ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Friday, 9 September 2011

เร่งทำเพื่อคนๆเดียว หรือไม่?สังคมไทยจะเป็นผู้ตัดสิน

ที่มา thaifreenews

โดย bozo



ต้องยอมรับว่า สังคมไทยยังอดสงสัยไม่ได้ กับท่าทีของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ 1
ที่ปากบอกว่า ไม่มีนโยบายเร่งนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี
แต่การกระทำที่ผ่านๆมา
ก็ต้องยอมรับว่า รัฐบาลยิ่งลักษณ์เหมือนกับมีความพยายามปูทาง
ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับบ้านได้รับการขอพระราชทานอภัยโทษให้ได้
โดยเฉพาะการที่ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รมว.ยุติธรรม สั่งตั้งคณะทำงานศึกษากรณีดังกล่าวในทันที
โดยไม่สนใจแรงกดดันที่ถาโถมเข้าใส่



ทำให้ประชาชนส่วนหนึ่งคงอดที่จะคิดไปไม่ได้ ว่า
ที่รัฐบาล ปู 1 โดยกระทรวงยุติธรรมดำเนินการในลักษณะนี้
เกิดจากมีการรับคำสั่งมาจากใครมาหรือไม่?
ทั้งคนที่อยู่ในประเทศ หรือ พานคิดเลยไปถึงคนที่อยู่ต่างประเทศ
ที่จะได้ประโยชน์มากที่สุด หากกฎหมายนิรโทษกรรม
หรือการขอพระราชทานอภัยโทษสามารถกระทำได้สำเร็จ
แม้นายกรัฐมนตรีหญิงจะออกมายืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะว่า
รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยไม่มีนโยบาย
หรือไม่ใช่เป้าหมายเร่งด่วนในการดำเนินการก็ตาม
แต่การกระทำที่ผ่านมาของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ 1
ก็ถือเป็นตัวที่ทำให้ประชาชนคนไทยตัดสินได้ว่า กำลังทำเพื่อคนๆเดียวหรือไม่?
ซึ่งไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ใดๆ

กับอีกด้านที่แยกกันไม่ออก
การเคลื่อนไหวทางการเมืองของรัฐบาลชุดปัจจุบัน กับ มวลชน
กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ นปช.
ที่เป็นไปแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน ทั้งเรื่องเป้าหมายเพื่อการเรียกร้องให้พิจารณาแก้รัฐธรรมนูญ
ด้วยการตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ สสร. 3 เพื่อออกกฎหมาย นิรโทษกรรม
ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พี่ชายน.ส.ยิ่งลักษณ์
หรือแม้แต่ กรณีสภาผู้แทนฯมีมติไม่ให้ส่งตัว 9 ส.ส.เพื่อไทยกลุ่มเสื้อแดงไปดำเนินคดีความว่า
แม้ส.ส.ทั้ง 9 คน มีความประสงค์ไม่ขอใช้เอกสิทธิ์คุ้มครอง



โดย พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวแสดงความเห็น
การยื่นฎีกาขออภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีว่า
ส่วนตัวไม่ขัดข้องที่จะยื่นฎีกาของพระราชทานอภัยโทษให้ พ.ต.ท.ทักษิณ
เพราะ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้ทำอะไรผิด
แม้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้พิพากษาว่า
มีความผิด แต่ศาลแพ่งพิจารณาแล้ว เห็นว่า ไม่มีการซื้อที่ดิน
และสั่งให้คืนเงินให้คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ
จึงสรุปได้ว่า พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้ทำสัญญาใดๆกับรัฐทั้งสิ้น



ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์
กรณี พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย ระบุ
"ให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
พิจารณากลับคำตัดสินคดีซื้อขายที่ดินรัชดาของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีใหม่ว่า
ที่ศาลฎีกาฯตัดสินจำคุกพ.ต.ท.ทักษิณ 2 ปีนั้น ไม่ใช่คดีทุจริต
แต่เป็นการทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่กฎหมายอาญา
ซึ่งต่อมาเมื่อศาลแพ่งตัดสินใจว่า
สัญญาการซื้อขายที่ดินระหว่าง
คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภริยา พ.ต.ท.ทักษิณ กับกองทุนฟื้นฟูฯเป็นโมฆะตั้งแต่ต้น
เท่ากับว่า ไม่มีการซื้อขาย ทุกอย่างต้องกลับไปสู่จุดเดิม
และให้กองทุนฟื้นฟูคืนเงินคุณหญิงพจมาน
ดังนั้น พ.ต.ท.ทักษิณจึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการซื้อขายแล้ว เพราะสัญญาเป็นโมฆะ
แต่คดีที่ศาลฎีกาสั่งจำคุก 2 ปีในข้อหานี้ ซึ่งกำลังคิดว่า จะทำอย่างไรต่อไป
คดีนี้ต้องให้ความเป็นธรรม พ.ต.ท.ทักษิณ เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ต้องไปคิดกัน"

