ที่มา มติชน
เศรษฐกิจ
อีก ไม่กี่อึดใจรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ภายใต้การบริหารงานของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะได้เริ่มต้นการทำงานอย่างเต็มรูปแบบแล้ว
โดยในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ รัฐบาลมีกำหนดแถลงนโยบายต่อสภาผู้แทนราษฎร ภายใต้กรอบนโยบายการบริหาร ที่แบ่งออกเป็น 2 ส่วน
คือ 1.นโยบายเร่งด่วน ที่จะดำเนินการภายใน 1 ปี ซึ่งมีการรวมรวบนโยบายสำคัญ ที่พรรคเพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาล ใช้หาเสียงไว้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการปรับเพิ่มค่าแรงรายวัน 300 บาท เงินเดือนผู้จบการศึกษาระดับปริญญาตรี 15,000 บาท การลดเงินนำส่งเข้ากองทุนน้ำมัน การลดภาษีนิติบุคคล เหลือ 23% รวมถึงการป้องกันปัญหายาเสพติด เป็นต้น
เป้าหมายสำคัญอยู่ที่การลด รายจ่ายเพิ่มรายได้ ให้กับกลุ่มคนที่มีรายได้น้อย ทั้งในภาคการเกษตร และนอกภาคการเกษตร ซึ่งรัฐบาลมองว่าเป็นกลุ่มคนที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ การมีรายได้เพิ่มขึ้น ก็จะทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น มีความสุข การลดความเหลื่อมล้ำของสภาพสังคม โดยรวมก็จะดีขึ้น
2.นโยบายที่จะ ดำเนินการภายในช่วงอายุการบริหารงาน 4 ปีของรัฐบาล ที่แบ่งภารกิจงานออกเป็นด้านๆ ครอบคลุมทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็น ภาคเกษตร อุตสาหกรรม การบริหารงาน ภาคการท่องเที่ยว ไปจนถึงกีฬา การศึกษา ศิลปวัฒนธรรม ความมั่นคง การจัดการทรัพยากร เชื่อมโยงการบริหารงานของทุกกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีเป้าหมายสำคัญ อยู่ที่การพัฒนาประเทศให้เกิดความอย่างยั่งยืน
ขณะ ที่การแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเรื่องน้ำท่วม ในพื้นที่ภาคเหนือและอีสาน รัฐบาลชุดนี้ ก็โชว์ฟอร์มได้น่าสนใจ โดยเฉพาะการลงพื้นที่พบปะชาวบ้าน ของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อรับข้อร้องเรียนต่างๆ มาแก้ไขปัญหาหลายเรื่อง อาทิ การสั่งการให้กระทรวงเกษตรฯ ปรับปรุงแก้ไขอัตราการชดเชยความเสียหายในไร่นาของเกษตรกร ให้มากกว่าไร่ละ 606 บาท รวมถึงการจัดทำแผนพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้งซ้ำซาก ในระยะยาว
ส่วนบรรดารัฐมนตรีหน้าใหม่ ที่เริ่มต้นเข้ารับตำแหน่งการบริหารงานในกระทรวงต่างๆ ก็พร้อมใจกันประสานเสียง ประกาศนโยบายเชิงรุกในการบริหารงานแต่ละกระทรวง ตามนโยบายรัฐบาลอย่างเต็มที่
ความหวังของประชาชนชาวไทยที่จะได้เห็น รัฐบาลชุดใหม่ ที่มีฝีมือเข้ามาบริหารงาน เพื่อนำประเทศชาติไปสู่ความก้าวหน้า เริ่มก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น
แต่ ยิ่งความหวังเพิ่มขึ้นมากเท่าไร ความกังวลของประชาชน เกี่ยวกับงานบางเรื่องของรัฐบาล ที่เตรียมจะดำเนินการ ก็เริ่มก่อตัวขึ้นเป็นเงาตามตัวเช่นกัน
ไม่ว่าจะเป็นแนวคิดการ รื้อฟื้นโครงการเก่า ซึ่งถูกมองว่าเป็น "ของร้อน" ขึ้นมาปัดฝุ่นทำใหม่ เช่น งานก่อสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่โครงการนี้ เมื่อเกิดขึ้น อาจจำเป็นต้องแลกระหว่างไม้สักทอง จำนวนหลายหมื่นไร่ และระบบนิเวศอันอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่ที่จะมีการก่อสร้าง เขื่อนขนาดใหญ่แห่งนี้ กับการบริหารจัดการลุ่มน้ำยม ที่สร้างปัญหาให้กับกรมชลประทาน มาโดยตลอด
โครงการสร้างกระเช้าลอย ฟ้าขึ้นภูกระดึง จังหวัดเลย ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่มีวัตถุประสงค์สำคัญอยู่ที่ การอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะเด็กและผู้สูงอายุที่ต้องการเดินทางขึ้นภูกระดึง แต่ความสะดวกสบายต้องแลกกับต้นไม้หลายพันต้นที่ต้องหักโค่นไป เป็นระยะทางยาวหลายสิบกิโลเมตร เพื่อทำทางขึ้นภูกระดึง
นี่ยังไม่รวม ถึงโครงการถมทะเลก่อสร้างเมืองใหม่ ซึ่งเป็นนโยบายใหม่ของรัฐบาลชุดนี้ ที่ทำท่าว่าจะต้องสละทรัพยากรธรรมชาติ จำนวนมหาศาลในการดำเนินการ หากจะมีการลงทุนทำจริงๆ
กระแสการต่อต้านจากเหล่าเอ็นจีโอ ก็คงจะรุนแรงไม่แพ้กัน!!
