งได้ถอนตัวการเป็นวิยากรอย่างกะทันหัน เนื่องจากถูกบีบอย่างหนัก จึงมีมีวิทยากรหลักจาก สนนท. สนนอ. นายประเวศ ประภานุกูล ทนายความคดีดาร์ ตอร์ปิโด และวาด วรี กวีจากกลุ่มแสงสำนึก

นายพรชัย ยวนยี เลขาธิการสนนท.กล่าวอภิปรายว่า การจัดกิจกรรมรณรงค์แก้ไขมาตรา112นั้น มีปัญหาเสรีภาพทางวิชาการมาก จะไปจัดงานที่ไหนก็ยากลำบาก ถูกกีดกัน ไม่ใช่เฉพาะที่มหาวิทยาลัยขอนแก่น การจัดเสวนาวิชาการที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯก็เคยเจอปัญหา ทางคณะไม่ให้ใช้ห้องประชุมคณะ เป็นต้น

ปัญหาส่วนหนึ่งของการรณรงค์แก้ไขม.112นั้นก็เนื่องจากสื่อไม่ทำหน้าที่ตาม หลักวิชาชีพและขาดจรรยาบรรณ นำเสนอข่าวด้านเดียว เซ็นเซอร์ตนเองในข่าวฝ่ายความเคลื่อนไหวแก้ไขรณรงค์แก้ไข 112 หรือข่าวนิติราษฎร์ก็บิดเบือนนำเสนอข่าวด้านลบ อาจนำไปสู่การนองเลือดแบบกรณี 6 ตุลาคม 2519 เพราะบิดเบือนให้ร้ายว่าคณะนิติราษฎร์ และฝ่ายรณรงค์แก้ไขมาตรานี้เป็นพวกล้มล้างสถาบัน ซึ่งเป็๋นการบิดเบือนทั้งหมด ทั้งที่ความจริงเรารณรงค์แก้ไขเพื่อให้เป็นประชาธิปไตย ไม่นำสถาบันมาเป็นเครื่องมือทำลายล้างทางการเมือง ที่เรามาจัดงานที่มหาวิทยาลัยขอนแก่นก็บิดเบือนให้ร้ายอันเป็นเท็จ สนนท.จึงได้ออกแถลงการณ์ประณาม เพราะที่ครก.112ทำอยู่เป็นการเสนอแก้ไขกฎหมายตามรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่การล้มเจ้า

ทนายประเวศกล่าวถึงปัญหาการบังคับใช้มาตรา 112 ว่า หัวใจสำคัญคือผู้พิพากษาที่มีทัศนคติว่าพวกตนตัดสินคดีภายใต้พระปรมาภิไธย ของในหลวง จึงอาจคิดไปว่าตนเป็นคู่กรณีของจำเลยซะเอง และบางครั้งก็อาจตัดสินคดีเลยไปไกลจากตัวบท เช่น หาว่า จำเลยกรณีนายบัณฑิต อานียา เขียนหนังสือชักจูงให้คนไม่รัก ทัี้งที่ไม่มีักำหนดไว้ในมาตรานี้เลย หรือหากเป็นจำเลยเสื้อแดงก็มักถูกตัดสินหนัก แต่หากเป็นเสื้อเหลืองแบบนายสนธิ ลิ้มทองกุล ถูกดำเนินคดีนี้ ปานนี้เรื่องก็ยังไม่ไปถึงไหน หรือคดีนายโชติศักดิ์ ที่ไม่ยืนในโรงหนังมีการส่งฟ้อง แต่คนที่ทำร้ายนายโชติศักดิ์ในโรงหนังกลับไม่ถูกดำเนินคดี เพราะกระบวนการยุติธรรมไทยเห็นว่าเป็นการปกป้องสถาบัน