ขณะที่พรรคฝ่ายค้าน โดยนายถาวร เสนเนียม ส.ส.สงขลา พรรค ปชป.
ก็ชิงออกมาดักคอรัฐบาลทันที
มีการยกกรณีการขอพระราชทานอภัยโทษของคดีอื่น
ที่มีความใกล้เคียงขึ้นมาเทียบ กับคดี พ.ต.ท.ทักษิณ ยืนยันว่า
หากจะเข้าเกณฑ์ขออภัยโทษ ผู้ต้องหาต้องยอมรับติดคุกก่อน
เพราะในสมัย ที่ ร.ต.อ.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ เป็น รมว.มหาดไทย
ในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นนายกฯ ก็มีการพิจารณา
กรณีญาติผู้ต้องหาขอพระราชทานอภัยโทษให้กับบิดา
ที่เป็นผู้ต้องหาหลบหนีคดี ซึ่งสุดท้ายก็ยกคำร้อง
เพราะไม่เข้าเกณฑ์เพราะผู้ต้องหายังไม่ได้รับโทษในเรือนจำ



ประกอบกับพ.อ.อภิวันท์ ยังได้กล่าวถึง
กรณีสภาผู้แทนฯมีมติไม่ให้ส่งตัว 9 ส.ส.เพื่อไทยกลุ่มเสื้อแดงไปดำเนินคดี
ทั้งที่แกนนำทั้ง 9 ไม่ขอใช้เอกสิทธิ์ส.ส.คุ้มครอง อีกว่า
"เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องบุคคล แต่เป็นเรื่องขององค์กร
ซึ่งตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญต้องการไม่ให้อำนาจอื่น
ทั้งฝ่ายบริหาร ตุลาการเข้ามาก้าวก่ายฝ่ายนิติบัญญัติ
จึงไม่อนุญาตให้ส่งตัวไปดำเนินคดี ยืนยันไม่ได้เล่นละครตบตาประชาชน

" นายจตุพร พรหมพันธุ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย
และแกนนำนปช.ไม่สบายใจ มาพูดกับตนในที่ประชุม ส.ส.
แต่ตนย้ำว่า เป็นเรื่องของหลักการ และศักดิ์ศรีของรัฐสภาจะต้องเท่าเทียมกัน" พ.อ.อภิวันท์ กล่าว

ขณะที่อีกด้านก็ปรากฏข่าวแกนนำ นปช.ที่หลบหนีคดีไปพากันเดินทางกลับเข้าประเทศ
โดยเฉพาะกระแสข่าว กรณีนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง หรือ กี้ร์ แอบเดินทางกลับ
และยังคงหลบหนีการจับกุมอยู่ภายในประเทศ ร้อนถึงผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล
ต้องออกมาปฏิเสธข่าวลือ ว่า กี้ร์ไม่ได้อยู่ในประเทศ แต่ยังคงกบดานอยู่ต่างประเทศ
ข่าวนี้น่าเป็นข่าวปล่อยเสียมากกว่า



กับปรากฏการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น
ไม่ว่าสุดท้ายจะเป็นเพราะรัฐบาลต้องการทำให้มันเป็นไปอย่างที่เห็นจริงๆหรือ
เพราะมีฝ่ายตรงข้ามพยายามสร้างข่าว
เพื่อดิสเครดิตล้มรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ตามที่นายจตุพร พรหมพันธ์ุ พยายามปูดข่าวก็ตาม
สุดท้ายสังคมไทยจะเป็นผู้ตัดสินเอง ว่า
รัฐบาลและพรรคเพื่อไทยทำไปเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชนส่วนรวมหรือไม่?
หรือทำเพื่อเป้าหมายช่วยคนเพียงคนเดียว อย่างที่หลายฝ่ายพยายามออกมาโจมตี.


http://www.thairath.co.th/content/pol/200274