นอก จาก "ของร้อน" ที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรธรรมชาติแล้ว งานด้านการบริหาร ที่เป็นของร้อนๆ อย่างเรื่องไอเดียการนำเงินกองทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศ ไปซื้อบ่อก๊าซ-บ่อน้ำมัน เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน ทั้งที่กองทุนสำรองฯ เป็นของต้องห้ามที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงและเสถียรภาพทางการเงินของประเทศ ซึ่งรัฐบาลหลายชุดที่ผ่านมา ก็มีความพยายามที่จะโยกมาใช้ แต่ไม่เคยสำเร็จ และถูกกระแสตีกลับอย่างหนักว่า จะเอาสมบัติของชาติไปผลาญ
เช่นเดียว กับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับกัมพูชาที่พลิกหน้ามือเป็นหลังมือ ทันทีที่เปลี่ยนรัฐบาล โดยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ เสนอแนวคิดทันทีที่เข้าบริหารประเทศว่า จะนำพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นกรณีพิพาทกันมาอย่างหนักตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา ขึ้นโต๊ะเจรจาพัฒนาร่วมกันให้เป็นแหล่งปิโตรเลียม ก็กำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ว่าหากเกิดขึ้นจริง เงื่อนไขข้อตกลงที่เกิดขึ้น ฝ่ายไทย จะตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบซ้ำรอยเหมือนกรณีเขาพระวิหารอีกหรือไม่
ดู เหมือนเพียงชั่วไม่กี่เดือน สถานการณ์ไทย-กัมพูชาพลิกผัน จากสู้รบยิงกระสุนใส่กัน มีทหารบาดเจ็บล้มตายแทบนับไม่ถ้วน แต่พอเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ กลับจูบปากกันแบบดูดดื่มโดยไม่มีสาเหตุ แม้รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์และรัฐบาล สมเด็จฮุน เซน จะไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจ
แต่เชื่อว่า คนไทยทั้งประเทศคงจะยังปรับใจรับไม่ทัน!!
ยิ่ง ไปกว่านั้น "เผือกร้อน" ที่น่าจะก่อให้เกิดความรู้สึกมากที่สุด น่าจะเป็นกระแสข่าวการคืนพาสปอร์ตเล่มแดงให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะพี่ชายของนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ซึ่งแม้ว่ากระทรวงการต่างประเทศภายใต้รัฐมนตรีคนใหม่ที่ชื่อ สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล จะปฏิเสธว่า ยังไม่มีการดำเนินการในเรื่องนี้ แต่นายสุรพงษ์กลับให้สัมภาษณ์ในทำนองเปิดช่องว่า ถ้าในอนาคตจะต้องหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาคุย จะทำทุกอย่างตามขั้นตอนกฎหมาย รวมถึงท่าทีของหลายประเทศ ที่เริ่มปล่อยวีซ่าให้ พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าประเทศได้ ไม่ว่าจะเป็น เยอรมนี หรือ ญี่ปุ่น
พร้อมๆ กับข่าวยืนยันว่า ประเทศญี่ปุ่นตกลงให้วีซ่า พ.ต.ท.ทักษิณ เข้าประเทศได้แล้ว!!
