ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Saturday, 29 October 2011

พูดกับทำ

ที่มา ข่าวสด

คอลัมน์ เหล็กใน
มันฯ มือเสือ



สถานการณ์อภิมหาอุทกภัยถล่มกรุง

พัฒนามาถึงจุดที่นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และพล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ผู้อำนวยการ ศปภ.ยอมรับว่าไม่สามารถต้านทานไว้ได้อีกต่อไป

ต้องประกาศสั่งอพยพประชาชนออกจากพื้นที่อย่างเร่งด่วน จากเขตดอนเมือง บางพลัด ต่อด้วยสายไหม ทวีวัฒนา

ดูตามทรงคาดว่ายังมีตามมาอีกหลายเขต

อย่างไรก็ตามช่วง 2-3 วันนี้ กรุงเทพฯ ยังอยู่ในช่วงวิกฤตน้ำทะเลหนุนสูง อุปสรรคสำคัญในการระบายน้ำกรุงลงสู่เจ้าพระยา

ความไม่สมดุลของปริมาณน้ำไหลเข้ากับน้ำไหลออก

ไม่ เพียงทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมขัง แต่น้ำยังจะยกตัวสูงขึ้นเรื่อยไปจนกว่าจะพ้นวันที่ 31 ต.ค. หรือวันสุดท้ายที่น้ำทะเลหนุนสูงสุดไปแล้ว

แต่การบอกว่าหลัง 31 ต.ค. แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นปุบปับทันตาคงไม่ได้

เนื่อง จากกรุงเทพฯ มีภูมิประเทศลักษณะราบแบน ส่วนต่างความสูง-ต่ำของพื้นที่ไม่มาก ทั้งยังมีถนนและสิ่งปลูกสร้างจำนวนมากกีดขวางเส้นทางน้ำ

ทำให้ไหลลงทะเลได้ช้า

การ แก้ไขด้วยการปรับระดับพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อเพิ่มอัตราความเร็วการไหลของน้ำ หรือการไล่รื้ออาคารบ้านเรือนของประชาชน ตอนนี้ คงเป็นไปไม่ได้

ดังนั้น จึงเหลือทางเดียวที่เข้าข่ายเป็นไปได้มากสุดคือ "เจาะถนน" ให้น้ำผ่าน

ข่าวแจ้งว่าไอเดียเจาะถนนนี้ มีวิศวกรด้านจัดการน้ำภาคเอกชนเสนอต่อรัฐบาลมาระยะหนึ่ง แต่ไม่มีการคิดต่อเพื่อนำมาใช้อย่างจริงจัง

กระทั่งพฤหัสฯ ที่ผ่านมา ภาคเอกชนเสนอแนวทางนี้ต่อนายกฯ อีกครั้ง นายกฯ รับฟังพร้อมกับสั่งเจ้าหน้าที่ใช้ฮ.บินสำรวจพื้นที่ทันทีเพื่อประเมินความ เป็นไปได้

ได้ข้อสรุปเบื้องต้นว่า ถ้าจะให้ได้ผลต้องเจาะถนนมอเตอร์เวย์ กับถนนบางนา-ตราด แล้วก็ต้องทำให้เสร็จใน 3 วันเพื่อรองรับการระบายน้ำกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออกหลังพ้นช่วงทะเลหนุนสูง

ไอเดียนี้จะสำเร็จหรือไม่ ต้องตามดูกันต่อไป

ช่วงนี้มีนักวิชาการและวิชาเกินหลายคนพยายามเสนอแนวทางแก้ปัญหา อันไหนเข้าท่ารัฐบาลก็รับไปพิจารณา เช่น การเจาะถนน เป็นต้น

แต่อันไหนรัฐบาลประเมินแล้วว่าทำไม่ได้ ก็คือทำไม่ได้

นั่นเพราะว่าการพูดง่ายดายกว่าการลงมือทำ

จริงหรือไม่ ถามคนที่เพิ่งกลับจากหนีเที่ยวเกาะรู้ดีที่สุด