วาด วรี กวีกลุ่มแสงสำนึก กล่าวว่า สถาบันตกเป็นเครื่องมือทางการเมืองมาหลายกรณี และถูกทำให้ถลำลึกสู่ความขัดแย้งทางการเมือง ขณะที่คนในแวดวงราชสำนักก็กระทำการในทางที่ไม่สมควร เช่น พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี เดินสายพูดให้ทหารทำรัฐประหาร 19 กันยา จากนั้นพลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรีคนหนึ่งก็มาเป็นนายกฯหลังรัฐประหาร แล้วก็ขึ้นเงินเดือนให้องคมนตรี ต่อมาพลเอกเปรมก็มาพูดเชียร์นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะว่าคนไทยโชคดีที่ได้นายอภิสิทธิ์เป็นนายกฯ ทั้งที่รัฐธรรมนูญตราไว้ว่ให้องคมนตรีต้องเป็นกลางทางการเมือง สถาบันฯจึงถูกทำให้ลงมาพัวพันกับการเมือง และถูกอ้างว่ามีการล้มเจ้า ขณะที่มาตรา112ถูกบังคับใช้ภายใต้บรรยากาศ 2 มาตรฐาน และขัดกับอุดมการณ์ที่เรียกว่า"ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข" แต่สนองตอบอุดมการณ์กษัตริย์นิยม ซึ่งข้อเสนอของนิติราษฎร์นั้นเสนอแก้ไขให้สอดคล้องกับระบอบประชาธิปไตยอันมี พระมหากษัตริย์เป็นประมุข และเป็นการสนองพระราชดำรัสในหลวงเมื่อ 4 ธันวาคม 2548 ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยมีใครสนองพระราชดำรัสมาก่อนเลย

ท้าให้ลงประชามติเลยคนส่วนใหญ่เห็นด้วยหรือค้านแก้112


ในช่วงแลกเปลี่ยนมีผู้ถามว่า หากลงชื่อแก้ไขมาตรา112จะผิดกฎหมายและถูกไล่ออกนอกประเทศหรือไม่ วิทยากรตอบว่า การเสนอแก้ไขเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ แต่คนมาคัดค้านนั้นผิดกฎหมาย เพราะขัดรัฐธรรมนูญ และอยากฝากผบ.ทบ.ที่ชอบอ้างว่าคนไทยส่วนใหญ่ในประเทศไม่เห็นด้วยกับการแก้ไข กฎหมายนั้น ก็ควรลงประชามติให้คนทั้งประเทศออกเสียงว่าควรแก้หรือไม่ควร

"ส่วนคนที่อ้างว่าคนที่ไม่รักสถาบันให้ออกนอกประเทศไป เดี๋ยวคนทั่วโลกที่เขาปกครองด้วยระบบประชาธิปไตยมากกว่า80%จะไล่พวกคุณที่ ไม่รักประชาธิปไตยไปอยู่นอกโลก มันจะแย่เอานะครับ"เลขา สนนท.กล่าว

คนขอนแก่นจี้ส.ส.เพื่อไทยให้หนุนแก้112ไม่งั้นคราวหน้าไม่เลือกอีก

นอกจากนั้นผู้ร่วมเสวนาชาวขอนแก่น ซึ่งเป็นจังหวัดที่เลือกพรรคเพื่อไทยยกทั้งจังหวัดในการเลือกตั้งส.ส.ครั้ง ล่าสุดยังได้กล่าววิจารณ์ว่าพรรคเพื่อไทยที่ไม่สนับสนุนการแก้ไข มาตรา112นั้นไม่ทราบว่าจะยึกยักรอให้เขายึดอำนาจก่อนหรืออย่างไร และเสนอให้ประชาชนที่เลือกพรรคเพื่อไทยรณรงค์กดดันส.ส.ที่ตัวเองเลือกไปให้ สนับสนุนการแก้ไขมาตรา112 ไม่ใช่ปล่อยให้รองนายกฯเฉลิม อยู่บำรุง พูดให้สัมภาษณ์จะคัดค้านการแก้ไขและจ้องจับผิดนิติราษฎร์อยู่อย่างนี้ หากพรรคเพื่อไทยไม่สนองตอบ ก็ควรยุติการสนับสนุน และหันไปเลือกพรรคการเมืองที่สนับสนุนข้อเสนอของนิติราษฎร์และครก.112แทน


*******
เรื่องเกี่ยวเนื่อง:เหลิมฟังทางนี้หน่อยอ๋อยเตือน:คนเสนอแก้112ไม่ผิดเพราะวิจารณ์กฎหมาย ไม่ได้วิจารณ์สถาบันกษัตริย์