เป็น การดำเนินการแบบทันทีทันควัน หลังจากรู้ผลชนะเลือกตั้ง และพรรคเพื่อไทยได้เข้ามาเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ทั้งๆ ที่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ เพิ่งจะขอเวลาจากประชาชนในการทำงานเพื่อพิสูจน์ฝีมือ
และ ประชาชนคนไทยยังไม่ทันได้ลืมว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ได้ประกาศไว้ชัดเจนตอนที่รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นนายกรัฐมนตรี ว่าจะไม่ทำอะไรเพื่อคนกลุ่มเดียว
ยิ่งไปกว่านั้น ช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง คนในพรรคเพื่อไทยก็ยืนยันชัดเจนว่า ในช่วง 1-2 ปีนี้ จะมุ่งทำงานเพื่อรับใช้ประชาชนอย่างเดียว จะยังไม่มีการหยิบยกเรื่องการเดินทางกลับเข้ามาในประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ ขึ้นมาหารือ
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า นอกจากจะยังไม่เริ่มดำเนินการตามนโยบายที่หาเสียงไว้ กลับมีแต่เรื่องที่ไม่ได้เป็นนโยบาย และเป็น "ประเด็นอ่อนไหว" ที่ถูกหยิบยกขึ้นมาทำก่อน ซึ่งนอกจากจะไม่ช่วยให้ภาพลักษณ์ของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยดูดี เป็นที่น่าไว้ใจ
ได้แต่เตือนว่า ระวัง "ของร้อน" จะลวกมือ!!
ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง
ข่าวจากสื่อ
- เครือข่ายประชาธิปไตยแห่ผูกผ้าดำหน้าศาลรธน. จี้ทบทวนมติ
- นายกฯ เปิดงาน"เทศกาลเที่ยวเมืองไทยในปี 2555"
- "ศันสนีย์"โฆษกรัฐบาลคนใหม่เผยพร้อมประชาสัมพันธ์งาน รบ.เชิงรุก
- ชี้ทางออก"ปรองเดือด"สู่"ปรองดอง"
- เสื้อแดงแจ้งธาริตเอาผิดมาร์ค-สุเทพฐานสร้างความปั่นป่วน
- ห่วงบานปลาย คอป.ห้ามทัพ พท.-ศาลรธน.
- นปช.นัดชุมนุมขับไล่ศาล รธน. พร้อมล่ารายชื่อถอดถอนใน 2 สัปดาห์
- "พานทองแท้" สอนมวย "มาร์ค"-จี้ขอโทษประชาชน ฐานปล่อยส.ส.โชว์เถื่อนในสภา
- ใช้ปมแก้รธน. ยุบเพื่อไทย ดูดสส.ตั้งรบ.
- "สมศักดิ์ เจียมฯ" เสนอรบ.-สภา "ชน" ศาลรธน. จี้พท.-นปช.ทบทวนยุทธศาสตร์การเมืองทั้งหมด
- นิติราษฎร์" แถลงชี้-ศาลรัฐธรรมนูญไม่มีอำนาจชะลอการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
- นิติราษฎร์แถลงชี้คำสั่งศาลรธน.ชะลอแก้รธน. 'ไร้อำนาจ'
- งามแต้ๆ เจ้า! "นายกฯ ปู" แต่งชุดพื้นเมือง-ผ้าซิ่นสีชมพูแอ่วเมืองพะเยา ปชช.แห่ต้อนรับเพียบ (ชมภาพชุด)
- กกต.เชียงใหม่เตรียมรับรองผลเลือกตั้งส.ส.ใน 7 วัน-"เกษม" ขอบคุณปชช.
- "จาตุรนต์"ปลุกกระแสต้าน"รัฐประหาร" ชี้ปม"ศาลรัฐธรรมนูญ"สั่งสภาฯระงับพิจารณาร่างรธน.
- “จาตุรนต์” ชี้ อำนาจประชาชนถูกปล้น- “ชนชั้นนำ” ไม่อยากปรองดอง - คาดเกิด “ยุบพรรค” อีกรอบ
- "ปู"ทำบุญเปิดหอฉันวัดเชียงบาน ชาวพะเยากว่า2,000คนต้อนรับแน่น
- อาจารย์เกษียร เสียดาย "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" คิดได้แค่นี้หรือ..!?!
