วันที่ 8 ส.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาล ว่า ภายหลังจากนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนทน์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เข้าเฝ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีแล้ว เมื่อเวลา 18.08 น. นายพิทูร พุ่มหิรัญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร อัญเชิญพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งนายกฯ มายัง สำนักอาลักษณ์และเครื่องราชอิสริยาภรณ์ สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายสมชาย พฤติกัลป์ ที่ปรึกษาเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เป็นผู้มารอรับ เพื่อดำเนินการขั้นตอน การลงตราพระราชลัญจกร (พระราชลัญจกร คือ ตราประจำรัชกาล ที่พระมหากษัตริย์ทรงใช้ประทับ กำกับพระปรมาภิไธยและประทับกำกับเอกสารสำคัญ ที่ออกในพระปรมาภิไธย) โดยใช้เวลาประมาณ 18 นาที เมื่อเสร็จแล้ว เลขาธิการธิการสภาผู้แทนราษฎรได้อัญเชิญพระบรมราชโองการไปยังสถานที่จัดพิธี รับสนองพระบรมราชโองการ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย
สำหรับบรรยากาศที่ทำการพรรคเพื่อไทยนั้น คึกคักตั้งแต่ช่วงบ่าย โดยกลุ่มเสื้อแดงจำนวนมากทยอยเดินทางมาปักหลักติดตามชมพิธีที่บริเวณโถงชั้น ล่างของพรรคจนแน่นขนัด จนเจ้าหน้าที่เปิดห้องประชุมชั้น 2 สำหรับพักผ่อนอิริยาบท และติดตั้งโทรทัศน์สำหรับถ่ายทอดบรรยากาศให้รับชม เตรียมไว้ให้เป็นสัดส่วน ระหว่างรอเวลากลุ่มเสื้อแดงรวมตัวด้านหน้าพรรคพร้อมตะโกน “ยิ่งลักษณ์ นายกๆ” และบางส่วนถ่ายรูปร่วมกับส.ส. ขณะที่ภาคประชาชนนำกระเช้าดอกไม้มาแสดงความยินดี โดยเจ้าหน้าที่พรรคนำเครื่องตรวจวัตถุต้องสงสัยคอยตรวจกระเช้าดอกไม้อย่าง ละเอียด ทั้งนี้พล.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 เดินทางมาตรวจความเรียบร้อย ในการดูแลรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ชุดปะฉะดะ และหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด หรืออีโอดี โดยรอบที่ทำการพรรค
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวหลังเสร็จสิ้นพิธีรับสนองพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เป็นนายกฯ มีเนื้อหาโดยสรุป ว่า ในวาระที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งนายกฯ เพื่อรับสนองพระบรมราชโองการ รับใช้เบื้องพระยุคลบาท ประเทศชาติและประชาชน ถือเป็นเกียรติยศอันสูงสุดและเป็นมิ่งมงคลแก่ชีวิตอย่างหาที่สุดมิได้ ตนพร้อมทุ่มเท มุ่งมั่นอย่างเต็มที่ และจะอุทิศตนเพื่อตอบแทนบุญคุณแผ่นดินให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติ และประชาชนตลอดไป
และขอปวารณาตนที่จะนำความรู้ ความสามารถและสติปัญญาทุ่มเททำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตและตั้งใจอย่าง เต็มที่ เพื่อนำพาประเทศชาติของเราไปสู่ความสงบสุข ความสามัคคีปรองดอง และมีเจตนารมณ์แน่วแน่ที่จะเข้ามาทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน ตระหนักดีว่าการเป็นนายกฯหญิงในสถานการณ์ขณะนี้ เป็นความท้าทายและความคาดหวังอย่างมากจากพี่น้องประชาชน แต่เชื่อมั่นว่าความเป็นผู้หญิงจะไม่เป็นอุปสรรคในการทำงาน ในทางตรงข้ามความเข้มแข็งที่ควบคู่กับความอ่อนโยน การรับฟังปัญหาทัศนะที่แตกต่างจะช่วยให้เราเห็นทางเลือกใหม่ๆ ในการแก้ปัญหาได้ง่ายขึ้น
“ดิฉันจะมุ่งมั่น สร้างสุข สลายทุกข์ ให้แก่พี่น้องประชาชนอย่างสุดกำลังความสามารถ จะไม่ทำเพื่อกลุ่มใด กลุ่มหนึ่ง แต่จะทำเพื่อประเทศชาติและคนไทยทุกคน”