ส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองบ้านเมือง

ข่าวจากสื่อ

บทความจากสื่อ

Thursday, 25 August 2011

ไม่ใช่แค่หมอวิชัย

ที่มา ข่าวสด

คอลัมน์ เหล็กใน
มันฯ มือเสือ



ตอนแรกนึกว่าเป็นเรื่องของคณะอนุกรรมการชุด หมอวิชัย โชควิวัฒน เป็นประธานเท่านั้น สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติไม่มีส่วนรู้เห็น

กรณีแถลงรายงานการสอบข้อเท็จจริง "อีเมล์ ซื้อสื่อ"

ทั้ง ที่ในรายงานคณะอนุกรรมการเองก็สรุปไม่ได้ว่ามีการซื้อหรือติดสินบนสื่อจริง แต่แทนที่เรื่องจะจบ อนุกรรมการกลับกระทำการเลยเถิดไปจากหัวข้อตรวจสอบ

กล่าวหาหนังสือพิมพ์ 3 ฉบับ ข่าวสด มติชน และไทยรัฐ เอนเอียงเข้าข้างยิ่งลักษณ์และเพื่อไทย ไม่เข้าข้างอภิสิทธิ์กับประชาธิปัตย์

โดยวัดจากการลงภาพข่าวหน้า 1 การพาดหัวข่าว และการลงโฆษณา

หลัง แถลงผลสอบ หมอวิชัย ยังรีบไปให้การคดีที่ประชาธิปัตย์หยิบเอา "อีเมล์ซื้อสื่อ" นี้มาเป็นมูลเหตุยื่นต่อกกต. เสนอให้ยุบพรรคเพื่อไทย

ขณะที่ประชาธิปัตย์ก็นำรายงานของอนุกรรมการนี้เข้ายื่นเพิ่มเติมต่อกกต.เช่นกัน

อย่าง ที่บอกตอนแรกนึกว่าสภาการหนังสือพิมพ์ฯ ในฐานะผู้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการชุดนี้ขึ้นมา ยังไม่ได้ประทับตรารับรองผลสอบตามที่หมอวิชัยแถลง

แต่ปรากฏว่า นายสุนทร จันทร์รังสี รองประธานสภาการหนังสือพิมพ์ฯ ยืนยันเองว่า ผลสอบดังกล่าวผ่านการรับรองเห็นชอบของสภาการหนังสือพิมพ์ฯ เรียบร้อยแล้ว

แต่ อ้างว่าเป็นแค่รายงานเบื้องต้น ไม่ใช่การวินิจฉัยขั้นสุดท้าย ยังมีขั้นตอนที่หนังสือพิมพ์ผู้ถูกกล่าวหาสามารถยื่นอุทธรณ์โต้แย้งได้ภายใน 20 วัน

อยากรู้จริงๆ ว่าคนสภาการหนังสือพิมพ์ฯ ทั้งหมดเห็นชอบในกรณีนี้ด้วยหรือไม่

อีกเรื่องที่แปลกก็คือ นายสุนทร บอกด้วยว่าการนำเสนอข่าวในทำนองต้องการลดความน่าเชื่อถือของคณะอนุกรรมการ เป็นสิ่งไม่ควรกระทำ

เนื่องจากทุกท่านเป็นผู้ทรงคุณวุฒิภายนอก เสียสละเวลามาทำงานให้สภาการหนังสือพิมพ์ฯ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน

เพื่อช่วยขจัดข้อสงสัยทางจริยธรรมที่สังคมกำลังเคลือบแคลงต่อองค์กรสมาชิก และผู้ประกอบวิชาชีพหนังสือพิมพ์ที่ถูกกล่าวหา

ที่ ว่าแปลกก็เพราะ ทีตัวเองเที่ยวกล่าวหาดิสเครดิตคนอื่นได้เป็นวรรคเป็นเวร พอเขาออกแถลงการณ์ตอบโต้บนหลักการของการตรวจสอบอย่างมีเหตุมีผล และเป็นไปตามจรรยาบรรณวิชาชีพ

ดันบอกว่าเป็นสิ่งไม่ควรกระทำ

อย่างนี้ใครกันแน่ที่มีปัญหาทางจริยธรรมให้สังคมต้องเคลือบแคลง