- ขึ้นป้ายไล่"หมอวรงค์"ทำคนพิษณุโลกอับอาย
- โลกออนไลน์ เบื่อหน่ายพฤติกรรม ส.ส. ศึกชิงเก้าอี้ประธานสภา
- "เรืองไกร" ฉวย! ยื่นผู้ตรวจการแผ่นดินสอบ "ณัฎฐ์" ดูคลิปหวิวในสภา อ้างนำความเสื่อมเสียมาสู่สภาฯ
- แกนนำนปช...."อย่าเป็นวัวลืมตีน"
- ข่าว"เหตุเกิดในมาเลเซีย" ข่าว"เมด อิน ไทยแลนด์" ข่าวกระพือ"ไฟใต้"
- "ณัฐวุฒิ" สวน "กรณ์" ขวางปรองดอง-ไม่ทวงข้อเท็จจริง "10เมษา" ตั้งแต่ยุค "รบ.อภิสิทธิ์"(ชมคลิป)
- เสียงก้องจาก 2 กูรู "ตุลาการ" ไม่มีอคติ ไม่มีล็อบบี้ ไม่มีใบสั่ง
- "ทักษิณ"เข้าสักการะพระธาตุหลวง-เผยซึ้งใจได้ทำบุญ แกนนำแดง อดีต ส.ส. แห่รับพรึบ (ชมคลิป)
- "จตุพร" ท้าตั้ง คตส.ตรวจสอบการทำงาน "มาร์ค-ชวน" เหมือนกับที่ทำกับ "ทักษิณ" ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
- "หาดใหญ่"อ่วมซ้ำ ไฟไหม้โรงงานเฟอร์นิเจอร์กลางเมืองวอดเรียบ!
- "ทักษิณ"ทำบุญสีบชะตาที่ลาว ลั่นไม่นานเกินรอกลับไทย ขบวนแดงแห่ร่วมคึก
- “แม้ว” ทำบุญในลาวแฟนคลับเสื้อแดงแห่รับเพียบ
บทความจากสื่อ
- ประชาธิปัตย์...เปลี่ยนเถอะ !โดย ฐากูร บุนปาน
- กฤษฎีกาชี้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งชะลอลงมติร่าง รธน.วาระ 3 ไม่เคยเกิดขึ้นในโลก บอกไร้ช่องทางต่อสู้
- เกม"แก้ รธน.291" สภาชน"ศาลรัฐธรรมนูญ" เกมค่ายกล′ยุบพรรค′?
- ปัญหา"มาตรา68" สกัด"ร่างแก้ไขรธน. แหลมคมจาก"นิติราษฎร์"
- งามหน้าสภาไทย ! เมื่อท่านประธานฯ ถูกจี้คาบัลลังก์
- แกะกล่อง "หัวใจสองสี" ขัตติยา สวัสดิผล
- "ทักษิณ-เพื่อไทย"ปรับแผน เปลี่ยน"รูปมวย"...รู้จัก"รอ" ย้ำภาพ"ฝ่ายมีเปรียบ"
- ฐากูร บุนปาน : เจรจา-ผิดตรงไหน?
- พระราชทานเครื่องราชฯ 'มหาปรมาภรณ์' แก่นายกฯ
- ซ่อนหลัง"หน้ากาก"
- ดร.โกร่ง คนเดินตรอก : การบริหารจัดการมหเศรษฐกิจ
- ยอดคลิกทะลุ! รวมข่าวที่มีคนอ่านมากที่สุดใน "มติชนออนไลน์" ประจำวันที่ 6เม.ย.2555
- วิเคราะห์ปัญหา-ค้นคว้าทางออกของเหตุความรุนแรงภาคใต้กับ "ชัยวัฒน์-รอมฎอน"
- ปฏิบัติการ "ป๋า" ภาค 2 สู้ "นารีพิฆาต" กับปากคำ "บิ๊กบัง" เรื่อง "ป๋า" และการเมืองแสนซับซ้อน ในมุม "ประยุทธ์"
- กลุ่มสตรีมองปมร้อน'โฟร์ซีซั่นส์'
- ดูกันชัดๆ บทบาทฝ่ายค้าน เล่นของ ว. 5 ปักทิ่ม ยิ่งลักษณ์ เอาให้ตาย!!
- ต่อสู้ 2 แนวทาง เพื่อไทย ประชาธิปัตย์ กรณี โฟร์ซีซั่นส์
- นิวัฒน์ธำรง-ลงธรรมาสน์ ธุดงค์ในทำเนียบ เผยแพร่ลัทธิเพื่อไทย กางสูตรรัฐบาล + พล.อ.เปรม = การเมืองนิ่ง
- ยกร่าง′รัฐธรรมนูญ′ และความห่วงใย ล็อกสเปก′สภาร่างฯ′
- "กุนซือ" คิด "ปคอป." พูด ข้อมูล-คีย์เวิร์ด "เยียวยา"