ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Saturday, 8 October 2011

ลัทธิคนดี

ที่มา มติชน



โดย สุริวงค์ เอื้อปฏิภาน

(ที่มา คอลัมน์สถานีคิดเลขที่ 12 หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน ฉบับประจำวันที่ 7 ตุลาคม 2554)

ใน ท่ามกลางการรำลึกถึงวีรชนเดือนตุลาคม ขบวนการนิสิตนักศึกษาประชาชน ที่ลุกขึ้นโค่นล้มอำนาจเผด็จการทหารในเหตุการณ์ 14 ตุลาคม 2516 ก่อนจะถูกกลุ่มอำนาจอนุรักษนิยม ปราบปรามอย่างโหดเหี้ยมในวันที่ 6 ตุลาคม 2519

หากนึกย้อนไปในช่วงหลัง 14 ตุลาคม 2516 เราจะพบว่า เป็นช่วงของการต่อสู้ทางความคิดและอุดมการณ์อันเข้มข้น

ระหว่างคนรุ่นใหม่ที่เรียกหาเสรีภาพประชาธิปไตย เป็นกบฏต่อสังคมเก่า ซึ่งเรียกกันว่าฝ่ายซ้าย

กับ กลุ่มอำนาจล้าหลัง ที่ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง ไม่ยอมรับความคิดใหม่ ต้องการสังคมที่มีระบบระเบียบเรียบร้อย ประชาชนเชื่อฟังผู้นำ ซึ่งเรียกกันว่าฝ่ายขวา

การต่อสู้ระหว่าง 2 แนวความคิดนี้ ได้ลุกลามรุนแรง ที่เรียกว่าขวาพิฆาตซ้าย จนกระทั่งในปี 2519 ฝ่ายซ้ายต้องเปลี่ยนเวทีไปอยู่ในป่าเขา

เปลี่ยนรูปแบบการต่อสู้ใหม่ จนมาถึงจุดสลายในช่วงปี 2523-2524

จึงกล่าวได้ว่า ระหว่างปี 2516 จนถึง 2524

เป็นช่วงที่สังคมไทยอยู่ในการเคลื่อนไหวต่อสู้ระหว่างแนวคิดอุดมการณ์อันชัดเจน

สังคมไทยในช่วงนั้น จำแนกคนจากความคิดอุดมการณ์

ไม่มีคำว่าลัทธิคนดีและลัทธิคนเลวมากำหนด

มี อยู่เหมือนกัน บางกลุ่มสำนักที่ยึดถือตัวบุคคล ปั้นเป็นศาสดา แต่ก็ไม่สอดรับกับสถานการณ์โดยรวม เพราะสังคมไทยในห้วงนั้น จะนับถือใครขึ้นอยู่กับว่า ได้เข้ามามีบทบาทในการเคลื่อนไหวทางสังคมที่เป็นจริงหรือไม่

ไม่มีการยึดถือหรอกว่าคนนี้เป็นคนดี ก็ต้องเป็นฝ่ายเทพอย่างเดียว อีกคนเป็นคนเลว ก็ต้องเป็นฝ่ายมารไปตลอดกาล

ใครจะดีหรือเลวขึ้นกับการเข้าร่วมต่อสู้ในขณะนั้นว่า สังกัดความคิดอุดมการณ์แบบไหน

อุดมการณ์ที่กล้าแปรเปลี่ยนสังคมให้ก้าวหน้าไปสู่สิ่งใหม่ที่ดีกว่าหรือไม่

จนกระทั่งเมื่อฝ่ายซ้ายหมดสิ้นบทบาทไป สังคมไทยก็เริ่มเข้าสู่ยุคใหม่

เป็นยุคยึดถือเอาคำว่า "คนดี" กับ "คนเลว" เป็นหลัก

ยึดมั่นในตัวบุคคล เชิดชูเป็นเทพแห่งความดี หรือเกลียดชังใครก็จัดเป็นปีศาจแห่งขุมนรก เลวไปทุกเรื่อง

ลัทธิ เชิดชูคนดี ก็ดีไปทุกกระเบียดนิ้ว ต่อให้ทำผิดคิดร้าย ใช้อำนาจเข่นฆ่าคนตายไปเกือบร้อย ก็สามารถอธิบายได้ว่า เพราะคนตายมันไปหลงเชื่อปีศาจแห่งความเลวร้าย ดังนั้น คนดีจึงไม่ได้ทำผิดอะไร

เทพแห่งความดี ตัดสินความเลวร้ายในเหตุการณ์ปราบปรามประชาชนในอดีต ด้วยการออกกฎกติกา ต่อไปนี้สังคมไทยห้ามใช้ทหารเข้ามาปราบม็อบอีก

แต่พอผ่านมาอีกหลายปี มีเหตุการณ์แบบเดียวกัน หลักการเดิมก็หายไป

คงเพราะประชาชนที่ถูกฆ่านั้นถูกตีตราว่าเป็นพวกหลงคนเลว

คนที่ขึ้นทำเนียบเทพเจ้าแห่งความดีไปแล้ว ต่อให้วันหนึ่งไปเขียนจดหมายเชิดชูการทุ่มเทรับใช้การเมือง ก็ไม่ถือว่าผิดปกติอะไร

นักการเมืองเกลียดรูปภาพกับพาดหัวข่าวก็จัดการให้ ละเมิดหลักเสรีภาพแท้ๆ ก็ไม่เป็นไร เพราะคนดีรับใช้คนดีด้วยกัน

แต่เอาเข้าจริงๆ ลัทธิคนดีกับคนเลวที่เฟื่องฟูในช่วงนี้

ก็แค่ความหลงของคนกลุ่มหนึ่ง ซึ่งอยู่ในฝ่ายฉุดสังคมให้ถอยหลัง ไม่ต่างจากขวาโบราณในยุคเดิมเลย