ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Thursday, 1 September 2011

แดงผงาด "บ้านพิษฯ"รีเทิร์น ตัวช่วยใหม่หรือสายล่อฟ้า !!

ที่มา มติชน





ถึง แม้หน้าตาคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะไม่ได้ขี้ริ้่วขี้เหร่มากมาย ขณะที่ทีมเศรษฐกิจอย่าง "ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล" รมว.คลัง หรือ "กิตติรัตน์ ณ ระนอง" รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ชื่อชั้นอาจจะไม่ได้ติดชาร์ตอันดับต้นๆ แถมยังถูกวิพากษ์ว่าเป็น "คนกันเอง" ของเครือข่ายตระกูลชินวัตร เลยหนีไม่พ้นวังวนเรตติ้ง "ความเชื่อมั่น" ตกต่ำ เพราะไม่มั่นใจว่าจะนำประเทศไทยฝ่าวิกฤตเศรษฐกิจไปได้จริงหรือไม่ เพราะมี "วาระซ่อนเร้น" แอบแฝง

แค่คำอธิบาย "ค่าจ้าง-เงินเดือน" เรื่อง 300 บาท กับ 15,000 บาท ก็ทำให้นายกฯยิ่งลักษณ์ และรัฐบาล "ลิ้นพลิก" กันไปตามๆ กัน เพราะต้องหาคำอธิบายมาสื่อสารทำความเข้าใจกับสังคม ว่าไม่ได้เป็นการ "แก้บน" อย่างที่ถูกกล่าวหา

ขณะที่การต่อสู้ทางการเมืองที่ต้อง "ชิงการนำ" เพื่อดึงใจมวลชน พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งคณะทำงาน "ครม.เงา" ขึ้นมาคอยเกาะติดและมอนิเตอร์การบริหารราชการของรัฐบาลรายกระทรวงของรัฐบาล พรรคเพื่อไทย ซึ่งนัยยะของการมี ครม.เงา ก็เพื่อจับผิด-หาจุดบอดการบริหารงานของรัฐบาล

ย่อมทำให้พรรคเพื่อไทย ต้อง "ตั้งการ์ดสูง" เตรียมรับมือและแก้เกมให้ทันท่วงที ซึ่งคงหนีไม่พ้นจะต้องมี "ทีมงานพิเศษ" ซึ่งล็อกสเปกไว้ว่าต้องเป็นนักคิด นักการเมืองที่ฝีมือทัดเทียมกับ "มือทำงาน" ของพรรคประชาธิปัตย์ด้วย

สมาชิก บ้านเลขที่ 111 และ 109 ถูกพาดพิงถึงและจะถูกดึงมาใช้งานอีกครั้ง พร้อมๆ กับจุดกระแสตั้ง "ที่ปรึกษาบ้านพิษณุโลก" ขึ้นมาทำหน้าที่เป็น "กุนซือ" ให้กับรัฐบาลยิ่งลักษณ์

เชื่อกันว่า ชื่อของ "สมชาย วงศ์สวัสดิ์" อดีตนายกฯ "จาตุรนต์ ฉายแสง" อดีตรักษาการหัวหน้าพรรคไทยรักไทย "พงศ์เทพ เทพกาญจนา" อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยรักไทย "วราเทพ รัตนากร" อดีต รมช.คลัง "นพดล ปัทมะ" อดีต รมว.ต่างประเทศ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และ "ชูศักดิ์ ศิรินิล" อดีตเลขาธิการนายกฯ คงทำให้คำแนะนำในด้านกฎหมาย ด้านยุทธศาสตร์การเมืองและการต่างประเทศ มีความหนักแน่นมากยิ่งขึ้น และช่วยอุดช่องว่าง-กำจัดจุดอ่อนทั้งปวงของรัฐบาลได้

ความจริงแล้ว ในทางปฏิบัตินั้น บรรดาแกนนำของบ้านเลขที่ 111+109 ก็ถือเป็น "ถังความคิด" ให้กับการเคลื่อนทางการเมืองพรรคเพื่อไทยมาตลอด ทั้งในทางลับและทางแจ้ง ไม่ว่าจะก่อนเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง หรือจนกระทั่งในช่วงของการยกร่างนโยบายของรัฐบาล ก็ยังมีทีม "ตัวจริง" ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลืออยู่เสมอ

การจัดวางบทบาทให้ "ทีมใหญ่" ออกมายืนในที่สว่าง ในฐานะเป็น "ที่ปรึกษาบ้านพิษฯ" เท่ากับว่าเป็นการส่งสัญญาณทางการเมืองให้ทุกฝ่ายได้ทราบว่า เมื่อพ้นโทษแบนทางการเมืองกลางปีหน้าแล้ว กลุ่มคนเหล่านี้จะกลับมาเป็นตัวจริงในสนาม รับไม้ต่อจากแกนนำแถว 3 ของพรรคเพื่อไทยโดยไม่มีสะดุด

แต่ก็เป็นปัญหาว่าอายุรัฐบาลพรรคเพื่อ ไทยจะยืนยาวไปถึงกลางปีหน้าได้หรือไม่ ก็ต้องวัดใจ "ลมใต้ปีก" ของรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ว่ายืนระยะได้แค่ไหน

ประเด็นการเยียวผู้เสีย ชีวิต 91 ศพ จากการชุมนุม โรดแมปการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่แว่วว่าจะหยิบรัฐธรรมนูญ 2540 ขึ้นมาปัดฝุ่น หรือแม้แต่การปูนบำเหน็จให้คนเสื้อแดงที่ร่วมต่อสู้กลางถนนให้มานั่งเก้าอี้ ที่ปรึกษา เลขานุการรัฐมนตรี และตำแหน่งประจำฯ จะกลายเป็น "สายล่อฟ้า" ทำให้รัฐนาวา "ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร" ไปไม่ถึงที่หมาย

ล่าสุด "อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด" รองโฆษกรัฐบาล ซึ่งเป็นอดีตดีเจเครือข่ายคนเสื้อแดง ออกมานั่งแถลงมติ ครม.เรื่องเห็นชอบการแต่งตั้งข้าราชการการเมืองในส่วนของกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ อย่าง "อารี ไกรนรา" อดีตหัวหน้าการ์ดคนเสื้อแดง เป็นเลขานุการ รมว.มหาดไทย "ยศวริศ ชูกล่อม" หรือเจ๋ง ดอกจิก เป็นผู้ช่วยเลขานุการ รมว.มหาดไทย "ชินวัฒน์ หาบุญพาด" แกนนำคนเสื้อแดง เป็นที่ปรึกษา รมว.คมนาคม หรือ "วิสา คัญทัพ" เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีนั้น ถามว่ารัฐบาลจะมีคำอธิบายอื่นอีกหรือไม่นอกเหนือจากคำว่า "ขอโอกาสทำงาน"

ประชุม ครม. 2 ครั้งที่ผ่านมา รัฐบาลก็ตั้งแกนนำแดงเป็นข้าราชการการเมืองไปแล้วไม่น้อยกว่า 16 คน กระแสร้อนเรื่อง "ผลประโยชน์ต่างตอบแทน" คงโหมกระหน่ำเข้าใส่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยไปอีกพักใหญ่