เหล็กใน
มันฯ มือเสือ
ถึง วันนี้ครบ 5 ปี ประเทศไทยผ่านรัฐบาลมาแล้ว 5 ชุด คือ รัฐบาลสุรยุทธ์ รัฐบาลสมัคร รัฐบาลสมชาย รัฐบาลอภิสิทธิ์ และล่าสุดรัฐบาลยิ่งลักษณ์
ในจำนวนนี้มีรัฐบาล 2 ชุดไม่ได้มาตามระบอบประชาธิปไตย
รัฐบาลสุรยุทธ์นั้นแน่นอนอยู่แล้ว สำหรับรัฐบาลอภิสิทธิ์แม้จะแอบอ้างตนว่า มาตามระบอบประชาธิป ไตยจากการเลือกตั้งปลายปี 2550
แต่ประชาชนทั่วประเทศรู้ดีว่า เนื้อแท้แล้วรัฐบาลอภิสิทธิ์ คือผลลัพธ์ของ 'โรดแม็ป' บันได 4 ขั้นที่หัวหน้าคณะรัฐประหารขณะนั้นวางไว้
การ มีที่มาไม่ชอบธรรม ก่อตั้งในค่ายทหารนี้เอง คือปมด้อยของรัฐบาลอภิสิทธิ์ ถูกสังคมล้อเลียนมาตลอดเวลา 2 ปีเศษว่าเป็นรัฐบาลที่กำเนิดจากมดลูกของคมช.
คือมีคมช.เป็นมารดา บิดาคือ 'มือที่มองไม่เห็น' กองทัพเป็นพี่เลี้ยง กลุ่มพันธมิตรฯ เป็นเพื่อนกิน พรรคงูเห่าเป็นเพื่อน'ตาย'
โดยมีทักษิณ พรรคพลังประชาชน พรรคเพื่อไทย นปช. คนเสื้อแดงเป็นศัตรูที่อยู่ร่วมโลกกันไม่ได้ ต้องใช้ทุกวิถีทางกำจัดให้สิ้นซาก
แต่ ก็นั่นแหละ การรัฐประหารของคมช. ที่เปรียบเสมือนการกลัดกระดุมผิดเม็ดตั้งแต่แรกให้กับการ เมืองไทย เม็ดที่สองสามเลยผิดเพี้ยนตามๆ กันมา
ผลคือทำให้การเมืองไทยรูปทรง เบี้ยวบูด ที่แม้แต่คนในประเทศก็ลุกฮือต่อต้าน แถมยังเป็นที่รังเกียจเดียดฉันท์ในสายตานานาอารยประเทศโลกประชา ธิปไตย
สุด ท้ายรัฐบาลอภิสิทธิ์และขบวนการโอบอุ้มทั้งหลาย ไม่ว่ามือที่มองเห็นหรือมองไม่เห็น ได้ตัดสินใจสั่งการใช้กำลังรุนแรงเข้าปราบปราบประชาชนฝ่าย ต่อต้านเมื่อเดือนเม.ย.-พ.ค.2553
เป็นเหตุให้ผู้ชุมนุม เจ้าหน้าที่ทหาร ตลอดจนประชาชนผู้บริสุทธิ์ เสียชีวิต 91 ศพ บาดเจ็บพิการร่วม 2,000 คน
ซึ่ง เป็นภารกิจสำคัญของรัฐบาลเพื่อไทยในปัจจุบัน ที่นอกจากการเยียวยาผู้สูญเสียแล้ว การหาตัวคนกระทำผิดมาลงโทษตามกระบวนการทางกฎหมายก็จำเป็นไม่ยิ่งหย่อนกว่า กัน
บางคนมองว่า 91 ศพคือผลพวงจากเหตุขัดแย้งทางการเมืองเดือนเม.ย.-พ.ค.53
แต่ลึกลงไปบางคนกลับมองว่า 91 ศพ
คือผลพวงจากวันนี้เมื่อ 5 ปีที่แล้วต่างหาก